เฮรอนผ่าตัดให้มองชงโดยมีโดยังเป็นผู้ช่วย การผ่าตัดสำเร็จไปด้วยดี ทำให้นักเรียนแพทย์ชื่นชมเฮรอนและดูแคลนหมออัลเลนที่วินิจฉัยโรคผิด
“นี่มันหูฟังของหมอ ไม่ใช่เหรอครับ”
“ท่านกำลังจะเปลี่ยนจากนักศึกษาไปเป็นแพทย์จริง ๆ แล้วนี่นา ข้าคิดว่าท่านจำเป็นต้องใช้” ซ๊อกรันบอก แต่ฮวางจองไม่กล้ารับ “โอย..ของมีค่าอย่างนี้” แต่ซ๊อกรันคะยั้นคะยอให้รับ “ท่านคู่ควรแล้ว ท่านเหมาะที่จะรับมันไว้ เพราะท่าน.. สมควรจะได้รับมันไว้ พอเป็นแพทย์ฝึกหัด ตั้งใจใช้มันให้ดีล่ะ”
“ขอบคุณมากเลยครับ”
“ข้าคงต้องกลับแล้วล่ะ”
ซ๊อกรันขอตัวกลับบ้าน ฮวางจองจึงขอเดินไปส่ง
“ท่านยังจำได้มั้ย? เมื่อก่อนท่านก็เคยเดินมาส่งข้า ตอนกลับมาจากบ้านใต้เท้ามกไงล่ะ” ซ๊อกรันชวนคุยระหว่างเดิน
“ตอนปฏิวัติ แล้วใต้เท้ามินถูกคนทำร้ายในครั้งนั้นเหรอครับ”
“นี่เป็นทางที่เราเดินตอนนั้น”
“แถมตอนนั้น คุณหนูยังได้เล่าเรื่องนึงให้ข้าฟังด้วยนะ คุณหนูจำได้มั้ย?”
“หืม? ชาวตะวันตกที่ตัดผมโกนหนวดให้คนอื่น เค้าเรียกคนพวกนี้ว่าช่างตัดผมน่ะ มีดที่คนพวกนี้ใช้โกนหนวด ก็กลายมาเป็นที่มาของมีดผ่าตัดที่แพทย์ตะวันตกใช้กันในทุกวันนี้น่ะ”
“อย่างนี้ก็หมายความว่า ชนชั้นต่ำก็สามารถเป็นหมอได้น่ะสิ” ฮวางจองโพล่งขึ้นน้ำเสียงดีใจ
“ใช่ เพราะว่าใช้มีดโกนจนชำนาญถึงทำได้ ถ้าเทียบกับชาวโชซอนแล้ว..คงเปรียบได้กับคนฆ่าสัตว์” ซ๊อกรันหยั่งเชิง
“คนฆ่าสัตว์?” ฮวางจองรำพึง
“ก็คนฆ่าสัตว์ชำนาญในการใช้มีดนี่ แถมยังทำรองเท้าหนังได้ด้วย ฝีมือการเย็บก็คงชำนาญเหมือนกัน ใช้มีดผ่าแล้ว แล้วก็ใช้เข็มเย็บ เหมือนเปี๊ยบเลย”
ฮวางรีบจำกลบเกลื่อน “แหะ นั่นสินะ ฟัง ๆ ดูก็มี..เหตุผลนะ ฮ่า ๆ ๆ เหมือนเปี๊ยบเลย ฮ่า ๆ ๆ”
“น่าสนใจเนอะ”
“ใช่ น่าสนใจ แล้วก็วิเศษด้วย เริ่มต้นมาจากชนชั้นต่ำเหรอ?”
“เรื่องเล่าเรื่องนั้นของคุณหนูเปลี่ยนชีวิตข้าโดยสิ้นเชิง ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว รีบเข้าบ้านเถอะครับ” ฮวางจองเมื่อเดินมาถึงบ้านซ๊อกรัน
“ท่านเคย..เช็กแฮนด์รึเปล่าคะ?”
“เคยจับมือกับหมออัลเลนครับ”
“ข้าเองก็เคยจับมือกับหมออัลเลนเหมือนกัน” ซ๊อกรันส่งมือให้ฮวางจองจับ นึกถึงตอนที่เธอป่วยหนัก และฮวางจองกุมมือเธอพร้อมกับสารภาพความในใจรวมไปถึงเรื่องที่เขาคือ โชกึนแกพวกฆ่าสัตว์ แต่ปลอมตัวจนสามารถเข้าเป็นนักเรียนแพทย์ได้ คืนนั้นฮวางจองนอนไม่หลับนึกถึงแต่ซ๊อกรัน
หมออัลเลนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยทูต ซึ่งพระเจ้าโกจงจะไปตั้งสถานทูตโชซอนที่อเมริกา และให้เฮรอนมาเป็น ผอ.เจจุงวอนแทน ทำให้มีข่าวว่าหมออัลเลนถูกปลด
“โชซอนทำสัญญากับอเมริกา ทำให้ทั้งสองเป็นมิตรประเทศกันมาตลอด ถึงวันนี้ก็ 5 ปีแล้วสิ ข้าได้แต่งตั้งให้ใต้เท้ามินยองอิกเป็นผู้นำคณะทูตไปอเมริกาพร้อมกับทหารราบส่วนนึง หมออัลเลนรู้เรื่องใช่มั้ย?”
“เพื่อจะให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศพัฒนามากขึ้นไปอีกขั้น ข้าจะตั้งสถานทูตที่อเมริกา และส่งรองเจ้ากรมราชทัณฑ์ให้เดินทางไปเป็นทูตประจำที่สหรัฐอเมริกา ด้วยเหตุนี้ข้าจึงจะส่งหมออัลเลนผู้ที่เชี่ยวชาญประเพณีและภาษาของโชซอน ให้เป็นผู้ช่วยในการเดินทางไปอเมริกาในครั้งนี้ เพื่อให้ความช่วยเหลือกับท่านทูตคนใหม่ ท่านคงไม่ปฏิเสธนะ”
“พ่ะย่ะค่ะ เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้นพ่ะย่ะค่ะ”
“ท่านชื่อเฮรอนใช่รึเปล่า?”
“ใช่พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท”
“ข้าแต่งตั้งให้ท่านมาเป็นผู้อำนวยการคนใหม่ของเจจุงวอนแทน”
“พ่ะย่ะค่ะ เป็นพระกรุณาพ่ะย่ะค่ะ”
พอรู้ว่าเฮรอนได้เป็น ผอ.เจจุงวอน คูฮอน ผู้จัดการโอ และโดยังดีใจมากเพราะจะได้กำจัดฮวางจองได้ง่ายขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาหมออัลเลนให้ท้ายฮวางจองมาตลอด
“แต่ว่าในเมื่อเจ้าเดินมาบนทางของการเป็นหมอ อย่าว่าแต่ตำแหน่ง ผอ.เจจุงวอนเลย สักวันเจ้าอาจได้เป็นหมอหลวงก็ได้ หึ แล้วถ้าได้เป็นหมอหลวง ก็เท่ากับขุนนางระดับสามเชียว” คูฮอน บอกโดยัง “เป็นขุนนางระดับสาม มีศักดิ์เท่ากับราชเลขา หรือว่าหัวหน้าสำนักการศึกษาหลวงเลย ผู้จัดการโอยังไม่เคยได้เลย” คูฮอนหัวเราะเสียงดัง
ฮวางจองเสียใจมากที่หมออัลเลนจะต้องจากไป หมออัลเลนยืนยันว่าจะติดต่อฮวางจองบ่อย ๆ พร้อมกับได้มอบบันทึกทางการแพทย์ต่าง ๆ ที่เขาเรียนและเขียนไว้ให้ฮวางจองเป็นที่ระลึกด้วย
“นี่เป็นบันทึกทางการแพทย์ ตอนผมอยู่เจจุงวอน ผมเขียนตั้งแต่การรักษาขั้นพื้นฐาน ไปจนถึงบันทึก บทความจากนิตยสารการแพทย์ รวมถึงแลนเซ็ท ผมบันทึกเอาไว้ เพื่อเป็นคู่มือระหว่างที่ผมรักษาคนไข้ ผมอยากยกมันให้กับคุณน่ะ”
หลังจากหมออัลเลนเดินทางไปกับคณะทูต เฮรอนก็ขึ้นบริหารเจจุงวอนเต็มที่ โดยมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง พร้อมกับเรียกประชุมทุกคน
“สิ่งที่ผมจะพูดมีแค่เรื่องเดียว และเรื่องนั้นก็คือ การอุทิศตน ทุกคนที่นี่จะต้องมีจิตใจที่พร้อมอุทิศตนเพื่อคนไข้ได้เสมอ ถ้าใครก็ตามที่ยังไม่พร้อมที่จะยอมอุทิศตัวเองเพื่อคนไข้ละก็ ขอให้ออกไปจากที่นี่ด้วยตัวเอง ไม่อย่างนั้น ผมอาจจะไล่ออกไปเอง”
เฮรอนกำลังพูดอยู่ ฮวางจองซึ่งเพิ่งไปส่งหมออัลเลนก็เดินเข้ามา “นี่เป็นการเรียกประชุมครั้งแรกของผอ.คนใหม่ พวกคุณไปไหนกันมา?”
“ต้องขอโทษด้วยครับ คือพวกข้าไปส่ง ผอ.อัลเลนมาครับ” ฮวางจองบอก
“มันสำคัญขนาดนั้นเชียวเหรอ ถ้าเทียบกับการประชุมน่ะ” เฮรอนตำหนิตรง ๆ
“ต่อไปเราจะระวังครับ”
“ต่อไปนี้ นักศึกษาแพทย์ทุกคนจะต้องผลัดเปลี่ยนกันอยู่เวร เพราะคนไข้ป่วยตอนไหน หรือว่าป่วยเป็นอะไร ไม่มีใครรู้ล่วงหน้า อีกอย่าง คนไข้จะมารักษาที่นี่เมื่อไหร่ ก็ไม่มีใครรู้เหมือนกัน เพราะฉะนั้น พวกเราจำเป็นจะต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลา” เฮรอนประกาศ
ฮวางจองดูเร่งรีบเมื่อโกมาเข้าเวรแทนเขา ฮวางของบอกว่าเขาต้องไปที่แห่งหนึ่งและกังวลว่าจะต้องบอกเฮรอน เพราะเฮรอนสั่งว่าหากไปไหนต้องบอก โกเดาว่าฮวางจองคงนัดกับซ๊อกรันก็เลยดักคอล้อ ๆ
“ก็แค่บอกว่าไปบ้านเพื่อนก็หมดเรื่อง เฮ้อ เป็นอย่างนี้แล้ว จะไปคบกับซ๊อกรันได้ยังไงกัน”
“ไม่ ไม่ใช่นะ ไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย”
ฮวางจองรีบปฏิเสธ เพราะไม่อยากให้ซ๊อกรันเสียหาย
“ไม่ใช่ก็แล้วไป รีบไปเร็วเข้าเถอะ”
“ขอบใจเจ้ามาก เอ่อ งั้นข้าไปละ”
“ไม่ต้องขอบใจ อย่าลืมเชิญข้าไปงานแต่งก็แล้วกัน”
“บอกแล้วว่าไม่ใช่เรื่องนั้น” ฮวางจองพยายามปฏิเสธ แต่โกไม่เชื่อ
ซ๊อกรันคิดถึงหมออัลเลนจึงนัดฮวางจองมาพบและเอาพลุที่หมออัลเลนเคยให้ไว้เป็นของขวัญมาจุด
ซ๊อกรันคิดถึงหมออัลเลนจึงนัดฮวางจองมาพบและเอาพลุที่หมออัลเลนเคยให้ไว้เป็นของขวัญมาจุด
“พอจุดไฟก็จะมีดาวเต็มท้องฟ้าไปหมดน่ะ”
“แหม..คุณหนูโกหกข้ามั้ง?”
“จริง ๆ นะ นักศึกษาฮวางท่านอาจไม่รู้ว่า เพราะไอ้เจ้าพลุนี่แหละที่ทำให้ข้ามีโอกาสได้พบและได้รู้จักกับท่านน่ะ”
“อ้อ ถ้างั้นมันก็คือ พลุที่ช่วยชีวิตข้าด้วยใช่รึเปล่า?”
“ใช่ วันนั้นข้าตกใจจนลืมเก็บกลับมา พอวันรุ่งขึ้นมักเซงก็ไปเก็บมาให้”
“เอ่อ แต่ว่า ทำไมถึงเอามา..”
“วันนี้ตอนที่ไปส่งคุณหมออัลเลน จู่ ๆ ข้าก็นึกขึ้นมาได้ว่า ข้ารู้สึกอยากจะดูดอกไม้ไฟกับนักศึกษาฮวางน่ะ คือข้ารู้สึกเหมือนว่าที่มันถูกจุดไม่หมด เพื่อรอจุดให้เราได้ดูมันพร้อมกัน อธิษฐานเร็วเข้า”
“พื้นเย็นมากนะครับ” ฮวางจองบอก
“ก็นั่นน่ะสิ”
“แฮะ ๆ ตอนพลุลูกแรกพุ่งไป เพราะกำลังตกใจ เลยไม่ทันอธิษฐาน แต่ว่า..ตอนพลุลูกที่สอง ตั้งตัวทันแล้ว..เลยได้อธิษฐาน”
“แล้วอธิษฐานว่าอะไรล่ะ ท่านบอกข้ามาเถอะ แล้วข้าจะบอกว่าอธิษฐานอะไร” ซ๊อกรันอยากรู้
“ข้าเคยมีบางอย่างที่จะบอกคุณหนูใช่มั้ยครับ? ข้าอธิษฐาน ขอให้เรื่องนั้นจงเป็นความลับตลอดไป ไม่รู้ว่าการอธิษฐานแบบนี้ โลภเกินไปรึเปล่า?” ฮวางจองถอนหายใจอย่างหนักหน่วง
“ไม่หรอกค่ะ เพราะข้าเองก็..อธิษฐานอย่างนั้นเหมือนกัน”
คำพูดของซ๊อกรันทำให้ฮวางจองตะลึง เพราะเหมือนกับว่าซ๊อกรันรู้เรื่องของเขาทุกอย่าง
วาตานาเบ้มาดูลาดเลาที่เจจุงวอน พยาบาล ซูซูกิจำฮวางจองได้จึงบอกวาตานาเบ้ว่านักเรียนแพทย์คนหนึ่งคือคนฆ่าสัตว์
วาตานาเบ้มาดูลาดเลาที่เจจุงวอน พยาบาล ซูซูกิจำฮวางจองได้จึงบอกวาตานาเบ้ว่านักเรียนแพทย์คนหนึ่งคือคนฆ่าสัตว์
เจจุงวอนต้องรักษาทหารของต้าชิงที่บาดเจ็บจากการสู้รบ ทำให้ยาฆ่าเชื้อหมด
“ท่านพ่อบอกว่า ยาที่ทางเราได้สั่งจองเอาไว้ กว่าจะมาถึงอย่างน้อยก็ประมาณ 15 วัน” ซ๊อกรันบอก
“ควรจะมีการคำนวณสต๊อกยาเอาไว้ เพื่อจะได้สั่งจองไว้ก่อนล่วงหน้า แล้วผู้จัดการทำอะไรกันอยู่?” เฮรอนถามเสียงเฉียบ
“แฮ่ม ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาหาคนรับผิดชอบ ท่าน ผอ. ทางต้าชิงมี..ความสัมพันธ์อันดีกับพระมเหสีมาก ถ้าหากเราส่งกลับไปโดยไม่รักษา ถ้ามีการคาดโทษไม่รู้ว่าเจจุงวอนจะเป็นไง ไม่ว่ายังไงก็ต้องรักษาพวกเค้าก่อน”
“ข้า.. คิดว่าพอจะมีวิธีอยู่บ้าง คือว่าดอกเตอร์อัลเลน” พอฮวางจองเอ่ยชื่อหมออัลเลน ทำให้เฮรอนแปลกใจ
“ครับ..ท่านเคยเขียนในบันทึกไว้ว่า ในสถานการณ์อย่างนี้ควรจะรับมือยังไง ท่านอ่านเจอจากนิตรสารแลนเซ็ท เอ่อ มีนายแพทย์อังกฤษ เจอคนเจ็บแอฟริกัน พอกไปด้วยดินโคลนแล้วเป็นช่วงเวลาที่ยาใช้หมดแล้ว แพทย์คนนั้นเลยใช้ดินรักษาแผลคนเจ็บ”
“เหอะ ๆ ใช้ดินรักษาเหรอ เจ้าพูดบ้าอะไรเนี่ย หะ จะให้พวกเราเอาดินพอกแผล รักษาทหารต้าชิงรึไง เจ้าอยากเห็นจุดจบของเจจุงวอนเรอะ? หะ?”
“ถึงจะเป็นวิธีที่เขียนอยู่ในแลนเซ็ท แต่ก็ไม่ใช่วิธีที่ดี” โดยังพยายามหักหน้าฮวางจอง
“ไม่หรอก ผมเคยทำยาฆ่าเชื้อที่อเมริกา ดินก็เป็นส่วนผสมตัวนึงในยาของผมด้วย วิธีการรักษาแผลด้วยดิน ก็ดูมีเหตุผล” เฮรอนเห็นด้วย
“แต่ถึงมันจะเป็นดิน ก็ไม่ใช่ว่าจะใช้ดินได้ทุกอย่างนี่ครับ เราไม่มีทางรู้ว่าดินอย่างไหน ที่ใช้แล้วจะได้ผลในทางรักษา” โดยังพยายามแก้
“ใช้ดินเหลืองก็ได้ครับ มีครั้งนึงข้าเคยเห็นหมอสัตว์ เอาดินเหลืองพอกลงบนตัว ของวัวที่กำลังบาดเจ็บอยู่ครับ มีหลายแบบ ดินเหลืองเหนียว หรือว่าดินภูเขา แต่ข้าได้ยินมาว่า ดินเหลืองทองแดง ใช้ได้ผลในทางรักษาที่สุด ข้าว่า เราควรไปถามหมอรักษาสัตว์ ว่าเราจะไปหาดินเหลืองทองแดงได้จากที่ไหน”
“เหอะ ๆ พูดอะไร หมอสัตว์อย่างนั้นเหรอ นี่เจ้ากำลังแนะนำให้พวกข้าใช้ดิน ที่มีไว้สำหรับรักษาสัตว์มาใช้รักษาคนเนี่ยนะ หะ?” ผู้จัดการโอแย้ง
“เฮ้อ ๆ ๆ ท่าน ผอ. ข้ารู้สึกอายจังที่มาตรฐานของนักศึกษาเจจุงวอนต่ำแบบนี้ ฮะ ๆ ๆ” คูฮอนหัวเราะเยาะฮวางจอง ผู้จัดการโอก็ผสมโรงด้วย
“ให้ข้าไปทดลองดูก่อนเถอะ ข้าจะลองไปที่สถานทูตญี่ปุ่น ข้าคิดว่าน่าจะขอยาจากพวกเค้ากลับมาได้” โดยังเสนอ
“นั่นน่ะสิ ถ้านักศึกษาเบ๊กไป พวกเค้าคงต้องรีบให้มาแน่ ๆ” คูฮอนยกยอหลานชายตนเอง
“หมอวาตานาเบ้เพิ่งจะมาที่นี่ เค้าเห็นสถานการณ์แล้ว คิดว่าน่าจะยอมช่วย”
เฮรอนมอบหมายให้โดยังไปขอยาฆ่าเชื้อจากวาตานาเบ้ ทำให้คูฮอน และผู้จัดการโอหัวเราะเยาะฮวางจอง แต่ทั้งคู่ก็หน้าเสียเฮรอนเอ่ยขึ้น
“ไม่ใช่อย่างนั้น เพื่อป้องกันเอาไว้ก่อน นักศึกษาฮวางไปหาดินเหลืองมา”
ฮวางจอง ชักแทไปตามหาดินเหลือง โดยซ๊อกรันไปช่วยหาด้วย ขณะที่โดยังไปพบวาตานาเบ้เพื่อขอยาฆ่าเชื้อ แต่วาตานาเบ้ไม่ให้โดยบอกว่ายาของเขาก็เหลือเพียงลอตสุดท้ายแล้วเช่นกัน โดยังกลับมาบอกเฮรอนและบอกว่าจะไปขอยาจากโรงพยาบาลที่แจมัลโป คูฮอนพูดเยาะ ๆ ต่อหน้าเฮรอนว่าโดยังทุ่มเทเพื่อเจจุงวอน แต่ฮวางจองไม่รู้ว่าหายไปไหน ทันใดนั้นฮวางจองก็กลับมาพร้อมกับดินเหลือง
เจจุงวอนเอาดินเหลืองไปรักษาทหารต้าชิง คนป่วยเห็นเป็นดินก็สงสัย “มันดินไม่ใช่เหรอ?”
“เอ่อ ท่านพูดอะไรดินอะไรกันครับ ยาตัวนี้เป็นยาที่ทำขึ้นเพื่อรักษาให้ทหารของท่าน มันถูกทำขึ้นมาโดยเฉพาะเลยนะครับ”
“ช่วยบอกหน่อยว่ามันชื่อยาอะไร”
ผู้จัดการโอถึงกับใบ้กิน บอกไม่พูด “เอ่อ..คือว่า..” ฮวางจองเลยพูดแทรกขึ้น “เทราเฟอร์ม่าครับ ดอกเตอร์อัลเลนเคยเรียกมันว่าอย่างนี้ครับ”
เฮรอนเสริมขึ้น “มันเรียกว่าเทราเฟอร์ม่า น่ะ ยานี้จะช่วยในการฆ่าเชื้อ และทำให้หนองที่แผลแห้ง นักศึกษาฮวาง คุณหายาเทราเฟอร์ม่าได้ ต้องขอบคุณคุณมาก” เฮรอนหันมาพูดกับฮวางจอง ฮวางจองยิ้ม ซ๊อกรันกระซิบแซวฮวางจอง “ว่าแล้วว่าเค้าต้องชมท่าน”
เฮรอนคิดจะหาคนมาช่วยเขาทำงาน
“ผมมาได้หนึ่งสัปดาห์เศษ คิดว่าพอจะรู้สภาพการณ์ดีแล้ว ดังนั้นผมจึงอยากคัดเลือกผู้ช่วยหนึ่งคน มาช่วยรักษาคนไข้ โดยสามารถเป็นตัวแทนของพวกนักศึกษาแพทย์ ในการมาช่วยผมรักษาและช่วยดูแลผู้ป่วย ในมือ..ผมมีคะแนนของนักเรียนที่หมออัลเลนเคยบันทึกเอาไว้”
เฮรอนพูดต่อ “ในนี้มีบันทึกเหตุผลที่ทุกคนอยากเป็นหมอ รวมถึงคะแนนประเมินด้านต่าง ๆ อยู่ด้วย ผมจะคัดเลือกผู้ช่วยมาหนึ่งคน โดยอาศัยบันทึกนี้รวมถึงจากที่ผมเฝ้าสังเกตมาหลายวัน”
เฮรอนพูดยังไม่ทันจบ พอน ฮัน และโก ต่างก็มั่นใจว่าฮวางจองจะต้องได้รับเลือก เฮรอนกำลังพิจารณาเลือกผู้ช่วย โดยใช้ข้อมูลจากบันทึกของหมออัลเลนมาร่วมพิจารณา โดยังอยากได้ตำแหน่งจึงไปขอเฮรอนและเสนอตัวขอเป็นผู้ช่วย
“ผมจะเป็นคนเลือกผู้ช่วยเอง” เฮรอนบอก
“ข้าหมายความว่าข้าอยากเป็น ข้าจะทำอย่างเต็มที่” โดยังกล่าวอย่างมั่นใจ
“แต่ผมไม่ได้ตั้งใจจะให้นักศึกษาเบ๊กเป็นผู้ช่วยผม” เฮรอนพูดตรง ๆ
“เอ่อ โปรดรอสักครู่ ข้ารู้ว่าหมออัลเลนมีอคติกับข้า เค้าไม่มีทางให้คะแนนข้าดีแน่ อ่านคะแนนของหมออัลเลนแล้วอาจเข้าใจผิด..” โดยังพยายามหาเหตุผล
“ไม่ใช่อย่างนั้น หมออัลเลนให้คะแนนคุณไว้สูงมาก แต่คะแนนที่ผมให้ต่างจากเค้า” เฮรอนบอก
“หมายความว่ายังไง?”
“นักศึกษาเบ๊กเป็นชนชั้นสูง เป็นสายเลือดตระกูลสูง คนแบบนี้ไม่มีทางอุทิศตัวเองเพื่อคนไข้และเพื่อนร่วมงาน ผมเองก็เฝ้าสังเกตคุณมาหลายวันแล้ว คุณมีคุณสมบัติโดดเด่นกว่าคนอื่นหลายอย่าง แต่คุณมักจะยืน..อยู่เหนือเพื่อนนักเรียน และอยู่เหนือคนไข้เสมอ นักศึกษาแพทย์เช่นนี้ หากได้เป็นผู้ช่วยแพทย์ นักเรียนคนอื่นและคนไข้คงจะรู้สึกเหนื่อย”
โดยังไม่ละความพยายาม “ข้าจะลองเปลี่ยนตัวเอง”
“คุณเติบโตมาในตระกูลชนชั้นสูง คนแบบคุณไม่มีทางที่จะเปลี่ยนแปลงได้ง่าย ๆ หรอกครับ”
“ข้าจะเปลี่ยนให้ได้ ให้เวลาข้าอีกหน่อยเถอะ ข้าจะค่อย ๆ เปลี่ยนทีละนิดเอง”
“ทำไมผมจะต้องรอจนกว่าคุณจะเปลี่ยนตัวเองด้วยล่ะ บ่ายวันพรุ่งนี้ผมจะเริ่มรักษาคนไข้ และตอนนั้น ผมก็ต้องการผู้ช่วยในการรักษาคนไข้ของผมแล้ว” เฮรอนพูดดับความหวังของโดยังทันที
เนื้อหา: เดลินิวส์ / ภาพจากละคร (เอสบีเอส)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา