ฮวางจอง เข้าต่อสู้เพื่อให้ซ๊อกรันหนี แต่นางทำสมุดบันทึกหล่น และลื่นไถลล้มลง ฮวางจองมาช่วยเพื่อไปหลบซ่อนตัว จนกลุ่มชายที่เก็บค่าผ่านทางตามหาไม่เจอและยกพวกกลับไป ซ๊อกรันได้ยินเสียงสัตว์ป่า ฮวางจอง จึงเสนอให้หาที่หลบกันก่อน รอให้ฟ้าสางแล้วค่อยเดินทางกันต่อ จากนั้นก็ออกไปหาฟืนเพื่อก่อไฟ
“ฟืนพวกนี้คงพอใช้แล้วล่ะ” ซ๊อกรัน กล่าว
“ใช่ คราวนี้เราคงจะอุ่นขึ้นเยอะเลย”
“อืม”
“คุณหนูไม่ต้องเป็นห่วงไปนะ ไม่ว่ายังไงพ่อท่านก็ต้องปลอดภัยแน่”
“ข้าไม่ดีเอง ข้าควรจะรอให้เช้าก่อน แล้วค่อยมาตามคน” ซ๊อกรัน กล่าว
“อ้อ ไม่ใช่หรอกครับ ในเวลาเร่งด่วนจะมัวเสียเวลาไม่ได้ แต่ท่านก็อย่ากังวลจนเกินไป ตอนนี้คงยังทันการอยู่ ถ้าเรารีบออกเดินทางกันแต่เช้า ก็คงพอจะพาตัวพยานไปถึงกองปราบได้ทันเวลาอย่างแน่นอน”
“ขอให้จริงเถอะ จะไปทันแน่ใช่มั้ย?” ซ๊อกรัน กล่าว
“อ้อ ต้องทันสิครับ ยังไงเราก็ต้องไปให้ทัน”
“ตอนข้าเด็ก ๆ ทุกครั้งที่พ่อต้องเดินทางไปที่เซี่ยงไฮ้หรือปักกิ่ง ท่านก็จะจับตัวข้ามาแต่งตัวเป็นเด็กผู้ชาย”
“แปลว่ามีประสบการณ์ปลอมตัวเป็นผู้ชายมาก่อน” ฮวางจองถาม
“ด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าท่านพ่อจะไปอยู่ที่ไหน ข้าก็จะคอยอยู่ข้าง ๆ ท่านเสมอ ไม่ว่าข้าจะอยู่ที่ไหน ท่านพ่อก็จะคอยคุ้มครองอยู่ตลอด จนกระทั่งวันนึงข้ากับพ่อไปเดินตลาด ตอนนั้นข้าเห็นกระบอกส่องดาวเข้า ข้ามัวสนุกกับกระบอกส่องดาวหลากสี หันมาดูอีกที ท่านพ่อก็หายไปแล้ว ตอนนั้นข้ากลัวมาก และครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่ข้ารู้สึกได้ว่า ข้าอาจจะเสียท่านพ่อไปแล้ว ถึงเรื่องนั้นจะนานมาแล้ว แต่ข้ากำลังรู้สึกเหมือนกับตอนนั้น แต่ที่มันแปลกก็คือ พักนี้ข้ามักจะฝันว่า ข้าต้องเสียท่านไป แทนที่จะฝันว่าต้องเสียท่านพ่อไป ข้ากลัวว่าข้าจะต้องอยู่คนเดียว ข้าไม่อยากจะต้องเจอเรื่องแบบนั้นอีกแล้ว” ซ๊อกรัน กล่าว
“ข้ารู้ว่าข้าไม่มีสิทธิจะพูดคำนี้กับท่าน แต่ข้ารู้สึกว่าการที่ใต้เท้ายูพาคุณหนูไปพบเจอโลกที่กว้างใหญ่ ก็เพราะว่าท่านต้องการให้คุณหนูกลายเป็นคนที่มีความเข้มแข็ง ท่านจะต้องเข้มแข็ง เพราะว่าเมื่อใจเป็นทุกข์ มันก็จะส่งผลทำให้ร่างกายล้มป่วยได้ แต่ทำไมคุณหนูถึงคิดว่าจะเหลือตัวคนเดียวได้ล่ะครับ คุณหนูยังมีคนที่คอยช่วยเหลืออยู่รอบตัวตั้งเยอะ คำที่พูดแล้วให้ความรู้สึกท้อแท้แบบนี้ อย่าพูดอีกเลยนะ”
มองชง กับโดยัง มาสอบถามคนไข้ที่เคยเป็นโรคผิวหนัง เรื่องการรักษาโดยใช้กำมะถัน แต่ไม่ได้รับคำตอบ จึงเดินทางไปอีกบ้านพบกับคนไข้ที่เคยรักษาที่เจจุงวอน เมื่อชาวบ้านรู้ว่ามาจากเจจุงวอนก็ต้อนรับอย่างดี
“เจ้าเป็นใคร?” มองชง ถาม
“ก็ข้าไง ที่ปีที่แล้วพวกท่านมาผ่าตูดให้ข้าที่บ้านไงลืมกันไปแล้วเหรอ ฮ่ะ ๆ ปัดโธ่ งั้นเดี๋ยวข้าเปิดให้ดูก็คงนึกออก”
“อ้อ... คนไข้ที่นักศึกษาฮวางยอมเป็นตัวประกันให้ไง คนที่ไปรักษาแล้วถูกทุบมือนั่นไงล่ะ” มองชง กล่าว
“ตอนนี้สบายดีแล้วใช่มั้ย?” ชักแท ถาม
“ใช่ ข้าสบายดีอย่างที่เห็นนี่แหละ ฮ่ะ ๆ อ้อแต่ว่า ดึกป่านนี้แล้วพวกท่านมาทำอะไรกันล่ะ พอตกดึก พวกโจรจะออกมาดักปล้นอันตรายจะตาย มันเสี่ยงมากเลยนะ ดูสิ ดูนั่นสิ พวกข้ายังเพิ่งจับโจรมาได้คนนึง ฮิ ๆ ๆ”
“อะไรกันเนี่ย คุณชายเบ๊ก นั่นจักรยานคุณหนูนี่” ชิลบก กล่าว
ชาวบ้านบอกกับโดยังว่าได้จัดเวรยามเพื่อมาลาดตระเวนแถบนี้กันทุกวัน วันนี้ก็เจอโจรเข็นจักรยานแล้วเอามาไว้ตรงนี้นี่แหละครับ
“แล้วผู้หญิงกับผู้ชายที่ขี่จักรยานหนีไปทางไหนกัน” โดยัง ถาม
“พวกเค้าบอกว่าหนีไปทางเขาโน้นครับ”
“หนีขึ้นไปบนเขาเหรอ?” มองชง ถาม
“พวกเค้าคงจะปลอดภัยนะ”
“อากาศทั้งหนาวทั้งมืด รีบไปตามหากันดี มั้ย?” ชิลบก กล่าว
“แต่ว่าไปตอนนี้คงอันตรายมาก”
“แต่เราก็ไม่รู้เลยนะ ว่าจะมีพวกโจรโผล่ออกมาที่ไหนหรือว่าเมื่อไหร่น่ะ?”
“เราจะรออย่างนี้ไม่ได้ พวกเจ้าแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มนึงขึ้นเขาไปตามหาคุณหนูซ๊อกรัน อีกกลุ่มให้อยู่นี่รอคุณหนูลงมา ถ้ากลุ่มไหนได้พบกับคุณหนูซ๊อกรันแล้ว ให้รีบมาแจ้งกับข้าในทันที” โดยัง สั่ง
“แล้วท่านจะไปรอที่ไหน?” มองชง ถาม
“ข้าจะไปที่เจจุงวอนไม่ก็ไปกองปราบ ข้ายังต้องลองหาหนทางเพื่อช่วยใต้เท้ายูอีกทางนึงหลักฐานที่ซ๊อกรันไปเอามายังรับประกันไม่ได้ว่าจะช่วยใต้เท้าได้จริง ๆ” โดยัง กล่าว
“ครับ ตกลงตามนี้ครับ”
“ช่วยเอาจักรยานไปส่งที่เจจุงวอนทีได้มั้ยครับ?” โดยัง บอกชาวบ้าน
โดยัง มาหาหมอเฮรอน ขอร้องให้ช่วยใต้เท้ายูด้วย
“จุดยืนของผมบอกไปชัดเจนแล้วนี่” หมอ เฮรอน กล่าว
“หรือ ผอ.คิดว่า ใต้เท้ายูซื้อกำมะถันเข้ามาเพื่อผลิตกระสุนปืนจริงล่ะ” โดยังถาม
“แต่ผมก็ไม่ได้เป็นคนสั่งกำมะถันเข้ามาจริง ๆ เพราะฉะนั้น เรื่องนี้ผมคงไม่สามารถช่วยเหลือพวกคุณได้หรอก”
“แต่ว่านี่เป็นการโกหกเพื่อช่วยชีวิตของคนนะครับ”
“แต่ยังไงมันก็เป็นการโกหกเหมือนกัน”
“นี่เป็นการช่วยชีวิตคน ๆ นึงนะ”
“พัคโซซา นั่นคุณทำอะไรน่ะ?” เฮรอน ถาม
“คะ? อา...ต้องขอโทษด้วยค่ะ ขอโทษนะคะ” โซซากล่าว
“ผมบอกไปแล้วว่า การโกหกจะนำปัญหาที่ใหญ่ยิ่งกว่ามาให้เรา อีกอย่าง นักศึกษาเบ๊กที่นี่เป็นห้องผู้ป่วย ผมกำลังรักษาคนไข้อยู่ เชิญออกไปได้ พัคโซซา ผมจะพันแผลให้เอง คุณไปหยิบกรรไกรมาที” เฮรอน กล่าว
“ค่ะ”
ฮวางจอง พาซ๊อกรันเดินทางไปหมู่บ้านที่มีคนไข้โรคผิวหนัง ระหว่างทางพบกับมองชง ชักแทและชิลบก ด้านหมอฮอร์ตั้น ได้มาเข้าเฝ้าพระเจ้าโกจง ทูลว่าล่ามยูไม่ได้ทำผิดขอให้ยกโทษให้ด้วย
“ความดีความชอบของเค้าข้าก็รู้ดี แต่ว่า สิ่งที่ทำให้ข้านึกไม่ถึงก็คือ การทำผิดกฎหมายแบบนี้ นอกจากนั้น เค้ายังนำเข้าของต้องห้ามที่ผิดกฎหมายเข้ามาด้วย” พระเจ้าโกจงตรัส
“แต่เรื่องนี้ เบื้องหลังอาจจะมีใครจงใจใส่ร้ายล่ามยูก็เป็นได้ อย่าได้ทรงเชื่อคำพูดพวก ขุนนางเลวจนต้องเสียขุนนางภักดีเพคะ”
“ใช่เพคะ ช่วงที่ผ่านมาล่ามยูเป็นคนช่วยซื้อยาให้เจจุงวอนตลอด เค้าไม่ได้ค่าตอบแทนเลย เค้าเป็นคนเที่ยงตรงมาก ลูกสาวก็เป็นคนจิตใจดีนะ ซ๊อกรันถือเป็นเด็กดีมากเพคะ” หมอฮอร์ตั้น กล่าวทูล
“นี่หมอฮอร์ตั้น ทำไมถึงพูดจา ก้าวล่วงพระราชาอย่างนั้นล่ะ”
“สำหรับข้าแล้ว ล่ามยูเป็นขุนนางที่หาได้ยาก แต่ว่าข้าเองก็จะเมินเฉยกับฎีกาที่ร้องเรียนเข้ามาไม่ได้หรอก”
“แม้แต่พระเจ้ายังเข้าข้างพวกเรา เพราะเราค้นเจอหลักฐานมัดตัวจนดิ้นไม่หลุดแน่ มีกำมะถันหีบใหญ่ที่บ้านเค้า”
“โอ้ จริงเหรอเนี่ย ทำไมถึงเอาไปไว้ในบ้านนะ ถ้าเกิดมันระเบิดตูม...ฮ่า ๆ ๆ”
“ข้าเองก็คิดเหมือนกัน ถ้าเป็นล่ามคนอื่น ข้าไม่กล้ารับรองว่าจะโดน แต่ล่ามยูไม่มีทางถูกปล่อยตัวง่าย ๆ แน่” หัวหน้าศาล กล่าว
“อา ข้าไม่เข้าใจเลย ว่าเค้าเริ่มเดินทางผิดตั้งแต่เมื่อไหร่?” ทูตญี่ปุ่น กล่าว
“ตอนนี้ข้าคง ต้องรีบกลับไปศาล ไต่สวนเพื่อจัดการกับคดีนี้ต่อ ข้าคงต้อง...ขอตัวก่อน” หัวหน้าศาล กล่าว
“อืม...คนทำผิดจะได้รับโทษที่สาสมใช่มั้ย? หึ ๆ ๆ”
พระเจ้าโกจงเสด็จมาไต่สวนด้วยพระองค์เอง เมื่อใกล้ได้เวลา โอบอกกับโดยังให้รีบเข้าไป
“ข้าไปสืบหาคนส่งฎีกาเรื่องนี้แล้ว เค้าชื่อวอนยองมิน เคยมีตำแหน่งในกรมต่างประเทศน่ะ ถูกเนรเทศ หลังจากเหตุปฏิวัติ เค้าเป็นตัวตั้งตัวตี ให้คนเขียนฎีกา” โอ กล่าว
“เป็นได้ว่ามีคนบงการอยู่เบื้องหลัง พวกถูกปลดหลังการปฏิวัติ ส่วนใหญ่จะมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพวกญี่ปุ่น” โดยัง กล่าว
“เรื่องนั้นข้าก็ไม่ค่อยแน่ใจ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ แน่ โดยัง ตอนนี้เราควรจะถอนตัวออกมา”
“ข้าทำไม่ได้ ยังไงข้าก็ต้องช่วยเค้า” โดยัง กล่าว
“เจ้าจะช่วยเค้ายังไงล่ะ ไหนลองบอกให้ข้าฟังหน่อยสิ?”
“ตอนนี้ข้ายังบอกท่านไม่ได้ แต่ถ้าทางเราสามารถหาพยานมาได้ก็อาจจะ...ไม่จำเป็นต้องใช้มันก็ได้”
“แล้วตกลงมันคืออะไรล่ะ เฮ้ โดยัง...”
ฮวางจอง และซ๊อกรัน มาที่ศาลไต่สวนหลักฐานที่พิสูจน์ว่า ใต้เท้ายูไม่มีความผิดมาเพื่อจะยืนยันกับหัวหน้าศาล
“กระหม่อมถูกใส่ร้าย กำมะถันพวกนั้นกระหม่อมซื้อเข้ามาเพื่อให้ทำยาให้เจจุงวอนพ่ะย่ะค่ะ” ใต้เท้ายู กล่าว
“บังอาจ บรรดาอาวุธปืนที่พวกโจรใช้ก่อความวุ่นวาย กระสุนต้องมีกำมะถันเป็นส่วนผสมมันเป็นเป้าหมายที่เจ้าลักลอบนำกำมะถันเข้ามา นี่เจ้ายังมีเป้าหมายจะก่อกบฏด้วยใช่รึเปล่า?” หัวหน้าศาล กล่าว
“ไม่จริงพ่ะย่ะค่ะ เพราะกระหม่อมเป็นขุนนางล่าม ไม่ว่าจะไปทำหน้าที่หรือค้าขายก็ ไม่เคยทำผิดกฎหมายเลย ทรงโปรดพิจารณาด้วย โปรดพิจารณาด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
“ข้าได้รับการให้ปากคำลับจากพวกก่อความวุ่นวาย ว่าพวกนั้นได้กำมะถันมาจากเจ้า”
“พวกกระหม่อมถูกใส่ร้ายกระหม่อมถูกใส่ร้ายพ่ะย่ะค่ะ”
“ฝ่าบาท กระหม่อมไม่เคยจะคิดเรื่องแบบนั้นเลย แม้แต่นิดเดียวพ่ะย่ะค่ะ”
“ฝ่าบาท หลังจากที่เราสืบได้ความจริงทั้งหมดแล้ว ควรที่จะกำจัดเหล่าขุนนางที่เป็นภัยต่อบ้านเมืองทิ้ง ควรจะลงโทษประหาร เพื่อรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย”
“ถ้าอย่างนั้น มีหลักฐานมั้ยว่านำกำมะถันเข้ามาเพื่อทำยา” พระเจ้าโกจง ตรัสถาม
“ฝ่าบาท กระหม่อมสั่งซื้อเข้ามาเพราะได้รับการขอร้องจากหมออัลเลน”
“แต่ตอนนี้อัลเลนอยู่อเมริกาแล้ว จะมาพิสูจน์ได้ยังไง?”
“ฝ่าบาท หัวหน้ากองปราบ อีคังวุคพ่ะย่ะค่ะ”
“มีเรื่องอะไร?”
“มีหลักฐานอยู่ใน...บันทึกของหมออัลเลนว่าต้องการสั่งซื้อกำมะถันเข้ามาเพื่อทำยา และตอนนี้กระหม่อมได้นำตัวคนไข้ที่หมออัลเลนเป็นคนรักษามาเป็นพยานด้วย” คังวุค กล่าวทูล
“ฝ่าบาท พยานคนนี้เชื่อไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ” หัวหน้าศาล ทูล
“ทำไมถึงคิดอย่างนั้น?”
“ต่อให้หมออัลเลน ต้องการใช้กำมะถันเพื่อรักษาคนไข้โรคผิวหนังเป็นเรื่องจริง แต่ก็ไม่จำเป็นจะต้องฝากล่ามยูเป็นผู้ซื้อเข้ามาเสมอไป เค้าสามารถซื้อทางอื่นก็ได้ ส่วนพยานก็สามารถจ้างวานกันได้พ่ะย่ะค่ะ”
“ฝ่าบาท มิสมควรอย่างยิ่งพ่ะย่ะค่ะ ต่อหน้าพระพักตร์กระหม่อมจะกล้า...โกหกหลอกลวงฝ่าบาทได้ยังไงพ่ะย่ะค่ะ”
“บังอาจ เจ้ายังกล้าเปิดปากพูดอีกรึ?”
“ฝ่าบาท เจ้ากรมกลาโหมลีซุนฮอง มีเรื่องที่จะกราบทูลพ่ะย่ะค่ะ” ซุนฮอง กล่าวทูล
“ท่านมีเรื่องอะไร?”
“ในเหตุการณ์ปฏิวัติ ครั้งก่อนบุตรชายของอดีตเจ้ากรมราชทัณฑ์เบ๊กโดยัง ตอนนี้เป็น นักศึกษาแพทย์เจจุงวอนพ่ะย่ะค่ะ”
“เรื่องนั้นข้าเองก็เคยรู้มาก่อนแล้ว”
“พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท เบ๊กโดยังมีจดหมาย ฉบับนึงจะทูลถวายแก่ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”
“ฝ่าบาท กระหม่อมเบ๊กโดยัง นักศึกษาแพทย์จากเจจุงวอน วันนี้กระหม่อมนำจดหมาย จากดอกเตอร์เฮรอนมา กำมะถัน ถือเป็นตัวยาสำคัญในการรักษาโรคผิวหนังตามตำราแพทย์โชซอน ในวิชาการแพทย์ตะวันตกก็เช่นเดียวกัน ดังนั้นผู้อำนวยการอัลเลนจึงได้ฝากให้ล่ามยูสั่งซื้อกำมะถันมา แต่ในเวลานี้เนื่องจากท่านต้องจากไปรับตำแหน่งที่อเมริกา นี่จึงเป็นจดหมายที่หมออัลเลนเขียนฝากฝังเรื่องนี้ไว้”
“หัวหน้าศาลไต่สวน”
“ฝ่าบาท กระหม่อมมีความสงสัยในจดหมายฉบับนี้ ในนี้มีเพียงแต่ชื่อที่...ถูกเขียนเป็นภาษาอังกฤษ แต่เนื้อหาในนั้น ถูกเขียนขึ้นด้วย ภาษาของโชซอนหมด จึงน่าสงสัยพ่ะย่ะค่ะ”หัวหน้าศาลกล่าวทูล
“ฝ่าบาท ในเรื่องนี้ กระหม่อมอธิบายได้พ่ะย่ะค่ะ เป็นเพราะว่า ภาษาโชซอนหมอเฮรอนเป็นคนพูด แล้วสั่งให้กระหม่อมเขียนให้ แต่ลายมือชื่อที่กำกับหมอเฮรอนเป็นคนลงชื่อเอง”
“ฝ่าบาท ใช้เวลาเดินทางเพียง 15 นาทีก็ไปถึงเจจุงวอนแล้วพ่ะย่ะค่ะ ดังนั้นกระหม่อมอยากขอให้เชิญ หมอเฮรอนมาเป็นพยานเองพ่ะย่ะค่ะ”
“ฝ่าบาท พระอาญาไม่พ้นเกล้าพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเกรงว่าเค้าคงมาไม่ได้” โดยัง รีบทูล
“มันจะเกินไปแล้ว นี่เจ้ากล้าเสียมารยาท ต่อหน้าพระพักตร์ขนาดนี้เชียวรึ?”
“ฝ่าบาท เดิมหมอเฮรอนต้องการจะมาที่นี่ด้วยตัวเอง แต่เพราะมีคนไข้ผ่าตัดเข้ามากะทันหัน ท่านจึงจำใจให้กระหม่อมเขียนคำพูดของท่าน ลงในจดหมายแล้วลงชื่อท้ายจดหมาย โปรดพิจารณาด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
“ฝ่าบาท ตอนนี้เค้าอาจจะผ่าตัดเสร็จแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“ยังไม่เสร็จแน่ ตอนที่กระหม่อมออกมา หมอเฮรอนกำลังผ่าตัด เพื่อทำการเปิดหน้าท้องให้กับคนไข้อยู่ เนื่องจากคนไข้มีอาการของไส้ติ่งอักเสบแล้วแตกในท้องจนเชื้อกระจายแพร่ไปทั่ว ดังนั้นการผ่าตัด ต้องใช้เวลามาก บางครั้งอาจจะนานทั้งวัน” โดยังรีบโกหก
“นี่ท่านพูดอะไรของท่านออกมา ท่านคิดที่จะปล่อยให้พระราชาประทับรออยู่ที่นี่ ตลอดทั้งวันอย่างนั้นรึไง?” ซุนฮองกล่าว
“อ้อ แต่ที่นี่ไม่ใช่ที่อื่นนี่ นี่เป็นศาลไต่สวนนะ” หัวหน้าศาลกล่าว
“รู้ทั้งรู้ว่าที่นี่เป็นศาลไต่สวน เจ้ายังกล้าสอบสวนคดีชุ่ย ๆ อย่างนี้อีก” พระเจ้าโกจงตรัส
“ฝ่าบาท พระอาญามิพ้นเกล้าพ่ะย่ะค่ะ”
“มันช่างน่าเศร้าใจนัก ข้าอ่านรายงานคำให้การที่ทางกองปราบส่งมา มีจุดบกพร่องอยู่ไม่น้อย เมื่อนึกถึงประวัติความประพฤติล่ามยู ข้าคิดว่า ..ถึงแม้ว่าล่ามยูจะถูกจับกุม แต่ในความเป็นจริงแล้วคงไม่มีความผิดจริงหรอก ดังนั้นข้าจะ...ตัดสินให้ล่ามยูพ้นข้อกล่าวหา” พระเจ้าโกจงตรัส
“ฝ่าบาท”
“ฝ่าบาท เป็นพระมหากรุณายิ่ง” โดยัง กล่าวทูล
“กฎหมายไม่เคร่งครัดยากจะปกครองได้ การลงโทษไม่เด็ดขาด สังคมยากสันติ คนทำผิดกฎหมาย ต้องได้รับโทษสถานหนัก คนไม่มีความผิดก็จะต้องได้รับการปลดปล่อยตัว กฎหมายบ้านเมืองจึงจะมีความศักดิ์สิทธิ์ หัวหน้าศาลไต่สวน ท่านไปตรวจสอบคำให้การลับที่ท่านได้มาใหม่ซะ แล้วก็ตรวจสอบคำแจ้งความที่เกี่ยวกับล่ามทั้งสองใหม่”
“ฝ่าบาท เป็นพระมหากรุณายิ่งพ่ะย่ะค่ะ” ยู กล่าวทูล
“ท่านพ่อพ้นผิดแล้ว” ซ๊อกรันกล่าว
“ถือเป็นโชคดีจริง ๆ คุณหนู” ฮวางจอง กล่าว
“ฝ่าบาท เป็นพระกรุณายิ่งพ่ะย่ะค่ะ” หลายคน กล่าวทูล
ซ๊อกรัน มารอรับพ่อที่ได้รับการปล่อยตัวหลังไต่สวน
“นี่เจ้ามาทำอะไรในที่แบบนี้หะ?”
“ท่านพ่อคะ”
“ใต้เท้ายู พ้นเคราะห์พ้นภัยสักทีนะครับ คุณชายเบ๊ก ท่านคงเหนื่อยมากแล้ว” ฮวางจอง กล่าว
“ข้าไม่เท่าไหร่หรอก เจ้ากับซ๊อกรันก็เหนื่อยเหมือนกัน ข้าไม่ได้ทำอะไร”
“ไม่ใช่หรอก ที่พ่อข้าพ้นเคราะห์ ก็เพราะได้คุณชายช่วยเอาไว้”
“เอ่อ คุณชายครับ ท่านปล่อยข้าลงเถอะ ปล่อยข้าเดินเองเถอะ” ยูกล่าว
“ถ้างั้น ข้าแบกให้เองดีกว่า” ชักแทกล่าว
“ข้าจะคุ้มครองท่านไปเอง” มองชงกล่าว
“ไม่ต้อง ให้ข้าพาไปเองเถอะ” โดยัง กล่าว
ใต้เท้ายู มาหาหมอเฮรอนที่เจจุงวอนเพื่อรักษาแผลที่ถูกลงโทษ
“ไม่เป็นอันตรายถึงกระดูก มีแค่แผลฉีกเลือดออก เป็นอาการบาดเจ็บภายนอก รักษาไม่นานก็หายได้เหมือนเดิม” หมอเฮรอนกล่าว
“เอ่อ ๆ ข้าต้อง ขอบคุณทุกคนมาก โดยเฉพาะท่าน ผอ.เฮรอน เป็นเพราะท่านแท้ ๆ ที่ทำ...ให้ข้ารอดชีวิตมาได้”
“เอ๊ะ?” หมอเฮรอนประหลาดใจ
“ใต้เท้ายูครับ เรื่องขอบคุณไว้พูดกันวันหลังเถอะ ตอนนี้แผลท่านยังไม่หาย สภาพจิตใจก็ยังไม่ปกติ ตอนนี้ท่านควรจะนอนพักผ่อนสักระยะนึงก่อน” โดยังกล่าว
“อืม ขอบใจทุกคนมาก ข้าจะต้องตอบแทนพระคุณนี้อย่างแน่นอน”
“พอได้ยินแค่นั้น ท่านก็เดาออกแล้วเหรอ พอข้าได้ยินว่าท่านกับซ๊อกรันไปตามหาคนป่วยโรคผิวหนัง ข้าก็สังหรณ์ใจว่าหลักฐานแค่นั้นคงจะช่วยใต้เท้ายูไม่ได้ ดังนั้นถ้าอยากแก้ปัญหาเรื่องนี้ก็จะต้องให้หมอเฮรอนมารับรอง แบบนี้เรื่องนี้ ก็จะน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น”
“ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ แต่ว่า...”
“ตอนนั้นข้าไม่มีทางเลือกอื่น เพราะข้าไม่มีทางพูดให้หมอเฮรอนยอมช่วยเหลือได้”
“แต่ว่า ถ้าเกิดหมอเฮรอนมารู้ความจริงเรื่องนี้...”
“อย่างเลวร้ายที่สุดก็แค่ออกไปจากเจจุงวอนเท่านั้น นักศึกษาฮวางข้าไม่รู้สึกเสียใจกับการทำแบบนี้เลย ถึงจะบอกว่าวิธีแบบนี้มันอาจไม่ถูกต้องแต่ว่า มันคือทางเลือกที่ดีที่สุด ต่อให้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นอีกครั้ง และถ้าหากคนรับเคราะห์เป็นใต้เท้ายูข้าก็ยังเลือกที่จะทำเหมือนเดิม”
โอ มาบอกคูฮอน เรื่องโดยังโกหกต่อหน้าพระพักตร์ คูฮอน กลัวเรื่องถูกเปิดโปงขึ้นมา จึงไปหายูก่อนที่จะออกจากโรงพยาบาล
“เดี๋ยวก่อน ว่าไง เพราะได้โดยังของข้า ช่วยออกหน้าหรอก เจ้าถึงได้เอาชีวิตรอดน่ะ”
“ท่านผู้จัดการ” ซ๊อกรันกล่าว
“เอ่อ ข้าเองรู้สึกขอบคุณ คุณชายโดยังมาก” ยูกล่าว
“ขอบคุณเหรอ รู้มั้ย...เพื่อช่วยเจ้าออกมา เนี่ยโดยังหลานข้าถึงกับเขียนจดหมายหลอกพระราชาเชียว รู้มั้ยว่าโทษคืออะไร นี่มันโทษหลอกลวงเบื้องสูงเชียวนะ ไม่รู้ว่าลูกสาวเจ้าไปใช้มารยาอะไรกับเค้ากันแน่ ถึงหน้ามืดตามัวแบบนี้ จะว่าไปตระกูลของเจ้านี่มันก็หน้าด้านไร้ยางอายเหลือเกิน ฮึ้ย มันน่าจะเปลี่ยนคนมาทำตำแหน่งนี้ซะจริง”
วาตานาเบ้ เข้ามารายงานทูตญี่ปุ่น เรื่องที่ทำงานพลาด จนใต้เท้ายูได้รับการปล่อยตัว ซึ่งทูตญี่ปุ่นไม่พอใจโกรธจนความดันขึ้น
“บาดแผลท่านควรจะคอยประคบเย็นเอาไว้ นอกจากช่วยลดอาการบวมแล้ว ยังทำให้บาดแผลหายเร็วขึ้นด้วย ในตอนนี้สีหน้าของท่านดูดีขึ้นมากไม่เป็นอะไรแล้ว”
“ฮะ ๆ ๆ ใช่ คงเพราะได้กลับบ้าน ก็เลยทำให้สบายใจขึ้นมากละมั้ง”
“ข้าควรจะช่วยท่านให้เร็วกว่านี้ ไม่ควรให้ท่านต้องเจ็บตัว เพราะข้าไม่ได้เรื่อง ทำให้ท่านต้องถูกสอบสวนแบบนั้น ต้องขอโทษด้วยครับ”
“โถ คุณชาย พูดอะไรอย่างนั้นล่ะ ถ้าหากไม่ได้คุณชาย พวกข้าคงไม่คิดไม่ฝัน ว่านายท่านจะถูกปล่อยตัวมาได้อย่างนี้ เฮ้อ อุตส่าห์เสี่ยงชีวิต เขียนจดหมายหลอกพระราชาเพื่อช่วยท่านพี่” แม่ซ๊อกรันกล่าว
“คือว่า...เรื่องนั้น”
“คุณชายคะ ขอบคุณที่ท่านยอมเสี่ยง เพื่อช่วยชีวิตพ่อข้า แต่ว่า ท่านเกือบจะต้องเดือดร้อนไปด้วย”
“ทำไมทำอย่างนั้นล่ะ คุณชายเองก็เกือบ ต้องรับโทษไปด้วยแล้ว”
“เพราะว่านี่เป็นวิธีเดียวที่จะช่วยท่านได้ ข้าก็เลยจำเป็นต้องทำ” โดยังกล่าว
“อืม ได้ยินว่า ทางการกำลังตรวจสอบ หาคนใส่ร้ายข้ากับเพื่อน ๆ ที่ทำงานล่ามอยู่ และได้ยินว่าคนอื่น ๆ ก็กำลังจะถูกปล่อยตัวมาด้วยเหมือนกัน”
“ข้าเดาออกแต่แรกแล้ว ถือว่าเป็นข่าวดีของทุกคน”
“แต่ข้าไม่คิดอย่างนั้น แล้วตัวคุณชายล่ะ ถ้าผอ.เฮรอนรู้เรื่องเข้า” ซ๊อกรันถาม
“เดี๋ยวก็คงรู้แล้วล่ะ” โดยังกล่าว
“ข้าเองก็ไม่รู้ว่าจะถูกลงโทษยังไง แต่ในเมื่อทำความผิด ข้าก็ต้องรับการลงโทษ ข้ารู้ว่าวิธีที่ใช้ มันไม่ถูกต้องเท่าไหร่ แต่ข้าไม่ได้รู้สึกว่าข้าทำผิด เพราะสำหรับข้า ท่านเป็นเหมือนพ่อแท้ ๆ ของข้า แล้วท่านจะให้ข้าอยู่เฉยโดยไม่ทำอะไรเลยได้ยังไง”
“โถ คุณชายคะ ต่อให้กราบก็คงตอบแทนได้ไม่หมด โอย คุณชายคะ”
“อย่าทำอย่างนั้นเลย” โดยังกล่าว
“ท่านเคยบอกว่าคนในครอบครัวเคย มีคนเป็นเยื่อหุ้มปอดอักเสบไม่ใช่เหรอ ข้านึกได้เลยมาชวน”
“ครับ ข้าอยากเข้าไปดูด้วยครับ”
“งั้นไปเถอะ ข้าได้บอกกับท่าน ผอ. เอาไว้แล้ว”
หลังได้ติดตามการรักษาของหมอเฮรอน ฮวางจอง ขอบคุณโดยังที่ชวนมา ทำให้ได้เรียนวิชาที่สำคัญมาก
“ไม่ต้องเกรงใจหรอก แต่มีเรื่องนึงที่ข้าอยากรู้ คนที่เคยบอกว่าถูกรักษาด้วยการเจาะหลัง เค้าเป็นอะไรกับท่านกันแน่?”
“เค้าเป็นท่านแม่ของข้า”
“อ้อ อย่างนี้นี่เอง ถึงได้บอกว่าไม่ได้เห็นท่านตอนจากไป”
“ครับ”
“ข้าไม่รู้กระทั่งว่าท่านแม่ของข้าในตอนนี้เป็นหรือตาย ตอนที่ข้าอายุห้าขวบ พ่อของข้าก็ไล่ท่านแม่ข้าออกจากบ้าน ข้าก็เลย...จำหน้าท่านแม่ของตัวเองไม่ได้แล้ว”
“ท่านคงจะทุกข์ใจมากสินะ”
“ใช่ ข้าเคยเป็นทุกข์มาก แต่ตอนนั้นข้ายังโชคดีที่ยังมี ซ๊อกรันคอยปลอบใจข้าอยู่ ข้าพูดเรื่องไร้สาระอะไรไปเนี่ย ใกล้จะถึงวันสอบแล้ว ตั้งใจอ่านหนังสือละกัน”
โดยัง ตัดสินใจจะทำหนังสือไปสู่ขอซ๊อกรัน แต่คูฮอน และเจอุ๊ก ไม่เห็นด้วยที่จะเกี่ยวดองกับตระกูลล่าม แนะนำให้หาผู้หญิงที่มีตระกูลที่ดีกว่าซ๊อนรัน ที่เหมาะแค่เป็นเมียรองเท่านั้น แต่โดยังไม่เชื่อฟัง
มองชง บอกชักแทว่าคุณชายโดยังตามหาอยู่ เขาจึงรีบไปพบ
“เอ่อ คุณชายเบ๊ก ได้ยินว่าท่านเรียกหาข้า”
“อ้อ ใช่แล้ว ตอนแรกว่าจะให้มักเซงไป แต่นึกไม่ถึงว่านางจะกลับไปแล้ว ข้ามีเรื่องจะให้เจ้าช่วยข้าหน่อย เจ้าช่วยเอาจดหมายนี้ไปให้ใต้เท้ายูทีนะ”
“แค่เอาไปส่งให้ใต้เท้ายูเท่านั้นใช่มั้ยครับ?”
“ใช่แล้ว ข้าฝากด้วยนะ จริงสิ พอท่านอ่านจบแล้ว ท่านจะตอบจดหมายกลับมา เจ้าช่วยถือจดหมายกลับมาให้ข้าด้วย”
“อ้อ ครับ”
พระเจ้าโกจงได้พบกับหมอเฮรอนก็ตรัสเรื่องส่งนักศึกษาแพทย์ถึงตัดสินคดีได้โดยราบรื่น
“ฝ่าบาท ผมไม่เข้าใจที่ท่านพูดมา” หมอเฮรอน ทูล
“ก็ในตอนที่ล่ามยูถูกสอบสวน ท่านเป็นคนให้นักศึกษาแพทย์ นำจดหมายมาให้ข้าไง”
“คงเป็นเพราะงานในเจจุงวอนยุ่ง จนลืมเรื่องนี้ไปแล้วมั้งเพคะ ไว้วันหลังหม่อมฉันจะให้หมอหลวงตุ๋นยาบำรุงสมองไปให้หมอเฮรอนหน่อย” มเหสี ตรัส
“ฝ่าบาท เบ๊กโดยังพูดไว้หรือพ่ะย่ะค่ะ”
“ใช่แล้ว ตอนนี้ท่านคงนึกออกแล้วสิ ฮะ ๆ ๆ อ้อ ได้ยินว่าวันนั้นท่านผ่าตัดเปิดท้องคนไข้ แล้วตอนนี้คนไข้คนนั้นหายดีรึยัง?”
ชักแท มารายงาน ฮวางจอง ว่าคุณชายเบ๊กคงต้องวางแผนทำอะไรเกี่ยวกับการสอบสวนคดีของใต้เท้ายู อยู่
“เรื่องมันก็จบไปแล้วเค้าจะมีแผนอะไรได้อีก”
“เฮ้อ มีบ่าวแบบนี้นี่น่าอิจฉาจัง ถ้ารู้อย่างนี้ข้าน่าจะหาคนใช้อย่างเค้ามาช่วยดูแลบ้างก็ดี”
“อย่ามัวพูดมากรีบไปเถอะ จดหมายของคนอื่นจะเปิดอ่านเองไม่ได้”
“ไม่นะ บางทีจดหมาย อาจจะเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของข้อสอบก็เป็นได้นะ”
“อ้อ ทำไมข้าไม่ทันนึกถึงเรื่องนั้นเลย” ชักแทกล่าว
“งั้นเอามาดูสิ เดี๋ยวข้าจะอ่านเอง” โก กล่าว
“ได้ ๆ ๆ ระวังนะ ๆ เบา ๆ หน่อย” ชักแทกล่าว
“เอ่อ ๆ พี่ฮวาง ข้าว่า ท่านควรจะอ่านจดหมายหน่อยนะ” โก กล่าว
“กราบเรียนใต้เท้ายูที่เคารพรัก ข้ามีความชอบในตัวบุตรสาวของท่านยูซ๊อกรัน ผู้เพียบพร้อมในความงามและปัญญา วันนี้ข้าจึงอยากจะมาสู่ขอบุตรสาวกับท่าน หากท่านยินดีเห็นพ้องด้วย จะเป็นเกียรติแก่ตระกูลข้าอย่างยิ่ง ลงชื่อเบ๊กโดยัง” ฮวางจอง อ่านจดหมาย
“เค้าเขียนว่าอะไรเหรอ?” ชักแท ถาม
“อ้อ ไม่มีอะไรหรอก เป็นจดหมายถามไถ่สารทุกข์ของใต้เท้ายูเท่านั้นเอง”
“เฮ้อ นึกว่าอะไร เฮ้ แต่ว่า เรื่องที่เราเปิดจดหมาย ต้องเก็บเป็นความลับนะ” ชักแท กล่าว
จดหมายสู่ขอซ๊อนรันมาถึงมือของใต้เท้ายู แม่ชองซ๊อกรันรู้ก็ดีใจ
“นายหญิงมีเรื่องอะไรถึงได้ดีใจขนาดนี้คะ หึ ๆ” มักเซง ถาม
“ในที่สุดเบ๊กโดยังก็ส่งจดหมายมาสู่ขอลูกสาวของข้าแล้ว ซ๊อกรันของแม่ก็...จะได้เป็นนายหญิงสูงศักดิ์ เป็นข่าวดีพอรึเปล่าล่ะ ห๊ะ ดีใจมั้ย?”
“อะไรนะคะ?” ซ๊อกรัน ตกใจ
“เรื่องจริงเหรอคะ?” มักเซง ถาม
“ใช่แล้ว เบ๊กโดยังเขียนจดหมายสู่ขอลูกอย่างเป็นทางการ”
“คุณหนู”
“จะ จริงสิ นี่ข้าเกือบจะลืมไปเลย เร็วเข้า ท่านพี่ คุณชายเบ๊ก รอจดหมายตอบกลับจากท่านอยู่ ท่านรีบเขียนกลับไปสินะ เค้าเรียกว่าหนังสือ เอ่อ อะไรนะ?”
“อ้อ หนังสือรับคำสู่ขอ” ยู กล่าว
“โอ๊ย อันนั้นแหละ หนังสือรับ รีบเขียนด่วนจี๋เลยนะ”
โก ชวนฮวางจอง ไปยับยั้งหนังสือสู่ขอ ด้านแม่ของซ๊อกรันตื่นเต้นใหญ่
“มือข้าสั่นใหญ่แล้ว แค่ฝนหมึกยังมือสั่นเลย เมื่อคืนข้าเพิ่งจะฝันเห็นมังกร มาวันนี้ก็มีหนังสือสู่ขอแล้ว ฮิ ๆ”
“ท่านพ่อคะ คือข้า...” ซ๊อกรัน กล่าว
“ในตอนนั้นที่พ่อต้องติดอยู่ในคุกคนเดียว คนที่พ่อเป็นห่วงมากที่สุด ก็คือลูกของพ่อ” ยู กล่าว
“ไม่ได้เป็นห่วงข้าหรอกเหรอ?” แม่ซ๊อกรัน ถาม
“นายหญิงคะ”
“ข้างตัวเจ้าไม่มีใครที่ให้พึ่งพิงได้ นี่คือเรื่องพ่อแม่เป็นห่วงมากที่สุด ถ้าหาก...คุณชายเบ๊กโดยัง จะมาเป็นคู่ครองของเจ้าจริงละก็ พ่อก็คิดว่าเค้าเหมาะสมที่สุด”
“โอ๊ย มันแน่อยู่แล้ว มา ท่านพี่รีบเขียนจดหมายตอบเถอะ นี่ค่ะ”
“ครอบครัวของเรา ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ...หนังสือสู่ขอฉบับนี้ เจ้าคงรู้ดีนะ อืม...ซ๊อกรันบุตรสาวของข้า ได้เติบใหญ่จนเป็นสาวแล้ว แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่ได้พบกับคู่ครองที่เหมาะสมกับนางเลย บัดนี้ คุณชายเบ๊กโดยังเผยความประสงค์ ต้องการจะแต่งงานกับนาง เราต่างยินดีและซาบซึ้งเป็นที่สุด และการแต่งงานนี้ถือว่าเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูลเราเช่นกัน”
“ข้าไม่รู้กระทั่งว่าท่านแม่ของข้าในตอนนี้เป็นหรือตาย ตอนที่ข้าอายุห้าขวบ พ่อของข้าก็ไล่ท่านแม่ข้าออกจากบ้าน ข้าก็เลย...จำหน้าท่านแม่ของตัวเองไม่ได้แล้ว”
“ท่านคงจะทุกข์ใจมากสินะ”
“ใช่ ข้าเคยเป็นทุกข์มาก แต่ตอนนั้นข้ายังโชคดีที่ยังมี ซ๊อกรันคอยปลอบใจข้าอยู่ ข้าพูดเรื่องไร้สาระอะไรไปเนี่ย ใกล้จะถึงวันสอบแล้ว ตั้งใจอ่านหนังสือละกัน”
โดยัง ตัดสินใจจะทำหนังสือไปสู่ขอซ๊อกรัน แต่คูฮอน และเจอุ๊ก ไม่เห็นด้วยที่จะเกี่ยวดองกับตระกูลล่าม แนะนำให้หาผู้หญิงที่มีตระกูลที่ดีกว่าซ๊อนรัน ที่เหมาะแค่เป็นเมียรองเท่านั้น แต่โดยังไม่เชื่อฟัง
มองชง บอกชักแทว่าคุณชายโดยังตามหาอยู่ เขาจึงรีบไปพบ
“เอ่อ คุณชายเบ๊ก ได้ยินว่าท่านเรียกหาข้า”
“อ้อ ใช่แล้ว ตอนแรกว่าจะให้มักเซงไป แต่นึกไม่ถึงว่านางจะกลับไปแล้ว ข้ามีเรื่องจะให้เจ้าช่วยข้าหน่อย เจ้าช่วยเอาจดหมายนี้ไปให้ใต้เท้ายูทีนะ”
“แค่เอาไปส่งให้ใต้เท้ายูเท่านั้นใช่มั้ยครับ?”
“ใช่แล้ว ข้าฝากด้วยนะ จริงสิ พอท่านอ่านจบแล้ว ท่านจะตอบจดหมายกลับมา เจ้าช่วยถือจดหมายกลับมาให้ข้าด้วย”
“อ้อ ครับ”
พระเจ้าโกจงได้พบกับหมอเฮรอนก็ตรัสเรื่องส่งนักศึกษาแพทย์ถึงตัดสินคดีได้โดยราบรื่น
“ก็ในตอนที่ล่ามยูถูกสอบสวน ท่านเป็นคนให้นักศึกษาแพทย์ นำจดหมายมาให้ข้าไง”
“คงเป็นเพราะงานในเจจุงวอนยุ่ง จนลืมเรื่องนี้ไปแล้วมั้งเพคะ ไว้วันหลังหม่อมฉันจะให้หมอหลวงตุ๋นยาบำรุงสมองไปให้หมอเฮรอนหน่อย” มเหสี ตรัส
“ฝ่าบาท เบ๊กโดยังพูดไว้หรือพ่ะย่ะค่ะ”
“ใช่แล้ว ตอนนี้ท่านคงนึกออกแล้วสิ ฮะ ๆ ๆ อ้อ ได้ยินว่าวันนั้นท่านผ่าตัดเปิดท้องคนไข้ แล้วตอนนี้คนไข้คนนั้นหายดีรึยัง?”
ชักแท มารายงาน ฮวางจอง ว่าคุณชายเบ๊กคงต้องวางแผนทำอะไรเกี่ยวกับการสอบสวนคดีของใต้เท้ายู อยู่
“เรื่องมันก็จบไปแล้วเค้าจะมีแผนอะไรได้อีก”
“เฮ้อ มีบ่าวแบบนี้นี่น่าอิจฉาจัง ถ้ารู้อย่างนี้ข้าน่าจะหาคนใช้อย่างเค้ามาช่วยดูแลบ้างก็ดี”
“อย่ามัวพูดมากรีบไปเถอะ จดหมายของคนอื่นจะเปิดอ่านเองไม่ได้”
“ไม่นะ บางทีจดหมาย อาจจะเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของข้อสอบก็เป็นได้นะ”
“อ้อ ทำไมข้าไม่ทันนึกถึงเรื่องนั้นเลย” ชักแทกล่าว
“งั้นเอามาดูสิ เดี๋ยวข้าจะอ่านเอง” โก กล่าว
“ได้ ๆ ๆ ระวังนะ ๆ เบา ๆ หน่อย” ชักแทกล่าว
“กราบเรียนใต้เท้ายูที่เคารพรัก ข้ามีความชอบในตัวบุตรสาวของท่านยูซ๊อกรัน ผู้เพียบพร้อมในความงามและปัญญา วันนี้ข้าจึงอยากจะมาสู่ขอบุตรสาวกับท่าน หากท่านยินดีเห็นพ้องด้วย จะเป็นเกียรติแก่ตระกูลข้าอย่างยิ่ง ลงชื่อเบ๊กโดยัง” ฮวางจอง อ่านจดหมาย
“เค้าเขียนว่าอะไรเหรอ?” ชักแท ถาม
“อ้อ ไม่มีอะไรหรอก เป็นจดหมายถามไถ่สารทุกข์ของใต้เท้ายูเท่านั้นเอง”
“เฮ้อ นึกว่าอะไร เฮ้ แต่ว่า เรื่องที่เราเปิดจดหมาย ต้องเก็บเป็นความลับนะ” ชักแท กล่าว
จดหมายสู่ขอซ๊อนรันมาถึงมือของใต้เท้ายู แม่ชองซ๊อกรันรู้ก็ดีใจ
“ในที่สุดเบ๊กโดยังก็ส่งจดหมายมาสู่ขอลูกสาวของข้าแล้ว ซ๊อกรันของแม่ก็...จะได้เป็นนายหญิงสูงศักดิ์ เป็นข่าวดีพอรึเปล่าล่ะ ห๊ะ ดีใจมั้ย?”
“อะไรนะคะ?” ซ๊อกรัน ตกใจ
“เรื่องจริงเหรอคะ?” มักเซง ถาม
“ใช่แล้ว เบ๊กโดยังเขียนจดหมายสู่ขอลูกอย่างเป็นทางการ”
“คุณหนู”
“จะ จริงสิ นี่ข้าเกือบจะลืมไปเลย เร็วเข้า ท่านพี่ คุณชายเบ๊ก รอจดหมายตอบกลับจากท่านอยู่ ท่านรีบเขียนกลับไปสินะ เค้าเรียกว่าหนังสือ เอ่อ อะไรนะ?”
“อ้อ หนังสือรับคำสู่ขอ” ยู กล่าว
“โอ๊ย อันนั้นแหละ หนังสือรับ รีบเขียนด่วนจี๋เลยนะ”
โก ชวนฮวางจอง ไปยับยั้งหนังสือสู่ขอ ด้านแม่ของซ๊อกรันตื่นเต้นใหญ่
“มือข้าสั่นใหญ่แล้ว แค่ฝนหมึกยังมือสั่นเลย เมื่อคืนข้าเพิ่งจะฝันเห็นมังกร มาวันนี้ก็มีหนังสือสู่ขอแล้ว ฮิ ๆ”
“ในตอนนั้นที่พ่อต้องติดอยู่ในคุกคนเดียว คนที่พ่อเป็นห่วงมากที่สุด ก็คือลูกของพ่อ” ยู กล่าว
“ไม่ได้เป็นห่วงข้าหรอกเหรอ?” แม่ซ๊อกรัน ถาม
“นายหญิงคะ”
“ข้างตัวเจ้าไม่มีใครที่ให้พึ่งพิงได้ นี่คือเรื่องพ่อแม่เป็นห่วงมากที่สุด ถ้าหาก...คุณชายเบ๊กโดยัง จะมาเป็นคู่ครองของเจ้าจริงละก็ พ่อก็คิดว่าเค้าเหมาะสมที่สุด”
“โอ๊ย มันแน่อยู่แล้ว มา ท่านพี่รีบเขียนจดหมายตอบเถอะ นี่ค่ะ”
“ครอบครัวของเรา ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ...หนังสือสู่ขอฉบับนี้ เจ้าคงรู้ดีนะ อืม...ซ๊อกรันบุตรสาวของข้า ได้เติบใหญ่จนเป็นสาวแล้ว แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่ได้พบกับคู่ครองที่เหมาะสมกับนางเลย บัดนี้ คุณชายเบ๊กโดยังเผยความประสงค์ ต้องการจะแต่งงานกับนาง เราต่างยินดีและซาบซึ้งเป็นที่สุด และการแต่งงานนี้ถือว่าเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูลเราเช่นกัน”
เนื้อหา: เดลินิวส์ / ภาพจากละคร (เอสบีเอส)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา