กำกับ: ไช่หมินฮั่ว, ตานเหม่ยเจิน, เย่หงเหว่ย
เขียนบท: หลินหลิงหลิง, เฉินซิง
แนวละคร: ดราม่า
จำนวนตอน: 22 (ตอนละ 90 นาทีรวมโฆษณา) / 32 (ตอนละ 60 นาที)
ออกอากาศ: ไต้หวัน - 6 กุมภาพันธ์ 2558 - 3 กรกฎาคม 2558 ทางซานลี่ อี-เทเลวิชั่น (SET)
ไทย - ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 14.00-15.30 น. ทางอมรินทร์ทีวี ตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2559 - 19 พฤษภาคม 2559
"ดั่งสวรรค์สาป (Life Of Pearl)" เป็นละครที่ดัดแปลงมาจากหนังสืออัตชีวประวัติของศิลปินหญิงชาวไต้หวัน "จี้เป่าหยู" ซึ่งร่วมแสดงนำในบทย่าจอมโหด "จี้หวังกุ้ยจือ" ทั้งยังเป็นละครเรื่องสุดท้ายของนักแสดงสาว "หยางเข่อฝาน" (นางเอก) ซึ่งเสียชีวิตหลังพยายามฆ่าตัวตายได้ 12 วัน โดยเธอพยายามผูกคอตายที่บ้านเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2558 พอแฟนหนุ่ม ("จางถิงหู" นักแสดงที่เคยร่วมงานและได้แอบคบหากัน) มาพบเข้าจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลแต่ก็สายเกินไป (ที่ผ่านมาหยางเข่อฝานมักป่วยเป็นโรคเครียดและเคยพยายามฆ่าตัวมาแล้วครั้งหนึ่ง เธอมักคิดมากเรื่องผลงานไม่ค่อยเป็นที่ยอมรับหรือจดจำ) โดยก่อนหน้านี้เมื่อ 3 ปีก่อนเธอเคยบ่นผิดหวังที่พลาดรางวัลนักแสดงสมทบฝ่ายหญิง หลังเสียชีวิตเธอถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลโกลเด้นเบลอีกครั้งในฐานะ 'นักแสดงนำฝ่ายหญิง' จากละครเรื่อง "The New World" (ออกอากาศต้นปี 2015 โดยเธอรับบทนำคู่กับแฟนหนุ่ม) แต่ก็คว้ารางวัลมาครองไม่สำเร็จ
เรื่องย่อ
"ดั่งสวรรค์สาป (Life Of Pearl)" ดัดแปลงจากชีวิตจริงของศิลปินหญิงชาวไต้หวัน "จี้เป่าหยู" เนื้อหาในละครกล่าวถึงเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวและความรักของผู้หญิงสามรุ่น โดยศูนย์กลางของเรื่องอยู่ที่ "จี้เจินจู" ซึ่งเกิดมาอาภัพและมีชะตาชีวิตที่ยากลำบาก แม้กระทั่งตัวเธอเองก็ยังสงสัยว่าตนผ่านพ้นความทุกข์ยาก อุปสรรค และเรื่องราวอันเลวร้ายตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา จนกลายเป็นดาวประดับฟ้าอย่างเช่นทุกวันนี้ได้อย่างไร
ละครเปิดฉากขึ้นในปี 2011 ที่ประเทศสิงคโปร์ "จี้เจินจู" (เจินจู แปลว่า "ไข่มุก") เล่าให้คนดูฟังด้วยใบหน้าเศร้าหมองว่าชีวิตเธอเหมือนต้องคำสาป พอนั่งมองกระจกแล้วเห็นภาพตนเองตอนเด็กๆ เธอก็อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมตอนนั้นเธอถึงช่างกล้าหาญและสามารถฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการ ผิดกับเธอในตอนนี้ที่จิตใจอ่อนแอและไร้ซึ่งความกล้า
ย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) ณ กรุงไทเป สองสามีภรรยา "จี้เย่าหลิน" และ "จี้หวังกุ้ยจือ" เชิญแขกมาเล่นไพ่นกกระจอกที่บ้าน ในตอนนั้น "หวงลี่ชิง" ซึ่งเป็นสะใภ้รองของทั้งคู่กำลังนั่งซักผ้าในสภาพท้องแก่ใกล้คลอด (ถูกแม่สามีใช้งานทั้งๆ ที่ในบ้านมีคนรับใช้) แต่แล้วอยู่ๆ เธอก็เจ็บท้อง หวังกุ้ยจือจึงบอกให้คนใช้ไปตามหมอตำแย พอได้ข่าวว่าลี่ชิงเจ็บท้อง "จ๋าฉ่ายมา" (หรือ "จับฉ่าย" แม่บุญธรรมลี่ชิง) และ "จี้ชิ่งชาง" (สามีลี่ชิง) จึงรีบรุดมาให้กำลังใจและช่วยลุ้น พอรู้ว่าลี่ชิงคลอดลูกชายอย่างปลอดภัย ทุกคนจึงโล่งอกและดีใจกันยกใหญ่
ละครเปิดฉากขึ้นในปี 2011 ที่ประเทศสิงคโปร์ "จี้เจินจู" (เจินจู แปลว่า "ไข่มุก") เล่าให้คนดูฟังด้วยใบหน้าเศร้าหมองว่าชีวิตเธอเหมือนต้องคำสาป พอนั่งมองกระจกแล้วเห็นภาพตนเองตอนเด็กๆ เธอก็อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมตอนนั้นเธอถึงช่างกล้าหาญและสามารถฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการ ผิดกับเธอในตอนนี้ที่จิตใจอ่อนแอและไร้ซึ่งความกล้า
ย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) ณ กรุงไทเป สองสามีภรรยา "จี้เย่าหลิน" และ "จี้หวังกุ้ยจือ" เชิญแขกมาเล่นไพ่นกกระจอกที่บ้าน ในตอนนั้น "หวงลี่ชิง" ซึ่งเป็นสะใภ้รองของทั้งคู่กำลังนั่งซักผ้าในสภาพท้องแก่ใกล้คลอด (ถูกแม่สามีใช้งานทั้งๆ ที่ในบ้านมีคนรับใช้) แต่แล้วอยู่ๆ เธอก็เจ็บท้อง หวังกุ้ยจือจึงบอกให้คนใช้ไปตามหมอตำแย พอได้ข่าวว่าลี่ชิงเจ็บท้อง "จ๋าฉ่ายมา" (หรือ "จับฉ่าย" แม่บุญธรรมลี่ชิง) และ "จี้ชิ่งชาง" (สามีลี่ชิง) จึงรีบรุดมาให้กำลังใจและช่วยลุ้น พอรู้ว่าลี่ชิงคลอดลูกชายอย่างปลอดภัย ทุกคนจึงโล่งอกและดีใจกันยกใหญ่
เมื่อจ๋าฉ่ายเข้าไปดูอาการลี่ชิงในห้องนอน เธอก็พบว่าในท้องของลี่ชิงยังมีเด็กอีกคนหนึ่ง พอรู้ว่าเด็กอีกคนเป็นผู้หญิงท่าทีของทุกคนก็เปลี่ยนไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหวังกุ้ยจือซึ่งเชื่อว่าการคลอดแฝดชายหญิงถือเป็นลางร้ายและจะนำเคราะห์ภัยมาสู่คนในครอบครัว เธอจึงคิดที่จะยกเด็กหญิงให้คนอื่นนำไปเลี้ยงดู เมื่อสามีและลูกชายไม่เห็นด้วยเธอจึงไปปรึกษาหมอดู หมอดูทำนายว่าเด็กชายเกิดมามีบุญ ภายหน้าจะประสบความสำเร็จและนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ครอบครัว ผิดกับเด็กหญิงที่จะนำหายนะมาสู่ครอบครัว ซ้ำยังมีดวงพิฆาตพ่อแม่ ซึ่งตรงตามที่หวังกุ้ยจือพูดไว้ตั้งแต่ต้น
ลี่ชิงตกใจมากเมื่อแม่สามีบอกเธอว่าจะให้ "อู๋เหม่ยเสวี่ย" (ภรรยาหลวงของชิ่งชาง) เป็นคนเลี้ยงดูลูกชายของเธอ ส่วนลูกสาวต้องส่งไปอยู่บ้านอื่นเพราะมีดวงกาลกิณี หลังถูกพรากลูกน้อยไปจากอ้อมอก ลี่ชิงก็ร่ำไห้อ้อนวอนแม่สามีให้เห็นใจเธอ หวังกุ้ยจือกล่าวว่าที่เธอทำเช่นนี้เพราะเห็นแก่ชิ่งชาง (ไม่อยากให้ลูกชายมีอันเป็นไปตามคำทำนาย) เย่าหลินสงสารลูกสะใภ้และหลานจึงแนะนำให้ส่งเด็กหญิงไปให้ยายของเด็กช่วยเลี้ยงดูแทน หวังกุ้ยจือยอมทำตามคำแนะนำแต่สั่งห้ามไม่ให้นำเด็กเข้ามาเหยียบในบ้านโดยเด็ดขาด
ลี่ชิงอุ้มลูกไปฝากให้จ๋าฉ่ายช่วยเลี้ยงดูทำให้จ๋าฉ่ายไม่พอใจมาก ที่ผ่านมาเธอเลี้ยงดูลี่ชิงด้วยความยากลำบากมายี่สิบกว่าปี พอลี่ชิงได้งานทำเธอนึกว่าตนเองจะสบาย แต่ทำงานได้ไม่นานลี่ชิงกลับตั้งท้องและต้องกลายเป็นเมียรองของชิ่งชาง หลังคลอดแล้วยังอุตส่าห์หอบลูกมาให้ตนเลี้ยงดูอีก เมื่อลี่ชิงมอบเงินก้อนหนึ่งไว้เป็นค่าเลี้ยงดูเด็ก จ๋าฉ่ายก็ยอมเลี้ยงลูกให้ลี่ชิงแต่โดยดี ลี่ชิงบอกจ๋าฉ่ายว่าเด็กคนนี้ใช้แซ่เดียวกับพวกตน คือ "แซ่หวง" ส่วนชื่อของเด็กก็คือ "เจินจู" แม้จะรับปากกับลี่ชิงว่าเธอจะนำเงินมาใช้เลี้ยงหลานและจะดูแลหลานอย่างดี แต่จ๋าฉ่ายกลับเลี้ยงหลานแบบตามมีตามเกิดและมักปล่อยให้หลานร่ำไห้อยู่ตามลำพัง เพราะวันๆ เธอเอาแต่เล่นไพ่
ทุกครั้งที่เสียไพ่จ๋าฉ่ายมักระบายความโกรธกับหลาน พอเป็นหนี้พนันมากๆ เข้าเธอก็พาเจินจูไปที่บ้านสกุลจี้ เย่าหลินดีใจมากที่ได้เห็นหน้าหลาน แต่หวังกุ้ยจือยังคงทำใจแข็งเพราะฝังใจกับทำนายของหมอดู เมื่อได้ยินว่าจ๋าฉ่ายไม่มีเงินเลี้ยงหลานทำให้หลานต้องอดมื้อกินมื้อ เย่าหลินก็รู้สึกแปลกใจเพราะลูกสะใภ้ของตนส่งค่าเลี้ยงดูให้ทุกเดือน เจินจูจะบอกว่ายายเอาเงินไปเล่นไพ่จนหมดแต่จ๋าฉ่ายห้ามเอาไว้ เจินจูจึงโกหกว่ายายต้องไปหาหมอบ่อยๆ หวังกุ้ยจือแอบมอบเงินก้อนหนึ่งให้จ๋าฉ่ายแล้วกำชับว่าห้ามพาเจินจูมาที่บ้านสกุลจี้อีก
หลังชิ่งชางเดินทางไปญี่ปุ่นก็เกิดเรื่องวุ่นๆ ขึ้นที่บ้านสกุลจี้ เมื่อหวังกุ้ยจือเข้าใจผิดคิดว่าเย่าหลินผู้เป็นสามีแอบกิ๊กกับลี่ชิง เพราะเห็นลี่ชิงสวมเสื้อกันหนาวให้สามีของตน (ความจริงแล้วเย่าหลินเคยชอบลี่ชิงมาก่อนตั้งแต่ตอนที่เธอทำงานในบาร์ หลังแนะนำลี่ชิงให้ลูกชายรู้จักก็ถูกลูกชายแย่งไป ทุกวันนี้เขายังนึกเสียใจที่ยอมหลีกทางให้ลูกชาย ทั้งยังรู้สึกผิดที่ไม่อาจปกป้องลี่ชิงจนทำให้ลี่ชิงมีชีวิตที่ยากลำบาก) คืนนั้นสมาชิกในครอบครัวต่างพากันนั่งล้อมวงทานข้าว มีเพียงลี่ชิงที่ไม่ได้ทานเพราะต้องคอยเสิร์ฟอาหารและบริการทุกคน พอได้ยินแม่สามีบอกว่าจะสนับสนุนให้ "หมิงจู" (ลูกสาวเหม่ยเสวี่ย) เป็นศิลปิน โดยจะแนะนำให้รู้จักกับเจ้าของคณะงิ้วชื่อดังที่กำลังจะมาเปิดการแสดงในละแวกบ้าน ลี่ชิงก็อดนึกถึงเจินจูไม่ได้
"ซิ่วเหลียน" นักแสดงงิ้วชื่อดังเห็นเจินจูมาแอบดูเธอแต่งหน้าทางด้านหลังเวที จึงเรียกเจินจูมาคุยเล่นใกล้ๆ ด้วยความเอ็นดู เมื่อเจินจูบอกว่าตนอยากดูงิ้ว ซิ่วเหลียนจึงบอกให้เจินจูรีบออกไปจับจองที่นั่งทางด้านหน้าเวที เมื่อเห็นว่าที่นั่งบริเวณด้านหน้าถูกจับจองเกือบหมด เจินจูจึงขึ้นไปดูนักแสดงฝึกซ้อมพลางทำท่าทางเลียนแบบทางด้านข้างเวที เมื่อจ๋าฉ่ายมาพบเข้าจึงเรียกให้เจินจูลงมาทางด้านล่าง หลังจากนั้นสองยายหลานก็ได้พบกับคนในบ้านสกุลจี้ (รวมทั้งลี่ชิง) ที่ยกโขยงกันมาดูงิ้ว
หวังกุ้ยจือไม่อยากเสวนากับสองยายหลานจึงชวนสามีและเหม่ยเสวี่ยไปไหว้เจ้าก่อนดูงิ้ว โดยฝากให้ลี่ชิงช่วยดูแลหมิงจูกับหมิงต๋า จ๋าฉ่ายสบโอกาสจึงลากตัวลี่ชิงออกมาไถเงิน เจินจูเห็นหมิงจูเต้นบัลเล่ต์จึงยืนดูด้วยความสนใจเพราะเธอไม่เคยเห็นการเต้นลักษณะนี้มาก่อน หมิงจูกล่าวว่าเป็นการเต้นรำของชาวต่างชาติ จากนั้นก็อวดว่าย่าบอกให้ตนเรียนเต้นรำเพราะต้องการสนับสนุนให้ตนเป็นดารา เจินจูได้ยินดังนั้นก็รู้สึกตื่นเต้นและอยากเรียนเต้นรำบ้าง แต่หมิงจูกล่าวว่าเจินจูไม่มีสิทธิเรียนเพราะเธอเป็นตัวซวยและไม่ใช่คนสกุลจี้ เจินจูแย้งว่าตนกับหมิงจูมีพ่อคนเดียวกัน หมิงจูจึงกล่าวว่าเจินจูเป็นเพียงลูกเมียน้อยและไล่เจินจูไปให้พ้นหน้า เมื่อเอ่ยปากไล่แล้วเจินจูยังไม่ยอมไป หมิงจูจึงคิดที่จะผลักเจินจูแต่เจินจูไหวตัวทันเลยรีบหลบทำให้หมิงจูเสียหลักล้มลงกับพื้น
หวังกุ้ยจือออกจากศาลเจ้ามาเห็นเข้าพอดีจึงถามว่าเกิดอะไรขึ้น หมิงจูโกหกว่าเจินจูผลักเธอ เมื่อเจินจูปฏิเสธว่าเธอไม่ได้เป็นคนทำ หมิงจูจึงท้าให้ทุกคนถามหมิงต๋าว่าเธอโดนเจินจูผลักจริงหรือไม่แต่หมิงต๋าไม่ยอมตอบ หวังกุ้ยจือเชื่อหมิงจูจึงโทษว่าเจินจูเป็นตัวซวย เมื่อเจินจูแย้งว่าเธอไม่ใช่ตัวซวย หวังกุ้ยจือจึงไม่พอใจและคิดที่จะตบหน้าเจินจูเพื่อเป็นการสั่งสอนแต่ถูกเย่าหลินห้ามไว้ หลังจากนั้น เย่าหลินก็ชวนเจินจูไปเดินเล่นเพื่อเป็นการปลอบขวัญ ทั้งยังช่วยพูดปลอบใจและสอนให้เธออดทนต่อความยากลำบาก เขามอบไข่มุกที่ติดอยู่ในเปลือกหอยให้เจินจูพลางเล่าที่มาของไข่มุกให้ฟัง โดยบอกว่าไข่มุกที่สวยงามเกิดจากความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานนับครั้งไม่ถ้วนของหอยมุก ดังนั้น เจินจู (ซึ่งแปลว่า ไข่มุก) จึงต้องอดทนและอย่ายอมจำนนต่อโชคชะตา แล้ววันหน้าเธอจะกลายเป็นไข่มุกที่งดงาม
เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรติดตามชมได้ใน "ดั่งสวรรค์สาป (Life Of Pearl)" ทางอมรินทร์ทีวี
นักแสดงนำ
รับบท จี้เจินจู (เดิมชื่อ "หวงเจินจู")
(นักแสดง / โปรดิวเซอร์ ชาวไต้หวัน)
* เสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2558 ในวัย 27 ปี *
รับบท หลินเจียเหอ (เพื่อนในวัยเด็กของเจินจู รู้จักกันที่สิงคโปร์)
(นักแสดง / นักร้อง ชาวไต้หวัน)
รับบท เซี่ยเหวินชิง (สามีเจินจู)
(นักแสดง / นายแบบ ชาวไต้หวัน)
จี้เป่าหยู
รับบท จี้หวังกุ้ยจือ (ย่าเจินจู)
(ศิลปิน ชาวไต้หวัน - ละคร "ดั่งสวรรค์สาป" ดัดแปลงมาจากชีวิตจริงของเธอ)
หลงเส้าหัว
รับบท จี้เย่าหลิน (ปู่เจินจู)
(นักแสดง ชาวไต้หวัน)
ทังจื้อเหว่ย
รับบท จี้ชิ่งชาง (พ่อเจินจู)
(นักแสดง / นักเขียน / ผู้กำกับ ชาวไต้หวัน)
หลี่เลี่ยงจิน
รับบท หวงลี่ชิง (แม่เจินจู / ภรรยารอง (คนที่สอง) ของชิ่งชาง)
(นักแสดง ชาวไต้หวัน)
รับบท จี้ชิ่งชาง (พ่อเจินจู)
(นักแสดง / นักเขียน / ผู้กำกับ ชาวไต้หวัน)
หลี่เลี่ยงจิน
รับบท หวงลี่ชิง (แม่เจินจู / ภรรยารอง (คนที่สอง) ของชิ่งชาง)
(นักแสดง ชาวไต้หวัน)
หลินเจียหลี่
รับบท อู๋เหม่ยเสวี่ย (ภรรยาหลวงของชิ่งชาง)
(นักแสดง ชาวไต้หวัน)
เหมียวเจิน
รับบท หลิงมู่ ชุนจื่อ (ฮารูโกะ ซูซูกิ ภรรยารอง (คนที่สาม) ของชิ่งชาง)
(นักแสดง ชาวไต้หวัน)
หวังซูเฉียว
รับบท หวังเฟินหลาน (อดีตภรรยาของเจียเหอ)
(นักแสดง ชาวไต้หวัน)
เยวี๋ยนลี่ซาน
รับบท หยางอ้ายหลิน
(นักแสดง ชาวไต้หวัน)
รวมคลิปตัวอย่างละครจากซานลี่
*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***
หยางเข่อฝาน เสียชีวิตแล้วจริงๆหรือค่ะ เสียชีวิตเพราะอะไรค่ะ
ตอบลบ