วันพุธที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2560

เรื่องย่อ เล่าจื๊อจอมปราชญ์แดนมังกร (Laozi Chuanqi)




กำกับ: เฉินเว่ยกั๋ว, ฝานหัว
เขียนบท: หวังเสวียซิน
แนวละคร: ชีวประวัติ
จำนวนตอน: 33
ออกอากาศ: จีน - 21 กุมภาพันธ์ 2559 ทางซีอีทีวี และเว็บไซต์อ้ายฉีอี้
              ไทย - ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 22.00 น. ทางช่อง 9 MCOT HD (หมายเลข 30) ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2560 - 10 กันยายน 2560

เรื่องย่อ



ละคร "เล่าจื๊อจอมปราชญ์แดนมังกร (Laozi Chuanqi)" นำเสนอเรื่องราวของ  "เล่าจื๊อ" นักปราชญ์ชาวจีนผู้ประพันธ์คัมภีร์ "เต้าเต๋อจิง" ซึ่งมีชื่อจริงว่า "หลี่เอ่อร์" (แซ่ "หลี่" ชื่อ "เอ่อร์") ชื่อรอง "ป๋อหยาง" ส่วนชื่อที่ถูกตั้งขึ้นเพื่อเป็นการยกย่องหลังเสียชีวิตคือ "หลี่ตัน"

"เหลาจื่อ" หรือ "เล่าจื๊อ" ถือกำเนิด ณ หมู่บ้านฉวี่เหรินหลี่ ในอำเภอขู่ของรัฐเฉิน (ปัจจุบันคืออำเภอลู่อี้ ในมณฑลเหอหนาน) เมื่อราว 571 ปีก่อนคริสตศักราช ซึ่งตรงกับยุคราชวงค์โจวตะวันออก หรือ "ยุควสันตสารท" (ชุนชิว) อันเป็นยุคที่ราชวงค์โจวตะวันออกเข้าสู่ภาวะเสื่อมถอยและเต็มไปด้วยความวุ่นวาย เป็นเหตุให้ผู้คนเดือดร้อนทุกข์ยาก สาเหตุเนื่องมาจากบรรดารัฐต่างๆ ของราชวงค์โจวทำศึกสงครามระหว่างกันไม่ยอมเลิกรา ซ้ำยังรบด้วยกลอุบายที่แยบยล ทำให้รัฐศักดินาสวามิภักดิ์ที่เคยมีอยู่มากมายถูกผนวกรวมกับรัฐที่เข้มแข็งกว่า แม้จะเหลือรอดนับร้อยรัฐ แต่ในจำนวนนี้มีรัฐที่ใหญ่และเรืองอำนาจจริงๆ ไม่ถึง 10 รัฐ

ผู้ปกครองรัฐขนาดใหญ่เหล่านี้มีฐานะเป็น "อ๋อง" และต่างก็แย่งชิงกันเป็นผู้ปกครองรัฐสูงสุด หรือ "ปาอ๋อง" (อ๋องผู้ยิ่งใหญ่) ซึ่งในยุคราชวงค์โจวตะวันออกมีอ๋องเพียงห้าคนที่ได้รับยกย่องเป็น "ปาอ๋อง" ได้แก่  "ฉีหวนกง" แห่งรัฐฉี, "จิ้นเหวินกง" แห่งรัฐจิ้น, "ฉินมู่กง" แห่งรัฐฉิน, "ซ่งเซียงกง" แห่งรัฐซ่ง และ "ฉู่จวงหวาง" แห่งรัฐฉู่ (ถึงแม้ว่าตำแหน่งอ๋องจะเป็นรองจาก "ฮ่องเต้" แต่ในยุคนั้นฮ่องเต้กลับไม่มีอำนาจอย่างแท้จริง เพราะเหล่าอ๋องที่ปกครองรัฐต่างๆ ได้แยกตัวเป็นอิสระและมีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ) 

แม้ยุคนี้จะเต็มไปด้วยความวุ่นวาย แต่ก็เป็นยุคที่นักปราชญ์แต่ละสาขาได้ถือกำเนิดและมีชีวิตอยู่ (เช่น ขงจื๊อ, เล่าจื๊อ, เม่งจื๊อ, ม่อจื๊อ ฯลฯ รวมทั้งปราชญ์แห่งสงครามนามว่า "ซุนวู") เหล่านักปราชญ์จึงเข้ามามีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงทั้งด้าน ปรัชญา ความเชื่อ ขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม และการปกครอง เพราะในเวลานั้นผู้คนล้วนต้องการที่พึ่ง ไม่เว้นแม้กระทั่งเหล่าอ๋องและฮ่องเต้ จึงเรียกได้ว่าเป็นยุคที่มีทั้งสงครามปรัชญาและสงครามการเมืองอย่างแท้จริง




ละครเปิดฉากขึ้นด้วยเหตุการณ์ที่คนในครอบครัวของแม่ทัพ "หลี่เฉียน" ซึ่งประกอบด้วย "หลี่ไท่กง" (ท่านปู่หลี่), "ตานเอ๋อร์" ภรรยาของแม่ทัพหลี่ซึ่งกำลังท้องแก่ใกล้คลอด และสาวใช้นามว่า "ซู่เยว่" ถูกเหล่าทหารของรัฐฉู่ซึ่งนำโดย "อวี๋สือ" (ทหารซ่งแปรพักตร์) ตามไล่ล่า ซู่เยว่เห็นว่าเหล่าทหารกำลังจะไล่ทันรถม้าของพวกตนจึงยอมสละชีวิตเพื่อประวิงเวลาให้นายของตนหลบหนี แต่สุดท้ายรถม้าของคนสกุลหลี่ก็ตกอยู่ในวงล้อมของอวี๋สือจนได้ หลังหลี่ไท่กงกับลูกสะใภ้ถูกลากลงจากรถม้าและกำลังจะถูกสังหาร อยู่ๆ ชายชราผมขาวก็ปรากฏตัวและช่วยชีวิตทั้งคู่เอาไว้ เมื่อเหล่าทหารซึ่งล้วนอยู่ในสภาพสะบักสะบอมเห็นอวี๋สือถูกชายชราสังหาร (ด้วยมือเปล่า) จึงต่างพากันหลบหนี เมื่อหลี่ไท่กงกล่าวขอบคุณ ชายผมขาวก็แนะนำตัวว่า ตนชื่อ "เปิ่นหยวน" เป็นสหายเก่าของแม่ทัพหลี่ ทันใดนั้นตานเอ๋อร์ก็เริ่มมีอาการเจ็บท้อง เมื่อเปิ่นหยวนตรวจดูชีพจรก็พบว่านางใกล้คลอดเต็มที เดิมทีหลี่ไท่กงจะพาตานเอ๋อร์หนีไปที่รัฐซ่ง แต่หนทางยังอีกยาวไกล เขาจึงพาตานเอ๋อร์กลับไปคลอดที่บ้านเกิดในหมู่บ้านฉวี่เหรินหลี่ของรัฐเฉินซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก

"ซ่งผิงกง" อ๋องแห่งรัฐซ่งโกรธมากเมื่อรู้ว่า "ฉุนอวี๋เฟ่ย" กระทำการโดยบุ่มบ่ามหวังสร้างผลงานจึงขัดคำสั่งของแม่ทัพหลี่ เป็นเหตุให้ทัพของรัฐซ่ง (ซึ่งพยายามยึดเมืองเผิงคืนจากอวี๋สือและแม่ทัพ "อิงฉี" ของรัฐฉู่) ต้องพ่ายแพ้อย่างย่อยยับทั้งที่วางแผนเอาไว้เป็นอย่างดีและอยู่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบ ซ้ำยังทำให้แม่ทัพหลี่เฉียนและเหล่าทหารเป็นจำนวนมากเสียชีวิต จึงสั่งลงโทษคนในครอบครัวของฉุนอวี๋เฟ่ยสถานหนัก "เซี่ยงซวี" ขอความเมตตาให้แก่คนในครอบครัวของฉุนอวี๋เฟ่ย โดยทูลว่าอย่างน้อยๆ ฉุนอวี๋เฟ่ยก็พลีชีพในสนามรบ ผิดกับอวี๋สือที่หันไปสวามิภักดิ์กับศัตรูแล้วทรยศบ้านเมือง ซ่งผิงกงจึงสั่งยึดทรัพย์และปลดคนในครอบครัวของฉุนอวี๋เฟ่ยเป็นสามัญชน เมื่อซ่งผิงกงถามความเห็นเหล่าขุนนางเรื่องการตอบโต้รัฐฉู่ เซี่ยงซวีจึงอาสาเดินทางไปพบ "จิ้นโหว" ที่รัฐจิ้นเพื่อรายงานเรื่องที่แม่ทัพอิงฉีของรัฐฉู่รุกรานรัฐซ่งของพวกตน และจะขอร้องให้จิ้นโหวร่วมมือกับรัฐพันธมิตรในแถบจงหยวน (ที่ราบภาคกลาง) โจมตีรัฐฉู่ (รัฐจิ้นอยู่ทางเหนือ รัฐฉู่อยู่ทางตอนใต้)

ในที่สุด ตานเอ๋อร์ก็ให้กำเนิดบุตรชายนามว่า "หลี่เอ่อร์" และเสียชีวิตหลังคลอดได้ไม่นาน ทารกน้อยจึงอยู่ในความดูแลของผู้เป็นปู่ สิบปีต่อมา หลี่เอ่อร์กลายเป็นเด็กชายที่ฉลาด จิตใจดี ใฝ่เรียนรู้ เขามีเพื่อนสนิทเป็นลูกสาวคนขายเหล้าชื่อ "ถงซิน" และเด็กชายชื่อ "หม่าถง" เมื่ออาจารย์ "ซางหรง" ได้พบกับหลี่เอ่อร์ก็ประทับใจในความชาญฉลาดจึงอยากรับหลี่เอ่อร์เป็นศิษย์ แต่หลี่ไท่กงปู่ของหลี่เอ่อร์ไม่อนุญาต ถึงกระนั้นอาจารย์ซางก็ยังไม่ยอมแพ้และมาหาหลี่ไท่กงที่บ้านทุกวันถึงแม้ว่าหลี่ไท่กงจะไม่เปิดประตูต้อนรับก็ตาม วันหนึ่งหลี่เอ่อร์แอบเปิดประตูให้อาจารย์ซาง เขารู้ว่าอาจารย์ซางอยากให้ตนเรียนหนังสือ จึงบอกว่าถึงแม้ตนจะไม่ได้ไปโรงเรียนแต่ปู่ของตนก็ถ่ายทอดวิชาความรู้ให้มากมาย (ส่วนใหญ่เป็นความรู้เพื่อปูทางไปสู่การเป็นแม่ทัพ หมายให้หลี่เอ่อร์แก้แค้นรัฐฉู่เมื่อโตขึ้น) 




หลังอาจารย์ซางแสดงให้เห็นถึงความจริงใจ ทั้งยังให้ข้อคิดและเตือนสติ หลี่ไท่กงจึงยอมให้หลี่เอ่อร์ไปเรียนหนังสือกับอาจารย์ซาง หลี่เอ่อร์ขอให้อาจารย์ซางรับถงซินกับหม่าถงเป็นศิษย์เพิ่มอีกสองคนซึ่งอาจารย์ซางเองก็ไม่ขัดข้อง ปรากฏว่า "ถิงหยาง" หลานสาวของผู้ใหญ่บ้านนามว่า "อู่เซวียน" ซึ่งชอบพอและอยากเป็นเพื่อนกับหลี่เอ่อร์มานาน ก็เป็นหนึ่งในลูกศิษย์ของอาจารย์ซางเช่นกัน ในขณะที่หลี่เอ่อร์กับถงซินเดินผ่านสำนักพ่อหมอ (คนทรง) ประจำหมู่บ้าน ทั้งคู่พบเด็กชายขอทานกำลังถูก "ฉางเอ้อร์" (ลูกชายคนทรง) ทำร้ายจึงเข้าช่วยเหลือ ถงซินเห็นว่าฉางเอ้อร์จะรังแกหลี่เอ่อร์จึงชิงลงมือก่อน (เธอฝึกวรยุทธมาตั้งแต่เด็ก) ลูกสมุนของคนทรงเห็นดังนั้นเลยคิดจะเอาคืนให้คุณชายของตน แต่ถิงหยางเข้ามาห้ามเอาไว้เสียก่อนโดยขู่ว่าจะฟ้องปู่ของตน หลี่เอ่อร์กลับมาที่บ้านแล้วเห็นเด็กขอทานเดินผ่านบ้านของตนเลยแอบนำอาหารในครัวไปให้เด็กขอทาน เด็กขอทานคุกเข่าขอบคุณหลี่เอ่อร์แล้วบอกว่าตนเป็นเด็กกำพร้าเร่ร่อนชื่อ "อู่เสี่ยน"

เมื่อหลี่เอ่อร์นำของขวัญวันเกิดไปมอบให้พ่อหมอคนทรงประจำหมู่บ้านที่ชื่อ "จู้เหยี่ยน" แทนปู่ที่ล้มป่วย ก็พบชาวบ้านพากันต่อแถวเพื่อนำของขวัญวันเกิดมามอบให้คนทรงทั้งที่ทุกคนต่างกำลังเดือดร้อนลำบาก (ทุกคนกลัวว่าถ้าไม่นำของขวัญมาให้จะถูกคนทรงสาปแช่งหรือมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น) หนึ่งในนั้นคือ "หม่าต้า" พ่อของหม่าถงซึ่งมีฐานะยากจนและเกิดวันนี้เช่นกัน หลี่เอ่อร์เห็นหม่าต้าโดน "จื่อชิง" ลูกศิษย์ของคนทรงดูถูกที่นำไก่เพียงหนึ่งตัวมามอบเป็นของขวัญ (เขาเอาของในบ้านไปขายแล้วนำเงินมาซื้อไก่) จึงออกโรงปกป้องอย่างกล้าหาญ ซ้ำยังนำของขวัญวันเกิดมามอบให้พ่อของหม่าถงแทน ทำให้จื่อซิงไม่พอใจมาก

ขณะที่หลี่เอ่อร์และเพื่อนๆ ไปเล่นริมแม่น้ำ เขาก็ได้พบกับชาวประมงเฒ่าคนหนึ่งซึ่งสังเกตธรรมชาติและสิ่งรอบตัวทำให้รู้ว่าคืนนี้จะมีพายุลูกใหญ่พัดถล่มหมู่บ้านจนทำให้เกิดน้ำท่วม เขายังบอกด้วยว่าหลังเกิดน้ำท่วมแล้วจะมีโรคระบาด จากนั้นก็ชี้ให้หลี่เอ่อร์ดูต้นสมุนไพรที่ใช้รักษาโรคได้ (เขาไม่บอกเรื่องนี้กับใคร เพราะคนในหมู่บ้านเชื่อแต่คำพูดของคนทรง) หลี่เอ่อร์วิ่งไปบอกทุกคนในหมู่บ้านให้ยกของขึ้นที่สูงและระวังฝนตกหนัก แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่เชื่อเพราะไม่มีเค้าลางและไม่มีคำเตือนจากคนทรง ปรากฏว่าคืนนั้นฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมใหญ่จริงๆ จู้เหยี่ยนจึงบอกให้ผู้ใหญ่บ้านเตรียมจัดพิธีบวงสรวงและคิดใช้โอกาสนี้แก้แค้นหลี่เอ่อร์ด้วยการเสนอให้หลี่เอ๋อร์เป็นร่างประทับของทวยเทพ เมื่อหลี่เอ่อร์รู้เข้าจึงใช้โอกาสนี้เปิดโปงจู้เหยี่ยนว่าเป็นพวกลวงโลกและไม่สามารถติดต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้จริง โดยวางแผนร่วมกับถงซินและหม่าถง ทำให้จู้เหยี่ยนทั้งอับอายและเสียหน้า




อาจารย์ซางได้ยินวีรกรรมของหลี่เอ่อร์ก็หัวเราะชอบใจ ขณะเดียวกันก็อดเป็นห่วงไม่ได้เพราะการทำเช่นนั้นเท่ากับเป็นการเปิดศึกกับจู้เหยี่ยนซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครกล้าทำมาก่อน เขาจึงเตือนหลี่เอ่อร์ว่าจู้เหยี่ยนคงไม่ยอมรามือแน่ หลังทำการสอนแล้วพบว่าหลี่เอ่อร์มีข้อสงสัยเกี่ยวกับหลักธรรมชาติมากมายที่ตนไม่สามารถตอบหรืออธิบายได้เพราะไม่มีระบุไว้ในตำรา อาจารย์ซางจึงคิดที่จะหาอาจารย์คนใหม่มาสอนหลี่เอ่อร์  และคำสอนสุดท้ายของอาจารย์ซางก็คือ อย่าเป็นคนที่แข็งหรือตึงเกินไป เพราะของแข็งมักแตกหักง่าย ไม่คงทน ส่วนของอ่อนมักอยู่ได้นานและคงทน โดยนำลิ้นกับฟันมาเปรียบเทียบให้เห็นภาพ

หลังเกิดโรคระบาดและมีคนตาย จู้เหยี่ยนกับจื่อชิงจึงสบโอกาสในการเล่นงานหลี่เอ่อร์ โดยใส่ร้ายว่าหลี่เอ๋อร์ลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพิธีบวงสรวงจึงทำให้เกิดโรคระบาด ทั้งยังจับหลี่เอ่อร์ไปมัดไว้กับเสาหมายเผาทั้งเป็นต่อหน้าทุกคน หลี่ไท่กงและ "หลี่เหลียว"  อาของหลี่เอ๋อร์ ขอร้องผู้ใหญ่บ้านและทุกคนให้ช่วยหลี่เอ่อร์แต่ไม่มีใครกล้าช่วย แม่กับพ่อของถงซินเห็นแล้วอดรนทนไม่ไหวเลยจะเข้าไปช่วยหลี่เอ่อร์ทำให้ถูกจื่อชิงทำร้าย  จื่อชิงขู่ว่าถ้าไม่เผาหลี่เอ่อร์ทุกคนในหมู่บ้านจะตายกันหมด หลี่เอ่อร์กล่าวว่าถ้าการตายของตนช่วยชาวบ้านได้ตนก็ยินดี จากนั้นก็บอกให้ทุกคนนำสมุนไพรที่ขึ้นใต้โขดหินไปรักษาชาวบ้านที่ติดโรคระบาด พ่อของถงซินกับหม่าถงจึงรีบออกไปเก็บสมุนไพร

จู้เหยี่ยนสั่งให้สมุนของตนจุดไฟเผาหลี่เอ่อร์แต่อาจารย์ซางกับเปิ่นหยวนมาถึงพอดี (ที่แท้อาจารย์ซางขึ้นเขาไปเชิญเปิ่นหยวนมาช่วยรักษาโรคระบาด) เปิ่นหยวนจึงขวางเอาไว้และสั่งสอนจู้เหยี่ยนต่อหน้าชาวบ้าน พอถูกเปิดโปงจู้เหยี่ยนกับจื่อชิงก็รีบหนีไป หลังเพื่อนๆ ช่วยแก้มัดให้ หลี่เอ่อร์ก็รีบเข้ามาคุกเข่าขอบคุณเปิ่นหยวน อาจารย์ซางจึงบอกว่าเปิ่นหยวนคืออาจารย์คนใหม่ของหลี่เอ่อร์ หลังพ่อของถงซินกับหม่าถงนำสมุนไพรมาให้ดู เปิ่นหยวนก็ยืนยันว่าสมุนไพรดังกล่าวรักษาโรคได้และบอกให้รีบนำไปให้คนป่วยกิน หลี่เอ่อร์ต้องการแสวงหาคำตอบในเรื่องที่อาจารย์ซางไม่สามารถตอบได้ ทั้งยังมีเรื่องที่อยากเรียนรู้อีกมากมายเลยขออนุญาตปู่ขึ้นเขาไปเรียนรู้วิชาจากอาจารย์เปิ่น ก่อนขึ้นเขาหลี่เอ่อร์แวะไปบอกลาถงซินแต่ถงซินไม่อยู่บ้าน ถงซินรู้ว่าหลี่เอ่อร์ขึ้นเขาไปหาอาจารย์เปิ่นเลยรีบตามไปแต่กลับหาไม่พบ หลังขึ้นเขาไปฝากตัวเป็นศิษย์อาจารย์เปิ่นในวันนั้นหลี่เอ่อร์ก็ไม่ได้ลงจากเขาจนเวลาล่วงเลยไปหลายปี เขาเติบโตขึ้นเป็นชายหนุ่มรูปงามและได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมายจากอาจารย์เปิ่น ขณะที่ถงซินเติบโตขึ้นเป็นจอมยุทธหญิง




ในช่วง 556-553 ปีก่อนคริสตศักราช หรือปีที่ 13-16 ในรัชสมัยของ "เฉินไอกง" แห่งรัฐเฉิน  รัฐเฉินถูกซ่งรุกรานและเป็นฝ่ายพ่ายแพ้จึงต้องยอมสวามิภักดิ์ หลังรบชนะกองทัพเฉิน แม่ทัพ "ซืออวี๋" แห่งรัฐซ่งก็เหิมเกริมถึงขั้นคิดรวบรวมดินแดนแล้วปกครองตนเอง เมื่อซ่งผิงกง (อ๋องแห่งรัฐซ่ง) รู้เข้าจึงมอบหมายให้เซี่ยงซวีส่งกำลังทหารไปปราบแม่ทัพกบฏซืออวี๋ หลังพ่ายแพ้ซืออวี๋และทหารที่เหลือรอดส่วนหนึ่งได้หนีไปกบดานที่หมู่บ้านฉวี่เหรินหลี่ของรัฐเฉิน ด้วยความที่ซืออวี๋เพิ่งเอาชนะทัพเฉินมาหมาดๆ เลยกลัวว่าชาวบ้านจะไปแจ้งทางการจนทำให้ทัพเฉินตามมาเอาคืน เขาจึงสั่งให้ลูกน้องปล้นสะดมและสังหารทุกคนในหมู่บ้าน

ถงซินกับ "ถงเหอ" ผู้เป็นพ่อ เพิ่งกลับจากเก็บฟืนบนเขา พอใกล้ถึงหมู่บ้านก็ได้ยินเสียงชาวบ้านร้องระงม และเห็นจื่อชิงรีบพาจู้เหยี่ยน (คนทรง) กับลูกชายหนีการไล่ล่าของทหารซ่งแต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้นทำให้โดนปล้นและถูกจับตัวไป ถงซินเป็นห่วงแม่ที่อยู่บ้านตามลำพังเลยคิดจะไปช่วยแต่พ่อของเธอห้ามเอาไว้โดยบอกว่าตนจะเข้าไปในหมู่บ้านเอง เขาสั่งให้เธอซ่อนตัวอยู่ในป่าและห้ามออกมาโดยเด็ดขาด เมื่อถงเหอเห็น "เมิ่งหลาง" ผู้เป็นภรรยาโดนจับพร้อมเหล่าชาวบ้าน ซ้ำยังถูกผลักจนล้มจึงรีบวิ่งเข้าไปปกป้องด้วยความเป็นห่วงทำให้พลอยโดนจับไปอีกคน ในตอนนั้นมีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งที่ไหวตัวทันจึงสามารถหลบซ่อนตัวได้อย่างปลอดภัย ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ใหญ่บ้าน ถิงหยาง หลี่ไท่กง หลี่เหลียว และหม่าถง รวมอยู่ด้วย เมื่อหลี่ไท่กงรู้ตัวว่า "เหลียนอี๋" หลานสะใภ้ของตนหายตัวไปเขาจึงบอกให้หลี่เหลียวออกไปตามหา หลี่เหลียวเลยย่องกลับไปดูที่บ้าน พอเห็นภรรยาของตนโดนลูกน้องซืออวี๋ปล้นฆ่าต่อหน้าต่อตาเขาก็ร้องด้วยความตกใจทำให้โดนจับ

ถงซินต้องการช่วยพ่อแม่และทุกคนในหมู่บ้านจึงรีบขึ้นเขาเพื่อไปขอความช่วยเหลือจากหลี่เอ่อร์ เมื่อได้ยินเสียงคนร้องเรียกหลี่เอ่อร์ อาจารย์เปิ่นจึงบอกให้หลี่เอ่อร์ลงจากเขาเพราะนี่คือโชคชะตา ในตอนแรกหลี่เอ่อร์ยังคงลังเลเพราะมีเรื่องที่อยากเรียนรู้อีกมาก  อาจารย์เปิ่นแย้งว่าความรู้เรียนยังไงก็ไม่มีวันหมดและถึงเวลาที่เขาควรกลับบ้านได้แล้ว ในที่สุดหลี่เอ่อร์กับถงซินก็ได้พบกันเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี เมื่อรู้ว่าเกิดเรื่องที่หมู่บ้านหลี่เอ่อร์จึงรีบลงจากเขาทันที ก่อนถึงหมู่บ้านทั้งคู่เห็นทหารซ่งถือคบเพลิงเดินห่างออกไปไม่ไกลนัก เมื่อถิงหยางกับหลี่ไท่กงซึ่งยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้าบอกว่าได้ยินเสียงหลี่เอ่อร์กับถงซินเดินใกล้เข้ามา ผู้ใหญ่บ้านก็แย้งว่าเป็นไปไม่ได้เพราะหลี่เอ่อร์อยู่บนเขา หม่าถงเองก็อยากรู้จึงอาสาออกไปดู พอเห็นว่าเป็นหลี่เอ่อร์จริงๆ เขาก็รู้สึกดีใจ




แม่ทัพซืออวี๋สั่งให้ลูกน้องสังหารจู้เหยี่ยน เมื่อจู้เหยี่ยนร้องขอชีวิตแม่ทัพซืออวี๋จึงโยนดาบให้เขาแล้วบอกให้ลงมือสังหารชาวบ้าน  จู้เหยี่ยนรักตัวกลัวตายจึงเงื้อดาบหมายสังหารชาวบ้านที่อยู่ตรงหน้าแต่ถูกผู้อาวุโสในหมู่บ้านห้ามไว้ หลังจากนั้นเหล่าชาวบ้านก็พากันรุมประณามจู้เหยี่ยน เมื่อหม่าถงพาหลี่เอ่อร์กับถงซินมายังที่ๆ พวกตนหลบซ่อนตัว ทุกคนต่างดีใจที่หลี่เอ่อร์ลงเขามาแล้วจริงๆ เพราะเห็นเขาเป็นที่พึ่งสุดท้าย หลังได้ฟังความคืบหน้าและเรื่องราวต่างๆ โดยละเอียดแล้ว หลี่เอ่อร์ก็เริ่มวางแผนช่วยชาวบ้านที่ถูกจับและกำลังจะโดนสังหาร หลังมอบหมายหน้าที่สำคัญให้หม่าถง ตลอดจนหลี่ไท่กงกับกลุ่มชาวบ้านแล้ว หลี่เอ่อร์ก็เข้าไปในหมู่บ้านเพื่อถ่วงเวลา ถงซินเห็นดังนั้นจึงรีบตามไป

หลี่เอ่อร์เห็นแม่ทัพซืออวี๋และลูกน้องกำลังจะสังหารชาวบ้านจึงเข้าไปห้าม ก่อนเตือนว่าทหารซ่งและเฉินกำลังตามล่าตัวแม่ทัพซืออวี๋และจะมาถึงที่นี่ในไม่ช้า แม่ทัพซืออวี๋ได้ยินแล้วรู้สึกไม่พอใจเลยคิดที่จะสังหารหลี่เอ่อร์ ถงซินเห็นดังนั้นจึงร้องห้ามทำให้ถูกทหารซ่งจับตัวมาอีกคน เมื่อลูกน้องคนสนิทเตือนว่าที่หลี่เอ่อร์พูดมีเหตุผลดังนั้นพวกตนจึงควรรีบหนีไป แม่ทัพซืออวี๋จึงบอกให้ลูกน้องนำตัวถงซินไปด้วย ส่วนคนอื่นๆ ให้ฆ่าทิ้งเสีย หลี่เอ่อร์รีบขัดขวางและพยายามพูดถ่วงเวลา ก่อนชี้ให้แม่ทัพซืออวี๋ดูคบเพลิงทางฝั่งของรัฐซ่ง (ความจริงแล้วเป็นเหล่าชาวบ้านที่ถือคบเพลิงวิ่งไปมาและโห่ร้องตามแผนของหลี่เอ่อร์) โดยบอกว่าทัพซ่งกำลังเคลื่อนขบวนมาปราบแม่ทัพซืออวี๋ หลังจากนั้น หลี่เอ่อร์ก็ชี้ให้แม่ทัพซืออวี๋ดูคบเพลิงทางฝั่งที่ตั้งของทัพเฉิน (ซึ่งแท้จริงเป็นเหล่าชาวบ้านเช่นกัน) เมื่อเห็นว่าพวกตนกำลังจะโดนทั้งทัพซ่งและทัพเฉินรุมสังหาร แม่ทัพซืออวี๋จึงรีบหนีโดยจับหลี่เอ่อร์กับถงซินเป็นตัวประกัน

ที่แท้หม่าถงได้รับมอบหมายให้รีบรุดไปยังป้อมทหารรักษาการณ์เมืองหว่านชิว (เมืองหลวงของรัฐเฉิน) เพื่อรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านของตน และเขาก็พาแม่ทัพ "เหวยเหวิน" มาช่วยหลี่เอ่อร์กับถงซินได้ทันเวลา แม่ทัพเหวยเหวินประทับใจในความกล้าหาญและชาญฉลาดของหลี่เอ่อร์จึงบอกว่าตนจะรายงานความดีความชอบของเขาให้ท่านอ๋องทราบ เมื่อเฉินไอกง (อ๋องแห่งรัฐเฉิน) ได้ยินวีรกรรม 'ปกป้องบ้านเมือง ปกป้องคน' ของหลี่เอ่อร์ก็รู้สึกประทับใจ ทั้งยังดีใจที่บ้านเมืองของตนมีเด็กหนุ่มผู้ปราดเปรื่อง สามารถใช้ปัญญาขับไล่แม่ทัพใหญ่ของศัตรูที่รุกรานบ้านเมืองตนมานาน จึงสั่งให้เสนาบดี "ข่งฮ่วน" ปูนบำเหน็จให้หลี่เอ่อร์และให้พาหลี่เอ่อร์มาพบตน ส่วนจู้เหยี่ยนที่รักตัวกลัวตายจนคิดฆ่าคนให้ลงโทษขั้นสูงสุด




เหล่าชาวบ้านต่างพากันโกรธแค้นคนทรงลวงโลกอย่างจู้เหยี่ยนที่คิดสังหารคนในหมู่บ้าน จึงจับตัวมาลงโทษตามกฏของหมู่บ้านด้วยการเผาทั้งเป็น ฉางเอ้อร์บุตรชายของจู้เหยี่ยนจึงคุกเข่าขอร้องให้หลี่เอ่อร์ช่วยชีวิตพ่อของตน เมื่อข่งฮ่วนมาถึงหมู่บ้านฉวี่เหรินหลี่ก็พบว่าจู้เหยี่ยนกำลังจะถูกเผาทั้งเป็น เขาเห็นว่าไหนๆ ตนก็ได้รับมอบหมายให้มาลงโทษจู้เหยี่ยนจึงยอมให้ชาวบ้านลงโทษกันเอง แต่หลี่เอ่อร์เข้ามาขวางและขอให้ไว้ชีวิตจู้เหยี่ยน โดยชี้ว่าถึงจู้เหยี่ยนเคยคิดฆ่าตนและชาวบ้านแต่ทุกคนก็ยังมีชีวิตอยู่จึงควรให้โอกาสจู้เหยี่ยนกลับตัวกลับใจและทำดีไถ่โทษ จู้เหยี่ยนสำนึกผิดจึงกล่าวขอโทษเหล่าชาวบ้านและคุกเข่าขอบคุณหลี่เอ่อร์ หลังได้รับรางวัลที่ท่านอ๋องประทานให้ หลี่เอ่อร์ก็บอกให้หม่าถงนำไปแจกจ่ายชาวบ้านเพราะรู้ว่าทุกคนล้วนถูกทหารแม่ทัพซืออวี๋แย่งชิงทรัพย์สินจนหมดตัว ทุกคน (รวมทั้งข่งฮ่วน) ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกประทับใจในความมีน้ำใจของหลี่เอ่อร์

ถงซินขอติดตามหลี่เอ่อร์ไปพบท่านอ๋องแห่งรัฐเฉิน เมื่อท่านอ๋องขอคำชี้แนะเรื่องการเมืองการปกครองจากหลี่เอ่อร์ หลี่เอ่อร์ก็แสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมาและชาญฉลาด ท่านอ๋องรู้สึกประทับใจเลยอยากให้หลี่เอ่อร์มาเป็นที่ปรึกษาข้างกายตน แต่หลี่เอ่อร์ปฏิเสธโดยอ้างว่าตนยังมีเรื่องที่ต้องเรียนรู้อีกมาก ระหว่างเดินทางกลับหมู่บ้าน หลี่เอ่อร์และถงซินได้เผยความรู้สึกที่มีต่อกัน หลี่เอ่อร์สัญญาว่ากลับบ้านแล้วตนจะให้ปู่ไปสู่ขอถงซิน ทำให้ถงซินดีใจมาก ครั้นพอกลับถึงบ้านหลี่เอ่อร์กลับพบว่าปู่กับผู้ใหญ่บ้านได้ตกลงเรื่องหมั้นหมายระหว่างเขากับถิงหยางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งๆ ที่ทุกคนต่างรู้อยู่เต็มอกว่าเขากับถงซินชอบพอกัน หลี่เอ่อร์พยายามคัดค้านแต่ก็ไม่เป็นผลเลยจำต้องแต่งงานกับถิงหยางเพื่อแสดงความกตัญญูต่อปู่ที่กำลังล้มป่วย ถงซินเสียใจมากเลยออกจากหมู่บ้านไป

ปีที่ 549 ก่อนคริสตศักราช รัฐเฉินถูกรัฐซ่งบีบให้ตัดสัมพันธ์กับรัฐจิ้น รัฐเฉินเลยจำต้องหันไปเป็นพันธมิตรกับรัฐฉู่ซึ่งอยู่ทางตอนใต้อีกครั้ง รัฐฉู่ไม่เปิดโอกาสให้รัฐเฉินฟื้นฟูบ้านเมืองแต่กลับขอให้รัฐเฉินร่วมส่งทหารไปโจมตีรัฐเจิ้งซึ่งเป็นรัฐในอารักขาของรัฐจิ้น สุดท้ายรัฐเจิ้งก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ หนึ่งปีต่อมารัฐเจิ้งซึ่งมีรัฐจิ้นคอยหนุนหลังก็เอาคืนด้วยการส่งทหารมาโจมตีรัฐเฉิน ปรากฏว่ารัฐเฉินเป็นฝ่ายแพ้ หลังจากนั้นรัฐเจิ้งกับรัฐจิ้นก็จับมือกันโจมตีรัฐเฉินอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รัฐเฉินอ่อนแอ ราษฎรต้องอยู่อย่างลำบากยากแค้น หลี่ไท่กงเห็นหลี่เอ่อร์ทำตัวเย็นชากับถิงหยางตลอดหนึ่งปีที่แต่งงานกันก็รู้สึกไม่พอใจ เมื่อถิงหยางให้ข้อคิด หลี่เอ่อร์จึงนึกถึงคำสอนของอาจารย์ทั้งสองและเริ่มยอมรับในตัวเธอ หลังจากนั้นหนึ่งปีถิงหยางก็ให้กำเนิดบุตรชายนามว่า "หลี่จง" 





ซ่งผิงกง (อ๋องแห่งรัฐซ่ง) รู้สึกหนักใจที่รัฐเฉินและรัฐเจิ้งถูกรัฐฉู่กับรัฐจิ้นบีบให้ทำสงครามระหว่างกันอย่างไม่หยุดหย่อน เขาเกรงว่าขืนปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ไฟสงครามจะต้องลุกลามมาถึงรัฐซ่งอย่างแน่นอน แถมตอนนี้รัฐฉียังจ้องรุกรานรัฐซ่งของพวกตน ซ่งผิงกงจึงขอให้เหล่าขุนนางช่วยกันคิดหาทางรับมือ เซี่ยงซวีอาสาไปเจรจาให้รัฐเฉินและรัฐเจิ้งหยุดรบแต่กลับคว้าน้ำเหลวเพราะต่างฝ่ายต่างถูกรัฐที่มีอำนาจมากกว่าบีบคั้น ระหว่างเดินทางกลับ เซี่ยงซวีผ่านอำเภอขู่ของรัฐเฉินซึ่งเป็นบ้านเกิดของแม่ทัพหลี่เฉียนผู้ล่วงลับ เขาจึงแวะเยี่ยมเยียนหลี่ไท่กงที่หมู่บ้านฉวี่เหรินหลี่ หลังได้ฟังคำชี้แนะจากหลี่เอ่อร์ เซี่ยงซวีจึงทำตามคำแนะนำ จนสามารถทำให้รัฐจิ้น ฉู่ ฉี ฉิน หลู่ เว่ย เจิ้ง เฉา ไช่ เฉิน สวี่ ยอมมาร่วมลงนามในสนธิสัญญาสงบศึกที่รัฐซ่ง (รัฐทั้งหมดล้วนเป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์โจวตะวันออก)

หลังบ้านเมืองสงบสุข หลี่เอ่อร์ซึ่งเข้าสู่วัยผู้ใหญ่เต็มตัวจึงลาครอบครัวไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมกับอาจารย์คนหนึ่งที่รัฐหลู่ หม่าถงเพิ่งสูญเสียบิดาจึงขอติดตามหลี่เอ่อร์ไปทุกหนทุกแห่ง เขาจึงได้ชื่อว่าเป็นสาวกคนแรกของหลี่เอ่อร์ (เล่าจื๊อ)

เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามชมได้ใน "เล่าจื๊อจอมปราชญ์แดนมังกร (Laozi Chuanqi)" ทางช่อง 9 MCOT HD (หมายเลข 30)

*  เนื้อหาโดย luvasianseries 

นักแสดง


ฝานหัว
รับบท เล่าจื๊อ
(ผู้กำกับ ชาวจีน)




ติงเหยี่ย 
รับบท ขงจื๊อ




สวี่ไหซาน
รับบท จื่อเจิน 
(นักแสดง / ผู้กำกับ ชาวจีน)




หวังเสวียซิน
รับบท เปิ่นหยวน 




จางซาน
รับบท อิ่นสี่



กัวจื่อซี
รับบท ถงซิน




จางเชี่ยนหมิง
รับบท ถิงหยาง




หวังตี๋
รับบท โจวไทเฮา



หลิวจวิน
รับบท โจวจิ่งหวัง (โจวเทียนจื่อ)

* โจวจิ่งหวัง เป็นฮ่องเต้องค์ที่ 26 ของราชวงศ์โจว (หรือองค์ที่ 14 ของโจวตะวันออก) ทรงครองราชย์ระหว่าง 519–477 ปีก่อนคริสตศักราช



หลัวเสียง
รับบท ฉางหง

*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา