วันเสาร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2563

เรื่องย่อ สัประยุทธ์ทะลุฟ้า (Battle Through the Heavens)




กำกับ: อวี๋หรงกวง, ชุยเลี่ยง
เขียนบท: จางถิ่ง
แนวละคร: แฟนตาซี, แอคชั่น, กำลังภายใน
จำนวนตอน: 42 (ทีวี)45 (ดีวีดี)
ออกอากาศ: จีน - 3 กันยายน 2561 - 25 ตุลาคม 2561 ทางหูหนานทีวี
                  ไทย - ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.20 น. ทางช่อง MONO29 ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2563 - 20 ตุลาคม 2563


     

     


เรื่องย่อ



ละคร "สัประยุทธ์ทะลุฟ้า" ดัดแปลงจากนิยายเรื่อง "โต้วโพ่ชางฉยง" (斗破苍穹)  ของนักเขียนหนุ่มเจ้าของนามปากกา "เทียนฉานถู่โต้ว" เรื่องราวไม่ได้เกิดขึ้นบนโลกที่พวกเราอาศัยอยู่ แต่เกิดขึ้นในโลกแห่งปราณยุทธ์ที่เรียกว่า "มหาพิภพโต้วชี่" (โต้วชี่ต้าลู่) ซึ่งเป็นโลกที่ปราณยุทธ์ตัดสินทุกสิ่ง เหตุการณ์ในละคร 'ภาคแรก' นี้ กล่าวถึงเรื่องราวช่วงแรกในชีวิตของ "เซียวเหยียน" แห่งตระกูลเซียว ซึ่งมีชื่อเสียงเลื่องลือว่าเป็นยอดฝีมืออัจฉริยะขณะอายุเพียง 9 ขวบ (ในนิยายระบุว่าตอนนั้นเขาสำเร็จขั้น "ปราณแห่งยุทธ์ ช่วงที่ 9")

ปีเดียวกันนั้น "กู่เหวินซิน" (มารดาของเซียวเหยียน) ได้มอบแหวนวงหนึ่งให้เซียวเหยียนเก็บรักษา หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ถูกห้าตระกูลใหญ่กล่าวหาว่าเป็นผู้ทรยศและโดนบีบให้ปลิดชีพตัวเอง หลังสวมแหวนโบราณของมารดา ปราณยุทธ์ที่เซียวเหยียนสู้อุตส่าห์สั่งสมและฝึกปรือมาตลอดหลายปีก็สูญสลายหายไป หลังจากนั้นคนที่เคยได้รับการยกย่องว่าเป็นยอดอัจฉริยะอย่างเซียวเหยียนก็กลายเป็นเศษสวะและถูกผู้คนดูแคลนมาตลอดเจ็ดปี ด้วยเหตุนี้ ตระกูลน่าหลานจึงขอยกเลิกสัญญาหมั้นหมายระหว่างเซียวเหยียนกับ "น่าหลานเยียนหราน" ต่อหน้าแขกเหรื่อในวันหมั้น เพื่อไม่ให้ตระกูลเซียวเสียหน้าและทวีความบาดหมางมากไปกว่านี้ เยียนหรานจึงยื่นข้อเสนอให้เซียวเหยียนโดยบอกว่าวันนี้พวกตนจะชะลอคำขอถอนหมั้นออกไปก่อน แต่ในอีกสามปีข้างหน้าเซียวเหยียนจะต้องมาท้าประลองกับเธอที่สำนักม่านเมฆา (เยียนหรานเป็นศิษย์สำนักม่านเมฆา) หากเซียวเหยียนเป็นฝ่ายชนะ เธอจะยอมเป็นข้ารับใช้เขาชั่วชีวิต (แต่ถ้าเขาพ่ายแพ้สัญญาหมั้นจะถูกยกเลิกอย่างเป็นทางการต่อหน้าธารกำนัล)




เซียวเหยียนโต้กลับด้วยการบอกว่า ไยต้องรอถึงสามปีในเมื่อตนไม่เคยพิศมัยในตัวเยียนหราน เขาเขียนอักษร "休" (ซิว) ลงบนสัญญาหมั้นหมาย แล้วประกาศว่าตระกูลน่าหลานไม่คู่ควรกับตระกูลเซียว ครั้นโดนเด็กเมื่อวานซืนลบหลู่ "น่าหลานเจี๋ย" (ประมุขตระกูลน่าหลาน) จึงสั่งให้เซียวเหยียนกินสัญญาฉบับดังกล่าว เมื่อเซียวเหยียนไม่ทำตามตระกูลน่าหลานจึงใช้กำลังบีบบังคับโดยทำร้ายทั้ง "เซียวจ้าน" (บิดาเซียวเหยียน) และเซียวเหยียน เซียวเหยียนยอมรับข้อเสนอของเยียนหรานด้วยความคับแค้นใจ เขาบอกเธอว่าอีกสามปีข้างหน้าตนจะเอาคืนเธอและตระกูลน่าหลานแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน  จากนั้นก็เตือนเธอว่า "สามสิบปีกระแสธารผกผันตะวันออก สามสิบปีกระแสธารผกผันตะวันตก จงอย่าสบประมาทหนุ่มน้อยตกอับ" (ถึงจะเป็นเศษสวะในวันนี้แต่ตอนอายุ 9 ขวบเขามีระดับพลังปราณยุทธ์เหนือกว่าเธอในวันนี้ด้วยซ้ำ ไม่แน่ว่าวันหน้าเขาอาจกลับมาเป็นยอดฝีมืออัจฉริยะอีกครั้ง) พูดจบเขาก็คลานไปหยิบสัญญาหมั้นหมายมาเคี้ยวกินในสภาพสะบักสะบอม จากนั้นจึงถอดชุด (ที่ตัดขึ้นใหม่เพื่องานหมั้นโดยเฉพาะ) ออก แล้วบอกบิดาว่าตนจะต้องเอาคืนคนพวกนั้นอย่างสาสม   

* ในสมัยจีนโบราณ สามีที่ต้องการหย่าขาดกับภรรยาจะเขียนจดหมายขึ้นมาฉบับหนึ่งเพื่อบอกว่าเขาไม่ต้องการเธออีกต่อไป โดยใช้คำว่า "休妻" ("休" (ซิว) แปลว่า พัก หรือ เลิก ส่วน "妻" (ชี) แปลว่า ภรรยา) 

หลังจากนั้นเซียวเหยียนก็อุทิศตนให้กับการฝึกปรือปราณยุทธ (พลังภายใน) และทักษะยุทธ์ (วิทยายุทธ) โดยมี "เย่าเฉิน" (ร่างวิญญาณในแหวนที่ดูดกลืนปราณยุทธของเซียวเหยียนมาตลอดเจ็ดปี) คอยชี้แนะและถ่ายทอดวิชาจนระดับปราณยุทธ์ของเซียวเหยียนก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเซียวเหยียนก็ได้เข้าไปเรียนที่สำนักศึกษาเจียหนาน และร่วมก่อตั้งกลุ่ม "เหยียนปัง" กับเพื่อนๆ ขณะเดียวกันก็ได้พบศัตรูตัวฉกาจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของมารดาและเย่าเฉินที่นั่น หลังจากนั้นเซียวเหยียนก็เก็บเกี่ยวประสบการณ์และยกระดับปราณยุทธ์ของตนจนกลายเป็นนักยุทธ์ที่แข็งแกร่ง (ในภาคแรกนี้เซียวเหยียนมีพลังปราณยุทธ์สูงสุดที่ระดับ "ราชันยุทธ์")  ก่อนเดินหน้าทวงความเป็นธรรมและกอบกู้ชื่อเสียงให้ มารดา ตระกูลเซียว สำนักศึกษาเจียหนาน ตลอดจนปกป้องมหาพิภพโต้วชี่จากฝ่ายอธรรม

เนื้อหาตอนที่หนึ่ง

ละครเปิดฉากด้วยเสียงพูดของ "เซียวเหยียน" โดยเขาได้นำคำสอนของมารดามาถ่ายทอดให้ฟังว่า ความหวาดกลัวเปรียบดัง 'น้ำค้าง' ซึ่งมาพร้อมความมืดมิดและความเย็นยะเยือกที่ปกคลุมทั่วทั้งบริเวณ เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้นจงอย่าหวั่นเกรง ขอเพียงยืนหยัดจนถึงอรุณรุ่ง เมื่อดวงอาทิตย์ทอแสงทุกสิ่งจะมลายหายไป



เมื่อหนึ่งพันปีก่อน "โต้วตี้" ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น 'ดวงอาทิตย์แห่งมหาพิภพ' ได้นำห้าตระกูลใหญ่ต่อสู้กับองค์กรลึกลับที่ทรงพลังและแสนชั่วร้ายอย่าง 'ตำหนักเจตภูต' (หรือ "หุนเตี้ยน" ซึ่งมีตระกูลหุนคอยหนุนหลัง) บนดินแดนอันสุดแสนหนาวเหน็บทางตอนเหนือ หลังจากนั้นจึงผนึกตำหนักเจตภูตไว้ใต้ผืนปฐพีอันมืดมิดและนำสันติสุขมาสู่มหาพิภพโต้วชี่ เขารู้ว่าเมื่อถึงคราที่วันคืนเปลี่ยนผัน แสงสว่างใกล้โรยรา ความมืดมิดกำลังจะคืบคลานเข้าปกคลุม ลูกหลานของห้าตระกูลใหญ่จะผนึกกำลังปกป้องแสงสว่าง (ภาพเผยให้เห็นลูกหลานห้าตระกูลใหญ่ร่วมมือกันต่อกรกับตำหนักเจตภูติบนดินแดนทางตอนเหนือ และพยายามปิดผนึกไว้ดังเดิม)

* "โต้วตี้" หรือ "จ้าวจักรวาลยุทธ์" คือ พลังปราณยุทธ์ระดับสูงสุดในมหาพิภพโต้วชี่ ในที่นี้เป็นคำเรียกขานผู้มีพลังปราณยุทธ์ระดับดังกล่าว

หมายเหตุ

  • ระบบการฝึกพลังฝีมือ (เรียงจากระดับต้นถึงระดับสูง): ปราณแห่งยุทธ์ (โต้วจือชี่) ช่วงที่ 1 - 9,  นักยุทธ์ (โต้วเจ่อ) 1 ดาว - 9 ดาว,  คุรุยุทธ์ (โต้วซือ) 1 ดาว - 9 ดาว, มหาคุรุยุทธ์ (ต้าโต้วซือ) 1 ดาว - 9 ดาว, ยอดยุทธ์ (โต้วหลิง) 1 ดาว - 9 ดาว, ราชันยุทธ์ (โต้วหวัง) 1 ดาว - 9 ดาว, มหาราชันยุทธ์ (โต้วหวง) 1 ดาว - 9 ดาว, ปรมาจารย์ยุทธ์ (โต้วจง) 1 ดาว - 9 ดาว, เซียนยุทธ์ (โต้วจุน) 1 ดาว - 9 ดาว, ยอดเซียนยุทธ์ (โต้วจุนเตียนเฟิง), กึ่งเทพยุทธ์ (ป้านปู้โต้วเซิ่ง), เทพยุทธ์ (โต้วเซิ่ง) และ จ้าวจักรวาลยุทธ์ (โต้วตี้) 

  • ระดับชั้นเคล็ดวิชาและทักษะยุทธ์ในมหาพิภพโต้วชี่ (เรียงจากชั้นสูงไปหาต่ำ) แบ่งเป็น 1. ชั้นฟ้า  (เทียน / 天)  2. ชั้นดิน (ตี้ / 地)  3.  ชั้นนิล (เสวียน / 玄)  4. ชั้นทอง (หวง / 黄) โดยแต่ละระดับชั้นยังแบ่งเป็น ขั้นต้น กลาง สูง

* ชื่อเฉพาะภาษาไทยของ "ระบบการฝึก" และ "ระดับชั้นเคล็ดวิชาและทักษะยุทธ์" ดังกล่าวข้างต้น อ้างอิงจาก
นิยาย "สัประยุทธ์ทะลุฟ้า" ของสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์บุ๊ค แปลโดย "ลี หลินลี่"    




ณ เมืองอูถ่าน ในจักรวรรดิเจียหม่า "เซียวเหยียน" บุตรชายตระกูลเซียว (หนึ่งในห้าตระกูลใหญ่และหนึ่งในแปดตระกูลโบราณ) เป็นเด็กหนุ่มที่มีพรสวรรค์และมากฝีมือ เขาฝึกตนจนสำเร็จปราณยุทธ์ระดับ "ปราณแห่งยุทธ์ ช่วงที่  9" ขณะอายุเพียง 9 ขวบ จึงมีชื่อเสียงเลื่องลือว่าเป็นยอดฝีมืออัจฉริยะที่อายุน้อยที่สุดในมหาพิภพ ณ เวลานั้น  (เขาเป็นผู้ชนะการทดสอบพลังปราณยุทธ์รุ่นเยาว์) ปีเดียวกันนั้นมีข่าวมาจากแดนเหนือว่าความมืดมิดกำลังจะฟื้นคืน  "กู่เหวินซิน" มารดาของเซียวเหยียน จึงร่วมคณะห้าตระกูลใหญ่เดินทางขึ้นเหนือไปยังตำหนักเจตภูต (เธอเป็นตัวแทนหนึ่งในห้าตระกูลใหญ่)  ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นระหว่างการเดินทางครั้งนั้น แต่หลังจากเหวินซินกลับมาในสภาพบาดเจ็บสาหัส เธอได้มอบแหวนโบราณวงหนึ่งให้เซียวเหยียน ครั้น "เซียวจ้าน" (บิดาเซียวเหยียน / ประมุขตระกูลเซียว) เห็นแหวนจึงถามด้วยความตกใจว่า "เย่าซือจุน! ท่าน...?" เหวินซินพยักหน้า ก่อนกำชับบุตรชายว่า นับจากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นให้เก็บรักษาแหวนวงนี้เอาไว้ให้ดี เซียวเหยียนในวัยเยาว์กลัวว่ามารดาจะจากตนไปอีก แต่เหวินซินให้คำมั่นว่าจะไม่ไปจากเซียวเหยียนแม้เพียงหนึ่งวันและจะเฝ้าดูเขาเติบโต

* เย่าซือจุน คือ ยอดปรมาจารย์ด้านการปรุงโอสถนาม "เย่าเฉิน" ซึ่งเคยเป็นนักปรุงโอสถอันดับหนึ่งของมหาพิภพโต้วชี่และเป็นอดีตประมุขหอดาวตก ("เย่า" เป็นแซ่ของปรมาจารย์คนดังกล่าว และยังแปลว่า "โอสถ" ส่วน "ซือจุน" คือ คำเรียกผู้เป็นอาจารย์ด้วยความเคารพยกย่อง)



ในเวลาต่อมา คนจากสี่ตระกูลใหญ่นำโดย "อวิ๋นซาน" (เจ้าสำนักม่านเมฆา) ได้บุกมาหาเหวินซินที่บ้านตระกูลเซียวเพื่อถามหาสมบัติล้ำค่าของ 'หอดาวตก' และบีบให้เธอฆ่าตัวตาย เหวินซินแย้งว่าในเมื่ออวิ๋นซานกล่าวหาว่าเธอทรยศห้าตระกูลใหญ่ (หาว่าเธอสังหารเย่าซือจุนแล้วชิงสมบัติไป) และกลายเป็นทาสรับใช้ของ "หุนเมี่ยเซิง" (ประมุขตำหนักเจตภูต) แล้วเธอจะมีของล้ำค่าได้อย่างไร เธอหนีกลับมาที่บ้านตระกูลเซียวเพียงเพราะอยากเห็นหน้าบุตรชาย ถ้าใครอยากได้สมบัติให้ไปทวงถามกับหุนเมี่ยเซิง เธอยังบอกอวิ๋นซานด้วยว่าหุนเมี่ยเซิงฝากข้อความมาถึงห้าตระกูลใหญ่ ครั้นเหวินซินกระซิบบอก (ข้อความ) ว่า "ความมืดมิดกำลังจะมาเยือน" อวิ๋นซานก็รู้สึกตกใจ เหวินซินถามอวิ๋นซานว่าเขาเองก็รู้สึกกลัวใช่หรือไม่ จากนั้นก็ฆ่าตัวตายต่อหน้าทุกคน 

แม้เหวินซินจะยอมสละชีวิตตนเองแต่คนจากสี่ตระกูลใหญ่ยังไม่ยอมให้เรื่องจบง่ายๆ พวกเขาบุกมากดดันเซียวจ้านโดยกล่าวว่าความตายของเหวินซินไม่อาจล้างมนทิลให้ตระกูลเซียว ทุกคนคิดว่าสมบัติล้ำค่าของ 'หอดาวตก' อยู่ในมือเซียวจ้าน จึงบีบให้เซียวจ้านมอบสมบัติให้พวกตน เซียวจ้านไม่มีทางเลือกเลยจำต้องทำลายปราณยุทธ์ของตนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ ตระกูลเซียวจึงตกต่ำลงนับแต่นั้นมา



เซียวเหยียนพยายามทำตามคำสอนของมารดา เขาตั้งใจฝึกปราณยุทธ์และซ่อนความกลัวเอาไว้ในใจมาตลอดเจ็ดปี โดยหวังว่าสักวันจะเป็นยอดฝีมือที่มีปราณยุทธ์แก่กล้าที่สุด  เพื่อจะได้สืบหาความจริงเกี่ยวกับการเสียชีวิตของมารดา แม้เขาจะพยายามอย่างหนักตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมา แต่ยิ่งฝึกปราณยุทธ์กลับยิ่งถดถอย นั่นจึงทำให้ยอดฝีมืออัจฉริยะที่มีชื่อเสียงเลื่องลือเมื่อเจ็ดปีก่อนอย่างเซียวเหยียน กลายเป็นเศษสวะที่มีปราณยุทธ์ต่ำสุดในมหาพิภพโต้วชี่  (เขาไม่รู้ตัวว่าถูกแหวนดูดกลืนปราณยุทธ์) และเป็นที่ดูแคลนของผู้คน คนเดียวที่ยังคงเชื่อมั่น เคารพนับถือ และพร้อมอยู่เคียงข้างเซียวเหยียนคือ "เซียวซวินเอ๋อร์" ซึ่งเป็นสาวน้อยมากฝีมือที่เติบโตมาด้วยกันกับเซียวเหยียน


หลังถูกพี่น้องในโรงฝึกทักษะยุทธ์ (ของตระกูลเซียว) ดูแคลนว่าเป็นเศษสวะ เซียวเหยียนไม่อาจทำใจยอมรับจึงทำร้ายร่างกายคนที่มาหาเรื่องแล้ววิ่งหนีกลับบ้าน (เขามีพลังและฝีมืออ่อนด้อยกว่าทุกคน) เซียวจ้านเห็นเซียวเหยียนกลับมาบ้านในสภาพเหนื่อยหอบก็รู้ได้ทันทีว่าลูกชายเพิ่งมีเรื่องกับคนอื่นมา เซียวเหยียนขอให้บิดาช่วยสอนสุดยอดเคล็ดวิชาตระกูลเซียว "สิงห์คลั่งวายุเดือด" เพื่อที่ตนจะได้นำไปสั่งสอนคนที่ชอบดูถูกตน เซียวจ้านปฏิเสธทันควันโดยบอกว่าเซียวเหยียนไม่มีทั้งศักยภาพและคุณสมบัติที่จะฝึกทักษะดังกล่าว (คนที่จะฝึกเคล็ดวิชาดังกล่าวได้ต้องเป็นประมุขของตระกูลเท่านั้น)  แต่เซียวเหยียนยังคงดึงดัน เขาบอกว่าตนจะฝึกทั้งกลางวันกลางคืน จะฝึกให้หนักกว่าพวกที่ชอบดูถูกตน ต่อให้ยิ่งฝึกยิ่งถดถอยตนก็จะไม่เป็นเหมือนบิดาที่ทำลายปราณยุทธ์ของตนเองแล้วเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านเพื่อตรวจบัญชี เซียวจ้านได้ยินดังนั้นจึงใช้ไม้ตีมือเซียวเหยียนหนึ่งทีพลางบอกให้ระวังปาก จากนั้นก็บอกให้เซียวเหยียนลงโทษตัวเอง



ณ โรงฝึกทักษะยุทธ์ตระกูลเซียว เซียวเหยียนยังคงไม่ยอมแพ้และพยายามฝึกทักษะยุทธ์ด้วยตนเองโดยมีซวินเอ๋อร์คอยให้กำลังใจไม่ห่าง เซียวจ้านให้คนมาตามเซียวเหยียนกลับบ้าน เมื่อเซียวเหยียนไปถึงก็พบ "ว่านจ่างกุ้ย" (ผู้ดูแลแซ่ว่าน) ซึ่งเป็นผู้ดูแลกิจการร้านขายยาสมุนไพรของตระกูลเซียว เซียวจ้านบอกให้เซียวเหยียนเลิกฝึกปราณยุทธ์แล้วฝากตัวเป็นศิษย์ติดตามว่านจ่างกุ้ยไปฝึกงานที่ร้านขายยา เซียวเหยียนโอดครวญว่าตนอยากเป็นนักยุทธ์ และจะร่วมการทดสอบเพื่อเข้าเรียนที่สำนักศึกษาเจียหนาน หากตนเข้าไปเรียนที่นั่นไม่ได้ก็ไม่อาจเป็นนักยุทธ์ที่แข็งแกร่งได้ในอนาคต เซียวจ้านแย้งว่าเซียวเหยียนไม่มีพรสวรรค์ในด้านดังกล่าว และเตือนว่าผลการทดสอบปีนี้เซียวเหยียนยังคงมีพลังปราณยุทธ์ระดับต่ำสุดเหมือนเดิม เซียวเหยียนพยายามขอความเห็นใจโดยบอกว่าตนจะตั้งใจฝึกฝนอย่างหนักแต่ไม่เป็นผล

เซียวจ้านตัดบทด้วยการสั่งให้เซียวเหยียนยกน้ำชาคารวะว่านจ่างกุ้ยในฐานะลูกศิษย์ แต่เซียวเหยียนยังคงยืนกรานว่าตนอยากเป็นนักยุทธ์ เขากล่าวว่าหากวันนี้ฝึกไม่สำเร็จตนก็จะฝึกต่อไปเรื่อยๆ แม้ต้องฝึกจนตายตนก็ยังอยากเป็นนักยุทธ์อยู่ดี เขาจึงขอร้องบิดาว่าอย่าส่งตนไปเรียนรู้งานที่ร้านขายยา เซียวจ้านไม่อยากให้ลูกชายตายก่อนวัยอันควรจึงบอกให้เซียวเหยียนยอมจำนนต่อโชคชะตา ครั้นเซียวเหยียนไม่ยอมฝากตัวเป็นศิษย์ว่านจ่างกุ้ย เซียวจ้านจึงมัดมือชกด้วยการคุกเข่าแล้วยกน้ำชาคารวะว่านจ่างกุ้ยแทนเซียวเหยียน (ทั้งที่เขาเป็นถึงประมุขของตระกูลและเป็นนายของว่านจ่างกุ้ย) จากนั้นก็สั่งให้ว่านจ่างกุ้ยพาเซียวเหยียนไปที่ร้านขายยา และห้ามไม่ให้เซียวเหยียนเข้าไปเหยียบในโรงฝึกทักษะยุทธ์อีก (ตระกูลเซียวมีกฏเหล็กว่าคนที่ไม่มีศักยภาพในการฝึกยุทธ์จะต้องถูกส่งตัวไปดูแลกิจการของตระกูล และคนๆ นั้นจะไม่เป็นที่ยอมรับของคนในตระกูลอีกต่อไป)



ครั้นไปถึงร้านขายยา คนงานในร้านก็พาเซียวเหยียนไปที่ห้องเก็บสมุนไพรและไหยาดองเหล้า  เซียวเหยียนเริ่มงานด้วยการหั่นสมุนไพรแบบซังกะตาย ครั้นได้ยินว่าจะมีการคัดเลือกศิษย์ของโรงฝึกทักษะยุทธ์ตระกูลเซียวเพื่อเข้าเรียนที่สำนักศึกษาเจียหนานในไม่ช้า เซียวเหยียน (ซึ่งได้รับมอบหมายให้นำยาบำรุงไปส่งที่โรงฝึกทักษะยุทธ์) จึงวิ่งไประบายความโกรธแค้นในป่าแล้วบังเอิญหลุดเข้าไปในแดนพิศวง  แถมเขายังได้พบชายประหลาดท่าทางสูงส่งคนหนึ่งซึ่งอ้างตนเป็นอาจารย์ปู่ (เขาคือเย่าซือจุน นาม "เย่าเฉิน" แต่มักถูกเรียกขานว่าอาวุโสเย่า หรือ "เย่าเหล่า") เซียวเหยียนแย้งว่าอาจารย์ปู่ของตนตายไปแล้วเมื่อเจ็ดปีก่อน เย่าเฉินเล่าว่าเมื่อเจ็ดปีก่อนตนได้ปิดผนึกตนเองไว้ที่นี่ คนที่อยู่ 'ข้างนอก' เลยคิดว่าตนตายไปแล้วจริงๆ เซียวเหยียนได้ยินดังนั้นจึงสงสัยว่าตนอยู่ที่ใดกันแน่ เย่าเฉินชี้ไปที่แหวนโบราณของเซียวเหยียน พอรู้ว่าตนอยู่ในแหวนเซียวเหยียนก็ทั้งงงและตกใจ เย่าเฉินเปรยว่าพวกที่อยู่ข้างนอกคงนึกไม่ถึงว่าของล้ำค่าของหอดาวตกที่ทุกคนปรารถนามานานจะอยู่ในมือคนไม่เอาไหนอย่างเซียวเหยียน



เขาเล่าว่าในตอนนั้นมารดาของเซียวเหยียนได้เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยตน ตนเกรงว่าของล้ำค่าที่ตกทอดกันมาหลายชั่วอายุคนจะไปอยู่ในมือของคนชั่ว เลยบอกให้มารดาเซียวเหยียนย้ายทุกสิ่งมาไว้ในนี้แล้วปิดผนึกเอาไว้พร้อมกับตน แต่ทว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมาศิษย์ทั้งสองของตน คนหนึ่งได้แปรพักตร์ไปอยู่กับตำหนักเจตภูต ส่วนอีกคนฆ่าตัวตาย (มารดาเซียวเหยียน) ตนเลยต้องอยู่ในนี้ตามลำพัง นับว่ายังโชคดีที่ตนมีเซียวเหยียน หากไม่ได้ดูดกลืนพลังปราณยุทธ์ของเซียวเหยียน จิตวิญญาณของตนคงแตกสลายและสูญสิ้นไปนานแล้ว ครั้นรู้ว่าปราณยุทธ์ทั้งหมดที่ตนสู้อุตส่าห์ฝึกปรือทุกวันถูกชายที่อยู่ตรงหน้าดูดกลืนไปหล่อเลี้ยงวิญญาณจนหมด เซียวเหยียนก็ทั้งเดือดดาลและเจ็บแค้น ที่แท้ตัวการที่ทำให้เขากลายเป็นเศษสวะและโดนผู้คนเหยียดหยามมาตลอดเจ็ดปี คือคนที่ได้ชื่อว่าเป็นอาจารย์ปู่ 

เพื่อปกป้องชายผู้นี้ตลอดจนของล้ำค่าของหอดาวตก มารดาเขาจำต้องฆ่าตัวตาย เซียวเหยียนโวยลั่นว่าทำไมตอนนั้นอาจารย์ปู่ถึงไม่ออกไปช่วยมารดาตน เย่าเฉินชี้ว่าตนออกไปไม่ได้ แต่ถึงออกไปได้ก็ช่วยไม่ได้อยู่ดีเพราะตอนนั้นพลังตนยังไม่ฟื้นคืน ครั้นเห็นว่าตนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเย่าเฉินและไม่อาจฆ่าเขาให้หายแค้นได้ (เพราะเย่าเฉินอยู่ในสภาพวิญญาณ) เซียวเหยียนจึงเปลี่ยนมาชวนเย่าเฉินออกไปล้างแค้นให้มารดาตนด้วยกัน แต่เย่าเฉินขอพักเพื่อฟื้นฟูพลังปราณยุทธ์ก่อน จากนั้นก็ส่งเซียวเหยียนออกนอกแหวนทันที



หลังเซียวเหยียนกลับมาที่ร้านขายยาในตอนกลางคืน ว่านจ่างกุ้ยก็บอกให้เซียวเหยียนตั้งใจศึกษาวัตถุดิบสมุนไพร แม้ไม่ได้เป็นผู้ฝึกยุทธ์ตามที่ต้องการแต่การขายยาหาใช่เรื่องเลวร้าย ถึงไม่ใช่นักปรุงโอสถ แต่การเป็นแค่พ่อค้าหรือผู้ดูแลกิจการร้านสมุนไพรก็ทำให้เซียวเหยียนได้อยู่เหนือคนจำนวนหนึ่ง (เช่น คนงาน) เช่นกัน  หลังว่านจ่างกุ้ยออกไปแล้ว คนงานในร้านก็ตำหนิเซียวเหยียนที่แอบโดดงานทำให้ตนโดนตำหนิ เขาจึงปล่อยให้เซียวเหยียนปิดผนึกไหยาดองเหล้าด้วยผ้าแดงตามลำพัง เมื่อว่านจ่างกุ้ยกลับมาที่ห้องเก็บยาดองเหล้าในตอนเช้าก็พบว่ายาดองจำนวนมาก (ซึ่งล้วนมีราคาแพง) หายไป แถมเซียวเหยียนยังนอนกอดไหยาดองเหล้าที่ว่างเปล่าอยู่ในห้อง ว่านจ่างกุ้ยถามเซียวเหยียนว่ายาดองเหล้าอยู่ที่ไหน แต่เซียวเหยียนไม่ยอมตอบ แม้เซียวเหยียนจะถูกตีอย่างหนัก ทั้งยังเดาออกว่าใครขโมยยาดองเหล้าไป แต่เขาทำได้เพียงอดทนและยืนกรานว่าตนไม่รู้




พอกลับเข้าไปในแหวนอีกครั้ง เซียวเหยียนก็พบเย่าเฉินนอนเคียงข้างไหยาดองเหล้าที่ตั้งเรียงราย เขารู้ว่าเย่าเฉินแกล้งหลับเลยแสดงเพลงหมัดให้ดูก่อนขอความเห็นและคำชี้แนะ เพื่อตอบแทนเรื่องยาดองเหล้าเย่าเฉินจึงช่วยชี้ว่ากระบวนท่าของเซียวเหยียนไม่เลว เพียงแต่ขาดพลังเพราะพื้นฐานปราณยุทธ์ไม่แข็งแกร่ง เซียวเหยียนสวนกลับว่าพื้นฐานตนจะแข็งแกร่งได้อย่างไร ในเมื่อปราณยุทธ์ที่ตนสู้อุตส่าห์ฝึกปรือมาตลอดเจ็ดปีถูกเย่าเฉินดูดกลืนไปจนหมด เขาเย้ยว่าเย่าเฉินพักฟื้นมานานหลายปี ดูดกลืนปราณยุทธ์ตนไปตั้งมากมายแต่สุดท้ายก็ยังปล่อยของไม่ได้ ครั้นโดนเด็กหนุ่มสบประมาทว่าดีแต่พูด เย่าเฉินเลยแสดงทักษะยุทธ์ให้เซียวเหยียนดูเป็นบุญตา โดยบอกว่าเป็นเพลงหมัดยาวหนึ่งกระบวนท่าที่โต้วตี้ทิ้งไว้ให้ห้าตระกูลใหญ่ แม้ไม่หวือหวาแต่ทุกท่วงท่าล้วนเปี่ยมไปด้วยพลังปราณยุทธ์ 

ครั้นเห็นพลังปราณยุทธ์ที่แข็งแกร่งของอาจารย์ปู่ เซียวเหยียนจึงอดสงสัยไม่ได้ว่าเพราะอะไรคนเก่งอย่างเขาถึงตายได้ ในเมื่อเขามีปราณยุทธ์ที่แข็งแกร่งแล้วไยต้องให้มารดาตนช่วย เขาอยากรู้ว่าหุนเมี่ยเซิงร้ายกาจขนาดนั้นเลยหรือ เย่าเฉินกล่าวด้วยสีหน้าจริงจังว่าทักษะยุทธ์ที่แข็งแกร่งสุดคือ...ใจคน คือคนใกล้ชิดที่สุดที่คิดปองร้ายเรามานานหลายปี เขากล่าวว่าหากไม่ได้มารดาเซียวเหยียนช่วยไว้ ตนคงตายไปแล้วจริงๆ ด้วยน้ำมือคนใกล้ชิดที่สุด เขาอดสมเพชตัวเองไม่ได้ที่เป็นถึงอันดับหนึ่งของมหาพิภพ แต่กลับต้องให้ผู้หญิงและเด็กมาปกป้อง ซ้ำยังแอบขโมยยาดองเหล้าจนทำให้เซียวเหยียนเดือดร้อน เขากล่าวว่าทุกคนล้วนต้องการแก้แค้น แต่ตอนนี้ไฟแค้นของตนได้ดับมอดลงแล้ว เขาแนะเซียวเหยียนให้เลิกคิดที่จะเป็นนักยุทธ์แล้วหันมาเอาดีที่ร้านขายยาแทน เซียวเหยียนได้ยินแล้วทั้งโกรธและผิดหวังเลยถอดแหวนโบราณคืนให้เย่าเฉิน เย่าเฉินมอบคัมภีร์ "36 สูตรลับ" (สำหรับปรุงยา) ของหอดาวตกให้เซียวเหยียนนำไปฝึกฝน และกล่าวว่าตระกูลเซียวสืบเชื้อสายมาจากเทพเสินหนง (เทพแห่งกสิกรรมและยาสมุนไพร) เขาจึงอยากให้เซียวเหยียนเป็นยอดนักปรุงยาที่ทุกคนในจักรวรรดิเจียหม่าต่างเคารพยำเกรง เซียวเหยียนยอมรับคัมภีร์และบอกว่าตนจะฝึกปรุงยา ขณะเดียวกันก็จะฝึกยุทธ์ด้วย เขาทวงแหวนคืนจากเย่าเฉินพลางนึกถึงคำสั่งเสียของแม่ที่ให้เก็บรักษาแหวนวงนี้เอาไว้ให้ดี 


เซียวจ้านเรียกเซียวเหยียนมาพบและบอกว่าตระกูลน่าหลาน (หนึ่งในห้าตระกูลใหญ่) พายอดฝีมือมาที่เมืองอูถ่านเพื่อร่วมสอบคัดเลือกเข้าศึกษาที่สำนักเจียหนาน หนึ่งในนั้นคือ "น่าหลาน เยียนหราน" ซึ่งเป็นคู่หมั้นคู่หมายของเซียวเหยียน (ปู่ของเซียวเหยียนทำสัญญาหมั้นหมายกับตระกูลน่าหลานตอนที่ทั้งคู่ยังเด็ก) เซียวจ้านบอกให้เซียวเหยียนนำของขวัญไปเยี่ยมเยียนหราน และฝากจดหมายเยี่ยมไปให้ประมุขตระกูลน่าหลานด้วย ในเวลาเดียวกันนั้น ประมุขตระกูลน่าหลาน "น่าหลานเจี๋ย" เพิ่งได้รับจดหมายด่วนจากอวิ๋นซาน (เจ้าสำนักม่านเมฆา และอาจารย์ของเยียนหราน) เนื้อหากล่าวถึงเรื่องการแต่งงานระหว่างเยียนหรานกับเซียวเหยียน น่าหลานเจี๋ยเห็นพ้องต้องกันกับอวิ๋นซานจึงเปรยว่า "คนก้าวสู่ที่สูง น้ำไหลลงสู่ที่ต่ำ" หากพวกตนไม่ชิงลงมือก่อนอาจสายเกินไป


ในเวลานั้นตระกูลเซียวกำลังเร่งจัดเตรียมงานหมั้นให้เซียวเหยียนกับเยียนหราน เพราะเซียวจ้านต้องการจัดงานแต่งให้ลุล่วงตามสัญญาก่อนที่สำนักเจียหนานจะเปิดการเรียนการสอน แต่แล้วอยู่ๆ ราชาโอสถ "กู่เหอ" (ผู้อาวุโสแห่งสำนักม่านเมฆา / อาจารย์สอนปรุงยาที่สำนักศึกษาเจียหนาน) ก็มาที่บ้านตระกูลเซียว (ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งไปพบน่าหลานเจี๋ย) โดยนำ 'โอสถวิเศษระดับหก' มามอบให้เซียวจ้านเป็นของขวัญ (กู่เหอเป็นนักปรุงโอสถระดับหก) เขากล่าวว่าโอสถของตนสามารถชุบชีวิตคนตาย เปลี่ยนโครงกระดูกให้มีเนื้อหนังหุ้ม ซ้ำยังช่วยให้พลังปราณยุทธ์ของเซียวจ้านฟื้นคืนราว 60-70% ของระดับเดิมที่เคยมี (เซียวจ้านทำลายปราณยุทธ์ของตนจนหมดสิ้นเมื่อเจ็ดปีก่อน) เซียวจ้านได้ยินดังนั้นจึงรู้ว่ากู่เหอมาพบตนด้วยวัตถุประสงค์บางอย่าง

** จบตอนที่หนึ่ง **

* เนื้อหาโดย luvasianseries / ดูอัลบั้มภาพได้ ที่นี่


 

 


รายชื่อนักแสดง


นักแสดงนำ

 

อู๋เหล่ย
รับบท เซียวเหยียน
(นักแสดง ชาวจีน)


 

หลินอวิ่น
รับบท เซียวซวินเอ๋อร์ / กู่ซวินเอ๋อร์
(นักแสดง ชาวจีน)


 

เฉินฉู่เหอ
รับบท เย่าเฉิน (เย่าเหล่า / เย่าเซิ่ง)
(นักแสดง ชาวไต้หวัน)


 

หลี่ชิ่น
รับบท เสี่ยวอีเซียน
(นักแสดง ชาวจีน)

ตระกูลเซียว

       

อวี๋หรงกวง
รับบท เซียวจ้าน
(นักแสดง / ผู้กำกับ / โปรดิวเซอร์ ชาวจีน - เป็นผู้กำกับละครเรื่องนี้)


        

(ซ้าย) หลี่เซิน รับบท เซียวติ่ง (นักแสดง ชาวจีน)
(ขวา) เยี่ยนซี รับบท เซี่ยวลี่ (นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)


        

(ซ้าย) ซุนเหว่ย รับบท เซียวจู่ (บรรพชนสกุลเซียว) (นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)
(ขวา) หลิวฉางเซิง รับบท ว่านจ่างกุ้ย (นักแสดง ชาวจีน)

ตระกูลน่าหลาน / สำนักม่านเมฆา (อวิ๋นหลานจง) 

         

(ซ้าย) สวีเส้าเฉียง รับบท น่าหลานเจี๋ย (นักแสดงฮ่องกง เกิดที่เมืองจีน)
(ขวา) หลิวเหม่ยถง รับบท น่าหลาน เยียนหราน (นักแสดง ชาวจีน)


         

(ซ้าย) เจิงเจียง รับบท อวิ๋นซาน (นักแสดงฮ่องกง เกิดที่เมืองจีน)
(ขวา) ซูชิง รับบท อวิ๋นอวิ้น (นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)


        

(ซ้าย) ชุยเผิง รับบท กู่เหอ (นักแสดง ชาวจีน)
(ขวา) ตู้อวี้หมิง รับบท เจ๋ออวิ๋นโส่ว (นักแสดง / ผู้กำกับ ชาวจีน)

สำนักศึกษาเจียหนาน

       

(ซ้าย) จูเสี่ยวอวี๋ รับบท หมี่เถิงซาน (นักแสดง ชาวจีน)
(ขวา) หลิงเซียวซู่ รับบท หานเฟิง (นักแสดง ชาวจีน)


       

(ซ้าย) เหมียวฮ่าวจวิน 
รับบท เก่อเย่ (นักแสดง ชาวจีน)
(ขวา) ซูเชี่ยนเวย รับบท รั่วหลิน (นักแสดง / นักร้อง / ผู้ดำเนินรายการ ชาวจีน)


        

(ซ้าย) เซียวจ้าน รับบท หลินซิวหยา (นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)
(ขวา) อู่เจียเฉิง รับบท ฮ่าวเทียน (นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)


        

(ซ้าย) เผิงฉู่เยว่ รับบท หานเสียน (นักแสดง / นักร้อง / นักแต่งเพลง ชาวจีน)
(ขวา) กู่เจียเฉิง รับบท หู่เจีย (นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)


       

(ซ้าย) หวังอี้ฝาน รับบท เหลยสยง (นักแสดง ชาวจีน)
(ขวา) เซี่ยงเฉิน รับบท เย่ซวิ่น (นักแสดง / นักร้อง / นายแบบ / ผู้ดำเนินรายการ ชาวจีน)


      

(ซ้าย) หัวเฉิง รับบท ไป๋เฉิง (นักแสดง ชาวจีน)
(ขวา) หวังไห่เสียง รับบท ไป๋ซาน (นักแสดง ชาวจีน)

ตระกูลกู่

          

(ซ้าย) หลี่รั่วถง รับบท กู่เหวินซิน (นักแสดง ชาวฮ่องกง)
(ขวา) หลี่จื่อเฟิง รับบท กู่หยวน (นักแสดง / นายแบบ ชาวจีน)


        

(ซ้าย) เกาหงเลี่ยง รับบท ตงหลงจู่ (จ้าวเกาะมังกรบูรพา) (นักแสดง ชาวจีน)
(ขวา) หวังหว่านเจวียน รับบท หลงหมู่ (นักแสดง ชาวจีน)


        

(ซ้าย) เกากว่างเจ๋อ รับบท กู่เทียนเวย (นักแสดง ชาวจีน)
(ขวา) เหมียวอี้หลุน รับบท กู่เทียนอี๋ (นักแสดง ชาวจีน)


        

(ซ้าย) อวี๋อัน รับบท เอ้อร์ป๋อ (นักแสดง / นายแบบ ชาวจีน)
(ขวา) เฉินเวยซวี่ รับบท ซื่อซู (นักแสดง ชาวจีน)

อาณาจักรนาคา

 

ซินจื่อเหล่ย
รับบท เหม่ยตู้ซา
(นักแสดง ชาวจีน)


       

(ซ้าย) ตู้โฮ่วเจีย รับบท โม่ปาซือ (นักแสดง ชาวจีน)
(ขวา) สวีเข่อหลง รับบท ชิงหลิน (นักแสดง ชาวจีน)

อาณาจักรชูอวิ๋น

 

ฉางเฉิง 
รับบท เหล่าหวงตี้ 
(นักแสดง ชาวจีน)


       

(ซ้าย) เฉินเจ๋อซี รับบท เยี่ยหลาน (นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)
(ขวา) กัวเสี่ยวเฟิง รับบท ฝาหม่า (นักแสดง ชาวจีน)

อื่นๆ

 

ชิวซินจื้อ
รับบท ไห่โปตง
(นักแสดง ชาวไต้หวัน)


         

(ซ้าย) กัวจื่ออวี๋ รับบท ฟ่านหลิง (นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)
(ขวา) ติงเฉียว รับบท โม่เฉิง (นักแสดง ชาวจีน)




รวมคลิปตัวอย่างจาก 大劇獨播MZTV

* ดูละครครบทุกตอนทาง MONOMAX " ได้ ที่นี่  / ดูคลิปตัวอย่างจาก MONOMAX " ได้ ที่นี่

*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา