วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

แทกิล ยอดพยัคฆ์นักล่า ตอนที่ 1



  
หลังจากบ้านถูกไฟเผาโดยฝีมือของทาส จนทำให้พ่อแม่เสียชีวิตไปหมด แทกิล (จาง ฮยอก) ตัดสินใจไปใช้ชีวิตเป็นนักล่าทาส จนมีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วทั้งโชซอน โดยมี วังซอน (คิมจีซุก) หนุ่มจอมเจ้าชู้ และเช (ฮันจุงซู) เป็นเพื่อนร่วมทีม เหตุผลในการที่แทกิลทำงานนี้ก็เพื่อตามหา ออนยอน (ลีดาเฮ) ทาสสาวคนหนึ่งซึ่งเขาเคยรักในอดีต ซึ่งแม้ว่าเขาจะดูเหี้ยมโหด เพราะตั้งหน้าตั้งตาออกล่าทาส แต่เบื้องหลังแทกิลก็มักหาโอกาสที่จะช่วยเหลือทาสบางคนที่ถูกข่มเหงให้หลบหนีอีกด้วย

เนื้อหา

เหตุการณ์ในละครเกิดขึ้นราวปี ค.ศ. 1648 (พ.ศ. 2191) ซึ่งตรงกับปีที่ 26 ของพระเจ้าอินโจ ผู้ทรงเป็นพระราชบิดาขององค์รัชทายาทโซฮอนที่ถูกลอบปลงพระชนม์


ในช่วงเวลาดังกล่าว มี 3 พยัคฆ์นักล่าทาสที่ได้ชื่อว่าเก่งที่สุดในโชซอน ประกอบด้วย แม่ทัพเช พยัคฆ์ผู้องอาจ เพลงหอกและเพลงดาบไม่เป็นรองใคร, วังซอน พยัคฆ์เจ้าสำราญ คล่องแคล่วรวดเร็ว แต่ข้อเสียคือนิสัยเจ้าชู้และมักหนีงานไปเที่ยวเล่นอยู่บ่อยครั้ง และ อีแทกิล พยัคฆ์ร้ายแห่งโชซอนผู้ไม่เป็นรองใครในแผ่นดิน

เรื่องราวในละครเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 3 นักล่าทาส ออกไล่ล่าทาสที่กำลังหลบหนี และเมื่อทาสทั้งหมดถูกจับได้ อีแทกิล ได้ยื่นข้อเสนอว่าจะช่วยทาสเหล่านั้นให้หลบหนีไปได้อย่างปลอดภัย หากพวกเขาเคยพบหรือรู้เบาะแสของผู้หญิงที่อยู่ในภาพ โชคร้ายที่ไม่มีใครเคยพบเห็นหญิงสาวคนดังกล่าวมาก่อน

ในช่วงเวลากลางคืน นักล่าทาสทั้ง 3 ได้พาทาสมาพักแรมเพื่อรอเดินทางต่อในรุ่งเช้า โดยวังซอน น้องเล็กในกลุ่ม 3 พยัคฆ์ โวยวายว่าทำไมตนต้องแบกรับงานของผู้หญิงอยู่คนเดียว ทั้งทำกับข้าว ล้างจาน ซักผ้า เย็บผ้า พร้อมทั้งยื่นข้อเสนอว่าน่าจะหาทาสผู้หญิงมาทำงานดังกล่าวแทนตนสักคน


ขณะเดียวกัน แทกิล ซึ่งนั่งมองกองไฟพลางย้อนรำลึกถึงอดีตอันขมขื่น ก็ถูกรบกวนโดยทาสหญิงคนหนึ่งที่เข้ามาอ้อนวอนขอให้เขาปล่อยตัวลูกสาววัย 13 ปีของเธอ โดยให้เหตุผลว่าถ้าถูกจับตัวกลับไป ลูกสาวเธอจะตกเป็นนางบำเรอของชายชราผู้เป็นทั้งเจ้าบ้านและเจ้าชีวิตของพวกเธอ

ระหว่างนั้น อ๊บบ๊อก ทาสอีกคนที่ถูก 3 พยัคฆ์นักล่าทาสจับตัวมาด้วย วางแผนที่จะหลบหนีโดยมีก้อนหินเป็นอาวุธ แต่เมื่อรู้ว่านักล่าทาสที่จับตัวพวกเขามาคือกลุ่มของอีแทกิล จึงเกิดความหวาดกลัวและล้มเลิกแผนการที่จะหลบหนี เช่นเดียวกับทาสหญิงและลูกสาวที่ต่างก็พากันสิ้นหวัง เมื่อรู้ว่าชายที่ตนร้องขอความเมตตาคือ อีแทกิล นักล่าทาสที่ถูกกล่าวขานว่ามีใจคอโหดเหี้ยมและหน้าตาอัปลักษณ์เหมือนสัตว์เดรฉาน

วันรุ่งขึ้น แทกิล นำทาสมาส่งมอบให้หัวหน้าผู้ตรวจการเพื่อแลกกับค่าจ้าง ระหว่างทั้งคู่กำลังต่อรองราคาค่าจ้าง ทาสอ๊บบ๊อก เกิดอดรนทนฟังไม่ได้ จึงแสดงความไม่พอใจออกมา แต่สุดท้ายก็ต้องยอมจำนน

ทันทีที่ได้ยินหัวหน้าผู้ตรวจการพูดถึง "ออนยอน" หญิงสาวที่เขาตามหามานาน ใบหน้าของแทกิลก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขึม  เขาขอให้หัวหน้าผู้ตรวจการช่วยสืบหาเบาะแสของออนยอนโดยแลกกับค่าจ้างจำนวนหนึ่ง แต่ออนยอนยังคงหายไปอย่างไร้ร่องรอย


อีกด้านหนึ่ง แทฮา ซึ่งเป็นทาสของทางการ ก็ก้มหน้าก้มตาทำงานเป็นทาสรับใช้ที่คอกม้าอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวและหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า ถึงแม้จะถูกหัวหน้าทาสโขกสับและทำร้ายบ่อยครั้ง เขาก็ไม่เคยคิดที่จะตอบโต้ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว ก่อนหน้านี้เขาเคยเป็นทหารองค์รักษ์และเป็นนักรบผู้เก่งกล้า ที่เคยสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับชอลวุง ซึ่งกลายมาเป็นเจ้านายของเขาในปัจจุบัน


ด้านวังซอนและเชที่อยู่ในห้องอาบน้ำ ต่างก็ไม่รู้ว่าถูกหญิงสาวแอบดู วังซอนยังคงบ่นเรื่องที่ต้องซักผ้า และอยากได้ทาสหญิงมาทำหน้าที่แทนเขาสักคน ถึงแม้จะต้องทำงานของผู้หญิง แต่เมื่อถึงเวลาเจ้าชู้ หรืออยู่ต่อหน้าหญิงสาว ลีลาของเขาก็แพรวพราวและกะล่อนสุดๆ

ส่วนเช ซึ่งเป็นคนสุขุมและพูดน้อยที่สุดในบรรดา 3 พยัคฆ์  กลับกลายเป็นคนเนื้อหอมที่สุด เพราะมีสาวๆ มาหลงรักและคอยเอาใจถึง 2 คน ถึงแม้เขาไม่มีทีท่าว่าจะสนใจใคร แต่ก็ไม่ได้ทำให้หญิงสาวละความพยายาม ซึ่งมักสร้างความขบขันให้กับวันซอนและแทกิลเสมอ


แทกิลมีคู่ปรับเป็นนักล่าทาสรุ่นใหญ่ ชื่อ จีโฮ ซึ่งในอดีตทั้งคู่เคยร่วมงานกันมาก่อน (แต่ปัจจุบันกลายเป็นคู่แข่งในธุรกิจล่าทาส) จีโฮรู้สึกว่าตนมีบุญคุณและเป็นต่อแทกิล เพราะล่วงรู้เรื่องราวในอดีตอันเป็นจุดอ่อนของเขา  เมื่อเห็นว่าผลงานการล่าทาสของแทกิลได้รับการยอมรับ จีโฮจึงชักชวนแทกิลให้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง แต่แทกิลกลับหัวเราะและตอบว่า "เสือจะทำงานรับใช้สุนัขได้อย่างไร"

จีโฮสั่งลูกน้องรุมยำแทกิล แต่แทกิลซึ่งเตรียมพร้อมอยู่แล้ว ก็สามารถจัดการลูกน้องของจีโฮได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

ด้านอ๊บบ๊อก  หลังถูกจับกลับไปเป็นทาสก็ถูกสักคำว่า "ทาส" บนในหน้าเพื่อเป็นการลงโทษ ส่วนทาสหญิงที่ถูกจับกลับมาด้วยกันถูกมัดเท้าแล้วจับห้อยหัวลงมา ขณะที่ลูกสาวของเธอถูกจับไปขัดสีฉวีวรรณก่อนส่งตัวไปบำเรอชายชราเจ้าของบ้าน


เด็กหญิงอ้อนวอนชายชราให้เมตตาแม่ของเธอ ชายชรารับปากส่งๆ เขาเริ่มหมดความอดทนเมื่อเด็กน้อยร้องขอซ้ำแล้วซ้ำเล่าพลางร่ำไห้ด้วยความหวาดกลัว จึงตรงเข้าไปถอดเสื้อผ้าเด็กหญิง โชคดีที่แทกิลโผล่เข้ามาทันเวลา

แทกิลตรงเข้าไปค้นเงินก่อนที่จะพาเด็กหญิงออกจากห้อง จากนั้นจึงช่วยแก้มัดและพาตัวแม่ของเธอออกมา อีกทั้งยังโยนเงินให้และแนะนำวิธีหลบหนี เมื่อรู้ว่าผู้มีพระคุณคือแทกิล สองแม่ลูกถึงกับอึ้ง เพราะจำได้ว่าเขาคือนักล่าทาสที่จับตัวพวกเธอกลับมา

แทกิลนำภาพวาดออนยอนไปให้ศิลปินบังวาด ศิลปินบังแย้งว่าแทกิลให้เขาวาดภาพออนยอนแบบเดิมๆ มานานนับสิบปีแล้ว ป่านนี้ใบหน้าออนยอนน่าจะเปลี่ยนไปจากเดิมเพราะเธอคงจะอายุ 25 ปีแล้ว ไม่ใช่เด็กหญิงใสซื่อเหมือนเมื่อก่อน แม้แต่ตัวแทกิลเองถ้าเจอเธออีกครั้ง ก็อาจจะจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ


ในอดีตแทกิลเป็นลูกชนชั้นขุนนาง เขามีใจให้กับออนยอนซึ่งเป็นทาสรับใช้ในบ้าน เมื่อเห็นว่าออนยอนต้องทำงานท่ามกลางหิมะอันหนาวเหน็บ เขาจึงลงทุนจุดไฟเผาตำราเพื่ออุ่นก้อนหินให้ออนยอนนำไปประคบมือ

ช่วงที่เกิดสงครามแมนจู บ้านของแทกิลก็ถูกทหารบุกจู่โจมด้วยเช่นกัน เขาจึงเอาตัวรอดด้วยด้วยการแอบอยู่ใต้ถุนบ้าน และมองเห็นออนยอนถูกทหารลากตัวออกไป ออนยอนเองก็เห็นเขาเช่นกัน เธอพยายามร้องขอความช่วยเหลือแต่ในที่สุดก็ถูกทหารแมนจูลากตัวออกไป


แทกิลถือเคียวตามหลังออนยอนและทหารแมนจูไปติดๆ จากนั้นจึงใช้เคียวเกี่ยวหลังหทารเพื่อช่วยออนยอน ทหารแมนจูหันกลับมาด้วยสายตาอาฆาตและหวังปองร้าย แต่แล้วก็มีนักรบหนุ่มรูปงามมาช่วยทั้งคู่เอาไว้ เขาผู้นั้นก็คือ "แม่ทัพแทฮา" นั่นเอง

แม้จะรอดชีวิตจากสงคราม แต่ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ก็ไม่เป็นความลับอีกต่อไป บิดาของแทกิลโกรธมากจึงลงโทษออนยอนและเตรียมขายเธอในวันรุ่งขึ้น พี่ชายออนยอนเข้าช่วยน้องสาวด้วยการฆ่าบิดาของแทกิล และจุดไฟเผาบ้านจนวอดทั้งหลัง อีกทั้งยังทำร้ายแทกิลบริเวณใบหน้าจนกลายเป็นแผลเป็นในเวลาต่อมาอีกด้วย นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แทกิลก็ออกตามล่าทั้งคู่ตลอดระยะเวลานับสิบปี


* ภาพ captures / ละครเคบีเอส

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา