วันอังคารที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2555

เจจุงวอน ตำนานแพทย์แห่งโชซอน ตอนที่ 23




ฮวางจอง เดินทางมาที่เจจุงวอนเพื่อรักษาลูกสาวของท่านเจ้ากรมกลาโหมที่ป่วยหนัก

“พี่ฮวาง ดีใจจริง ๆ ที่ได้เจอท่านอีก” โก กล่าว

“ข้าก็เหมือนกัน แต่ท่านไม่จำเป็นต้องเรียกข้ายกย่องอย่างนั้น ตอนนี้ข้าไม่ใช่แพทย์ฝึกหัดแล้วล่ะ”


“ยังไง สำหรับข้าท่านก็ยังเป็นพี่ฮวางคนเดิมอยู่ ท่านจะให้ข้าเรียกท่านเป็นอย่างอื่นไม่ได้หรอก เอาเป็นว่า ข้าละอายจริง ๆ ที่แก้ปัญหาแค่นี้ไม่ได้” โก กล่าว

“ไม่ใช่หรอกน่า” ฮวางจอง กล่าว

“นักศึกษาฮวาง ตอนนี้นางอาการหนักมากแล้ว” ซ๊อกรัน กล่าว

“ใต้เท้า อีกไม่นาน โดยังหลานข้า...” คูฮอน กล่าว

“คนคนนี้เป็นใครเนี่ย ทำไมเมื่อกี้ข้าถึงไม่เห็นเค้าเลย” ซุนฮอง กล่าว


“อ้อ ครับ ๆ ๆ คือ...”

“แพทย์ฝึกหัดชื่อฮวางจองค่ะ เค้าเป็นนักศึกษาแพทย์ที่เก่งไม่แพ้นักศึกษาเบ๊กค่ะ” ซ๊อกรัน กล่าว

“งั้นก็ฝากท่านด้วยนะ”

“ครับ ๆ ๆ” ฮวางจอง กล่าว

“อ้อ นักศึกษาฮวาง มานี่หน่อยสิ"



“เจ้ายังมีหน้ากลับมาที่นี่อีกเหรอ ต้องให้จับส่งกองปราบเจ้าถึงจะพอใจใช่มั้ย?”

“ผู้จัดการเบ๊ก อย่าทำอย่างนี้เลยค่ะ เค้ามาที่นี่เพื่อมาช่วยกู้สถานการณ์” ซ๊อกรัน กล่าว

“ถ้าท่านเจ้ากรมกับท่านเสนารู้ว่า เค้าเป็นคนฆ่าสัตว์ละก็ เจ้าคิดว่าพวกเค้าจะไว้ชีวิตพวกเราที่นี่รึไง”

“แล้วเค้าจะรู้เรื่องนั้นได้ยังไง ถ้าตราบใดที่ท่านรู้จักปิดปากให้สนิท” โอ กล่าว


“นี่ ผู้จัดการโอท่านนี่ยังไงกันนะชอบมาขัดจังหวะจุ้นเรื่องของคนอื่นทุกที”

“ที่ข้าพูดอยู่นี่คือจุ้นเรื่องคนอื่นเรอะ หะ? ถ้าโดยังมาถึงที่นี่ทันและช่วยคนไข้รอดได้ก็ดี แต่ถ้านางตายโดยที่ยังไม่ทันได้รักษา ท่านลองคิดดูว่าเป็นไง หืม? แบบนั้นพวกเราก็ไม่ต้องรับผิดชอบแล้วรึไง” โอ กล่าว

“หลังจากที่รักษาคนไข้แล้ว จะเกิดปัญหาอะไรขึ้นข้าก็รู้ดี ข้าแค่จะคอยบอกขั้นตอนอยู่ข้างนอก โดยไม่เข้าไปรักษานางเอง” ฮวางจอง กล่าว

“ค่ะ ข้าจะเป็นคนเจาะปอดนางเอง” ซ๊อกรัน อาสา

“งั้นจำใส่กะโหลกไว้ ว่าเจ้าแค่มาแทนที่โดยังชั่วคราว ถึงจะแค่คอยบอกวิธีรักษาอยู่ข้างนอก ก็ต้องบอกไปว่า โดยังของข้าเป็นคนรักษานางเองเข้าใจที่พูดมั้ย” คูฮอน กล่าว


“ครับ เข้าใจครับท่าน” ฮวางจอง กล่าว

“แย่แล้วค่ะ ๆ นักศึกษาฮวาง คนไข้กำลังหายใจหอบใหญ่แล้วค่ะ คราวนี้รุนแรงกว่าเดิมอีก” นังนัง รายงาน

อาการลูกสาวเจ้ากรมเริ่มหนักขึ้น ฮวางจอง จึงจะเข้าไปดูอาการฟังและดมกลิ่นเพื่อวินิจฉัยอาการ แต่ซุนฮองห้ามบอกให้ยืนถามอยู่ข้างนอก “งั้นขอโทษด้วยครับ คุณหนู ตอนนี้อาการคนไข้เป็นยังไงบ้าง?”

“ข้ากำลังตบหลัง ให้คนไข้ไอเมือกเลือดออกมา” ซ๊อกรัน ตะโกน บอก

“ท่านทำได้ดีมาก แล้วการหายใจ การหายใจเป็นยังไงบ้าง?” ฮวางจอง กล่าว

“ดีขึ้นมาหน่อยแล้ว” ซ๊อกรัน กล่าว

“งั้นทำต่อไป” ฮวางจอง กล่าว

“นี่พวกเจ้า ไปเอาอะไรมาปิดหน้าต่างไว้สิ” ซุนฮอง สั่ง

“ทุบต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะไม่มีเลือดออกมา” ฮวางจอง ตะโกนบอกซ๊อกรัน

“ค่ะ เข้าใจแล้ว”

“เบา ๆ กันหน่อยสิ คุณหนูเจ็บจะแย่แล้ว” วอลอา กล่าว

“เรากำลังรักษาไม่ได้ตีนางสักหน่อย” มียอง อธิบาย

“หยุดก่อนคงไม่ไหวแล้ว ต้องรีบเจาะปอดให้คนไข้เดี๋ยวนี้”  ซ๊อกรัน บอกทุกคน


“รีบไปเตรียมเครื่องมือให้พร้อม เตรียมการเจาะปอดให้คนไข้ด่วน”  ฮวางจอง สั่ง

“เอ่อ ข้าว่าอย่ายืนอยู่นี่เลย  ไปนั่งดื่มชากับข้าที่ห้องไปนั่งรอที่นั่นดีกว่าครับ ไปรอข้างนอกเถอะ” คูฮอน กล่าว

“ใช่ใต้เท้า อย่าอยู่ตรงนี้เลย  ท่านอยู่ตรงนี้จะรบกวนการรักษาไปเปล่า ๆ เดี๋ยวข้าจะคอยเฝ้าอยู่ที่นี่ จะไม่มีเรื่องผิดทำนองคลองธรรมเกิดขึ้นอย่างแน่นอนขอรับใต้เท้า” โอ กล่าว

“ใต้เท้า  ทำตามที่เค้าบอกเถอะ”

“ข้าก็หวังว่า จะไม่เกิดเรื่องไม่ดีไม่งามขึ้นที่นี่นะ” ซุนฮองกล่าว

“ท่านวางใจได้  พวกข้าจะไม่สะเพร่าเป็นอันขาด” คูฮอน รับปากอย่างดี

โดยัง ขี่ม้าจะกลับเจจุงวอน พบกับ ยู หมอฮอร์ตั้น ก็บอกว่าจะกลับไปเจจุงวอน ได้รับรายงานว่ามีคนไข้ที่ต้องได้รับการเจาะปอด

“งั้นคงเป็นลูกบ้านเจ้ากรมกลาโหม” หมอฮอร์ตั้น กล่าว

“เอ๊ะ ถ้าเป็นเจ้ากรมกลาโหม  ก็คือท่านที่ช่วยพูดให้ข้าตอนที่ถูกสอบสวนจนข้าพ้นข้อหามาได้”

“อาจจะเป็นลูกสาวของเค้า ที่ป่วยแล้วถูกส่งมารักษาที่เจจุงวอน”

ฮวางจอง และซ๊อกรัน จะเริ่มเจาะปอดให้ลูกสาวเจ้ากรมกลาโหม แต่โอบอกให้รออีกหน่อยเผื่อโดยังจะกลับมาถึง

“ตอนนี้อย่างเร็วก็น่าจะมาได้แค่ครึ่งทาง ข้าเคยไปแจมัลโปบ่อยข้ารู้ดี” ซ๊อกรัน กล่าว

“งานนี้แย่แน่  สีหน้าคนไข้..”  โก กล่าว


“ผู้จัดการโอ  ถ้าไม่ทำอะไรตอนนี้  เท่ากับเราปล่อยโอกาสจะช่วยชีวิตคนไป” ฮวางจอง กล่าว

“เจ้าฟังให้ดีนะ เจ้าห้ามเหยียบเข้าไปในห้องนี้แม้แต่ก้าวเดียว เข้าใจรึเปล่า” โอ กล่าว

“ครับ  ข้าเข้าใจครับ”

“ค่ะ ข้าพร้อมแล้วค่ะ” ซ๊อกรัน กล่าว

“ใช้นิ้วคลำหาจุดที่อยู่ระหว่างซี่โครงซี่ที่เจ็ดและซี่โครงซี่ที่แปด” ฮวางจอง สั่ง

“ค่ะ ข้าหาเจอแล้ว”

“ดี คราวนี้ใช้เข็มเจาะเข้าไประหว่างกระดูก ซี่โครงสองซี่ วิธีทำง่ายมาก ใจเย็น ๆ อย่ารู้สึกกดดัน”

“ค่ะ ข้าเข้าใจแล้วค่ะ  ข้าจะเริ่มเจาะแล้ว” ซ๊อกรัน กล่าว

“ไม่ได้นะ เข็มยาวอย่างนั้นจะแทงยังไง” วอลอา ไม่ยอมให้ซ็อกรันทำ

“ชู่ว์ เบา ๆ หน่อยสิ” มียอง สั่ง

“นางไม่หายใจแล้วค่ะ หน้านางเขียวแล้วค่ะ  เหมือนเด็กที่เพิ่งเกิดคนนั้นเลย” นังนัง กล่าว

“คนไข้ไม่รู้สึกตัวแล้ว”

“เกิดอะไรขึ้นครับ” ฮวางจอง ถาม

“เหมือนมีเสมหะอุดหลอดลม” ซ๊อกรัน กล่าว

“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?” โอ ถาม

“นางบอกว่าเสมหะเข้าไปอุดหลอดลมแล้ว ดีไม่ดีคนไข้ต้องตายแน่ ทำไงดี” โก กล่าว

“ดูดเสมหะ ใช้เครื่องดูดออกมา” ฮวางจอง สั่ง



  
“วิธีนี้ไม่ได้ผล  คุณหนู  ฟื้นขึ้นมาเร็ว  เอาเสมหะออกมา ทำตามที่บอกนะ” ซ๊อกรัน กล่าว

“หา คุณหนู” วอลอา กล่าว

“ฟื้นขึ้นมาสิ ลืมตาขึ้นมา”

“ทำยังไงดี นางเหมือนตายแล้ว นางไม่หายใจ แล้วก็ไม่ขยับแล้วด้วย” นังนัง กล่าว

“นังนัง  ใจเย็นไว้” มียอง บอก

“หาชีพจรไม่เจอ นักศึกษาฮวาง จะทำยังไงดี” ซ๊อกรัน ตะโกนถาม

“นักศึกษาฮวาง นางเหมือนตายไปแล้ว”  นังนังออกมาบอก

“นักศึกษาฮวาง ช่วยข้าที” ซ๊อกรัน กล่าว

“เฮ้ นี่เจ้าจะทำอะไร  ไม่ได้ข้าบอกเจ้าแล้วไง” โอ ห้ามฮวางจอง เข้าไป



“นางอาจจะตายได้นะ” ฮวางจอง กล่าว

“ไม่งั้นเราทุกคนต้องตาย ถ้าเจ้าเข้าไปแล้วเจ้าจะช่วยให้นางรอดได้เหรอ” โอ ถาม

“ข้าปล่อยให้คนไข้ตายไปต่อหน้าไม่ได้  ผู้จัดการโอ ไม่ว่ายังไง ก็ต้องช่วยชีวิตนางให้ได้”

“ไม่ได้  เข้ามาไม่ได้นะ” วอลอา มาช่วยห้าม

“ฟื้นขึ้นมาที ได้โปรดฟื้นขึ้นมา” ฮวางจอง กล่าว

“ทำยังไงดี” ซ๊อกรัน ถาม

“เราคงต้อง...ทำการเปิดหลอดลมนางก่อน  ตรงนี้  เราต้องเจาะเข้าไปตรงนี้” ฮวางจอง กล่าว

“หลอดลมเหรอ”

“ส่งมีดมา” ฮวางจอง บอกซ็อกรัน

“ไม่ได้นะ จะทำกับคุณหนูอย่างนี้ไม่ได้” วอลอา เข้าห้าม

“เราทำเพื่อช่วยชีวิตคุณหนูเจ้านะ” ซ็อกรัน กล่าว



“หลอดดูด หลอดลมของนางเปิดแล้ว ผ้าก๊อซ  ต้องทำให้นางหายใจต่อ  ข้าต้องการท่อแข็ง ๆ หน่อย” ฮวางจอง กล่าว

“จะไปเอาที่ไหนคะ  ท่อสายยาง  เรามีแค่ท่อสายยางเท่านั้น” มียอง กล่าว

“นิ่มเกินไปใช้ไม่ได้” ฮวางจอง บอก

“งั้นข้าไปเอาพู่กันมาได้มั้ย เพราะว่าด้ามพู่กัน ข้างในก็กลวงเหมือนกันนี่” นังนัง ถาม

“ไม่ได้ ด้ามพู่กันหยาบเกินไป” ฮวางจอง กล่าว

“ใช้ปากกาขนนกดีมั้ยคะ ตรงกลางก็กลวงเหมือนกัน และข้าก็เคยได้ยินว่า หมอตะวันตกก็เอามาใช้เชื่อมต่อหลอดเลือดด้วยเหมือนกัน” ซ๊อกรัน เสนอ



ฮวางจอง บอกให้ซ็อกรัน รีบเจาะปอดคนไข้ แต่นางเจาะไม่เข้า ฮวางจอง จึงบอกให้ซ๊อกรัน มาประคองคนไข้ โดยตนเองจะลงมือทำเอง เมื่อฮวางจองทำการรักษาเองก็ทำให้ลูกสาวเจ้ากรมกลาโหมกลับมาหายใจเป็นปกติได้

โดยังเดินทางกลับมาถึง ก็ถามหาคนไข้ โอดึงโดยังออกมาบอกว่ารักษาคนไข้สำเร็จแล้ว


“อะไร นี่มีการเจาะคอด้วยเหรอ?” โดยัง ถาม

“ใช่แล้ว เพราะตอนนั้น เราไม่มีทางเลือกจริง ๆ ตอนนั้นลูกสาวเจ้ากรมหายใจไม่ออกจนหน้าเขียวไปหมดแล้ว ถ้าข้าไม่ให้พวกเค้าทำ วันนี้เราอาจจะได้ไปส่งศพนางแล้ว”

“เจาะคองั้นเหรอ?”

“อะไร เจ้า เป็นอะไรไปเหรอ?” คูฮอน ถาม

“ไม่มีอะไร เอาเป็นว่าพวกท่านทำดีมาก การช่วยคนไข้สำคัญกว่าอะไรทั้งนั้น แต่ว่า ถ้าเรื่องที่เค้าเข้าไปรักษาคุณหนูถูกแพร่ออกไป ไม่ใช่แค่เค้าที่เดือดร้อน เจจุงวอนก็จะเดือดร้อนไปด้วย” โดยัง กล่าว

“เฮ้อ จะว่าไปแล้ว นาน ๆ ข้ากับผู้จัดการโอจะมีความคิดตรงกัน เราตกลงว่าจะให้ทุกคนปิดปากไว้”

“พวกเราจะไม่พูดแน่แต่ที่น่าห่วงก็คือสาวใช้ที่ชื่อวอลอา นางก็รู้ว่าเรื่องนี้มันเป็นเพราะจำเป็น เลยรับปากว่าจะเก็บเป็นความลับ” โอ กล่าว

“ถ้าอย่างนั้นก็ดี”

ใต้เท้ายู และหมอฮอร์ตั้น เดินทางมาหาหมอเฮรอน

“ชาบาเลต์นี่หอมมากเลยนะ” ยู กล่าว

“ครับ คนที่นี่เค้าดื่มชาข้าวกันทั้งนั้นเลย” หมอเฮรอน กล่าว

“อ้อ ตอนฉันมา ระหว่างทางเจอนักศึกษาเบ๊กด้วย เห็นเค้าบอกว่าต้องรีบไปช่วยเจาะปอดให้คนไข้” หมอฮอร์ตั้น กล่าว

“ใช่ แต่เหมือนคนไข้จะอยู่ขั้นโคม่า แต่นอกจากนักศึกษาเบ๊ก เจจุงวอนยังตามฮวางจองให้มาช่วยเค้าด้วย ในโทรเลขบอกอย่างนั้น”

“ไม่ว่าเป็นใคร ขอแค่ไปช่วยคนป่วยได้ทัน ก็ถือเป็นโชคดีแล้ว ทำไมท่านถึงทำหน้าหนักใจล่ะ?”

“เพราะถ้าการรักษาเกิดผิดพลาด แล้วความจริงที่ฮวางจอง เป็นคนฆ่าสัตว์ถูกแพร่ออกไปให้คนอื่นรู้ละก็ มันจะเป็นยังไง?”

“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง มันก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่มาก” ยู กล่าว

“ท่าน ผอ. มีโทรเลขจากเจจุงวอนว่า โดยังรักษาคนไข้เรียบร้อยแล้ว การรักษาประสบความสำเร็จดี หึ ไม่เสียทีที่เป็นโดยัง ฮะ ๆ ๆ” เจอุ๊ก กล่าว


“นักศึกษาเบ๊ก น่าจะยังไปไม่ถึงที่เจจุงวอนได้” หมอเฮรอน กล่าว

“หมายความว่า..นักศึกษาฮวาง เป็นคนเจาะปอดคนไข้รึ” ยู ถาม

“เค้าเอาชีวิตเข้าเสี่ยง เพื่อช่วยคนไข้อีกแล้วเหรอ?”

“ใช่ ถ้าเห็นคนเจ็บ ต่อให้บุกน้ำลุยไฟก็จะฝ่าเข้าไป” ยู กล่าว

เมื่อรักษาเสร็จฮวางจองจะขอตัวกลับ แต่ ซ๊อกรันของให้เขาอยู่เป็นเพื่อนช่วยฟังการบอกอาการคนป่วยกับญาติ

“อีกเดี๋ยวก็คงฟื้นค่ะ การรักษาประสบความสำเร็จดีค่ะ” ซ๊อกรัน กล่าว

“หมายความว่านางหายดีแล้วใช่มั้ย?” ซุนฮอง ถาม

“ยังไม่หายดีหรอกค่ะ แต่ตอนนี้อาการของนางดีขึ้นมากแล้ว และจะหายดีขึ้นเรื่อย ๆ”

“ช่วยบอกได้มั้ยว่ารักษายองอินยังไง”

“นางเยื่อหุ้มปอดอักเสบจนทำให้เกิดเป็นหนอง หนองที่คั่งอยู่เข้าไปอุดทางเดินหายใจ เลยทำให้คนไข้หายใจไม่ออก และทำให้มีอาการไอไม่หยุดค่ะ” ซ๊อกรัน บอก

“เรื่องนั้นพวกข้ารู้ดี ถึงถามว่ารักษายังไง แล้วผ้าปิดแผลที่คอนางนั่นมันคืออะไร?”

“ข้าจะอธิบายให้ฟังค่ะ คนไข้ไม่มีแรงจะไอเอาของเหลวที่อุดตันออกมาได้ จนทำให้ของเหลวเข้าไปอุดหลอดลมไว้ค่ะ”

“อะไรนะ ถ้างั้นนางหายใจยังไงล่ะ?”

“ตอนนั้นนางหายใจไม่ได้จนหน้าเขียว ถ้าไม่ทำการรักษานางคงตายแล้ว ข้าจึงจำใจต้องเจาะเปิดหลอดลม ที่คอของนาง เป็นรูขนาดเท่านิ้วก้อย เพื่อช่วยให้นางหายใจได้ปกติ”

“แล้ว.. เจ้าเป็นคนทำเองทั้งหมดเหรอ?”

“คะ?” ซ๊อกรัน ตอบ

“ค่ะ นางเป็นคนทำเอง แต่มีนักศึกษาฮวางคอยบอกอยู่ข้างนอก ต่อจากนั้นนางค่อยเจาะปอดรักษาคุณหนูค่ะ” มียอง ช่วยโกหก

“ถ้าเป็นอย่างนี้ คอลูกสาวข้าก็มีแผลเป็นน่ะสิ” ซุนฮอง กล่าว

“จะมีแผลเป็นบ้างเล็กน้อยค่ะ แต่แผลเป็นนั้นแลกมาซึ่งชีวิตของนางนะคะ”

โดยังอยากรู้การรักษาของฮวางจอง จึงมาถามว่าเวลาแบบนั้นนึกวิธีเจาะหลอดลมได้ยังไง


“ข้าแค่คิดว่าหลอดลมอุดตันจนหายใจไม่ออก ก็ควรจะทำการเปิดช่องเพื่อให้คนไข้หายใจได้ก่อน”

“เจ้าเลยเจาะหลอดลมที่คอนาง ถ้าเกิดพลาดอาจจะตัดถูกหลอดเลือดแดง ผลคงไม่อาจจะคาดคิด แถมหลอดอาหารอยู่หลังหลอดลมอีกนะ”

“ใช่ ตอนนั้นข้าถึงต้องระวังมาก”

“ทั้งที่เพิ่งเคยทำครั้งแรกเนี่ยนะ”

“ตอนนั้นข้าไม่มีเวลาคิดอะไรเยอะ”

“เอาเถอะ เอาเป็นว่าขอบใจมาก ถ้าไม่ได้เจ้ามา ข้ากลับมาข้าอาจจะมาพบคนไข้เป็นศพไปแล้ว”

“ครับ”

“เจ้ารักษาเสร็จแล้ว ทำไมถึง..” โดยัง ถาม

“ข้าต้องกลับไปแล้ว เพราะข้ายังต้องกลับไปหุงข้าวให้พ่อกิน”

“เดี๋ยวอย่าเพิ่งไป ใครเป็นคนไปตามเจ้ามาช่วย”

“คือว่า..”

“เอาเถอะ ไม่เป็นไร จากนี้ไปคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้จนต้องไปตามเจ้ามาอีกแล้ว เพราะจะทำให้เจ้าเดือดร้อนได้”

“ครับ ต้องขอบคุณท่านมาก” ฮวางจอง กล่าว



“อ้าว พี่ฮวาง นึกว่าท่านกลับไปแล้ว อ้อ เสื้อชุดนี้ ท่านเอากลับไปด้วยสิ”

“อ้อ ไม่เป็นไรหรอก”

“ทิ้งไว้ก็ไม่มีใครใส่อยู่แล้ว ท่านเอากลับไปเถอะ”

“ไม่เป็นไรจริง ๆ เพราะจากนี้ไป ข้าไม่จำเป็นต้องใช้อีกแล้ว งั้นข้าขอตัวกลับก่อนนะ”

“อ้อ รอเดี๋ยว รอเดี๋ยวนะ นี่”

“นี่คืออะไรเหรอ?”

“ของในนี้เป็นยาน่ะ พ่อท่านอาการดีขึ้นรึยัง?” โก กล่าว

“ไม่ได้ ของพวกนี้เป็นของเจจุงวอนนะ” ฮวางจอง กล่าว

“ยาพวกนี้เบิกมาตามใบสั่งยา ข้าขออนุญาตหมอฮอร์ตั้นแล้วนี่ ข้าเป็นคนที่รักษากฎเกณฑ์นะ”

“งั้นก็ขอบคุณมาก ข้าจะใช้มันให้ดี”

“เอ่อ ฮะ ๆ ไม่เป็นไรหรอก แล้วอีควัก สบายดีมั้ย?”

“ครับ”

“ฮิ ๆ ๆ ตั้งแต่อีควักจากไป เจจุงวอนก็เงียบเหงาไปเยอะเลย”

“เค้าก็คงจะคิดถึงที่นี่มากเหมือนกัน”

“เมื่อได้เห็นภาพท่านรักษาคนไข้ สิ่งที่ทำให้ข้าเศร้าใจ คือคนที่มีความสามารถขนาดนี้ กลับไม่สามารถอยู่นี่ได้”

ฮวางจอง กลับมาถึงบ้าน พ่อถามว่างานที่ทำราบรื่นดีมั้ย

“ครับ คนป่วยคนนั้นเป็นโรคเดียวกับท่านแม่”

“ที่มีหนองอยู่ในปอดน่ะเหรอ เป็นยังไงบ้าง”

“นางปลอดภัยแล้ว”

“เฮ้อ ถ้าหากเจ้าได้เรียนหมอตั้งแต่ตอนนั้น เจ้าก็คงช่วยชีวิตแม่ของเจ้าได้ ข้าผิดเองที่ปิดกั้นความสามารถเจ้า”

“ข้าไม่รู้สึกเสียดายเลยสักนิด ยังไม่กินข้าวใช่มั้ย เดี๋ยวข้าไปทำมาให้” ฮวางจอง กล่าว

ชักแท ขอร้องฮวางจอง ไม่ให้ไปที่เจจุงวอนอีก เขาก็รับปาก

“แต่ใจข้าถึงรู้สึกเคว้งคว้างมาก ตอนถูกไล่ออกมายังไม่ขนาดนี้เลย แต่วันนี้พอข้าเดินออกมา หัวใจมันว่างเปล่าไปหมด” ฮวางจอง กล่าว

“ก็ตอนนั้นไม่มีเวลาให้คิดนี่” ชักแท กล่าว



“เจ้ารู้มั้ยว่า บางครั้งข้าก็ไม่รู้ว่านี่เป็นมือใคร มันเป็นมือของโซกึนแก หรือว่ามันเป็นมือของฮวางจองกันแน่”

“ข้าก็งงกับตัวเองเหมือนกันว่าข้าเป็นอีควักหรือชักแทกันแน่” ชักแท กล่าว

“ข้าจะใช้มือนี้ทำอะไรต่อ จับมีดฆ่าสัตว์ก็ไม่ได้ จะจับมีดผ่าตัดก็ไม่ได้เหมือนกัน ข้าควรจะทำอะไร?”



ยองอินถามวอลอา สาวใช้ว่าคนที่รักษาตนคือใครใช่หมอผู้หญิงคนนั้นแน่หรือ วอลอาโกหกว่าใช่เป็นหมอหญิง ส่วนหมอผู้ชายคอยช่วยบอกอยู่นอกห้อง

โดยังสอบถามโกว่ารู้เรื่องที่ฮวางจองเจาะคอเปิดหลอดลมรึเปล่า

“ไม่ใช่แค่รู้นะ ข้าเห็นเองกับตา เฮ้อ ฮวางจองที่ข้าเห็นในห้องผ่าตัดวันนี้ ไม่ใช่คนที่คนอย่างข้าจะเทียบได้เลย วิธีรักษาแบบนั้นไม่เคยเห็นในหนังสือเล่มไหน หรือว่านักศึกษาเบ๊กเคยเห็นมาแล้ว”

“เฮ้อ ข้าเองก็ ไม่แน่ใจเท่าไหร่” โดยัง กล่าว

“แค่ถามอาการฮวางจองก็วินิจฉัยโรคออกมาได้อย่างถูกต้อง ทักษะของเค้ามันอาจเกินกว่าทฤษฎีและตรรกะที่เราจะเข้าใจได้ สถานการณ์นั้นเค้ายังทำเรื่องมหัศจรรย์ออกมาได้ เป็นอัจฉริยะจริงๆ เพิ่งกลับมาจากแจมัลโปคงจะเหนื่อย ยังมาหาข้อมูลอะไรอยู่อีกเหรอ?” โก กล่าว

“ไม่มีอะไรหรอก”

“ไปพักผ่อนมาก ๆ นะ”

โดยังมาตรวจดูแผลของยองอิน เมื่อได้พูดคุยเรื่องการทำแผลนางก็คิดกลับไปถึงตอนที่หมอเข้ามารักษาเจาะคอของตนก็จำได้ว่าคนที่เข้ามาเจาะคอไม่ใช้ซ๊อกรันแต่เป็นหมอผู้ชาย เมื่อโดยังตรวจแผลเรียบร้อยนางก็เดินออกมาข้างนอกพบกับนังนัง ซึ่งได้แนะนำตัวว่าเป็นพยาบาลของที่นี่ อากาศข้างนอกหนาวจึงขอให้ยองอินเข้าไปข้างใน ยองอิน จึงบอกให้นังนังเข้าไปก่อนตนเองเดินเข้าไปเองได้ เมื่อนังนังเข้าไปแล้วยองอินก็ปีนขึ้นไปที่ประตูทางเดินนำผ้ามาจะผูกคอตาย



“ท่านพ่อคะ ท่านแม่คะ ขอโทษด้วยที่ลูกอกตัญญู คุณชายคะ ถึงข้าจะถูกผู้ชายอื่นถูกเนื้อต้องตัวโดยไม่มีเจตนาก็ตาม แต่ข้าก็ไม่ยอมให้รักษาชีวิตข้าด้วยวิธีแบบนี้”

ยองอินผูกคอตาย นังนังเห็นว่านางไม่เข้ามาข้างในซักที เมื่อเดินกลับออกมาดูก็พบกับภาพที่น่าหวาดเสียว ตกใจร้องออกมา

“อา.. คุณหนู ตายแล้ว เกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ คุณหนูผูกคอตายแล้วค่ะ” นังนังตะโกนสุดเสียงจากนั้นก็วิ่งไปบอกโดยัง จากนั้นทุกคนรีบมาที่ประตู



“คุณหนู ๆ” วอลอา ตะโกนเรียก

“ยองอิน ทำไมเจ้าถึงทำแบบนี้ ทุกคนอุตส่าห์ช่วยเจ้าจนรอดแล้ว ทำไมจู่ ๆ เจ้าถึงได้.. ฮือ... ลืมตาขึ้นมาสิ”

“คุณหนู ๆ”

“ผูกคอตายทำไม นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ” มียอง กล่าว จากนั้นโดยังสั่งให้มงชงไปแจ้งที่กองปราบ จากนั้นเขาไปส่งสาร บอกให้หมอเฮรอนกลับมาด่วนคนไข้ปอดอักเสบฆ่าตัวตาย

คนไข้จำนวนมากมาที่เจจจุงวอนเพื่อขอรักษาตัวแต่มองชงต้องบอกให้กลับไปก่อน วันนี้เจจุงวอนมีเรื่องยังเปิดรักษาไม่ได้ให้มาใหม่พรุ่งนี้

“โธ่เอ้ย..นี่มันฟ้าผ่ากลางวันแสก ๆ ชัด ๆ” คูฮอน กล่าว

“นางเดินไปผูกคอตายที่ระเบียงทางเดินที่อยู่ห่างจากห้องผู้ป่วยเพียงร้อยก้าว” คังวุค กล่าว

“เอ่อ คือว่า เป็นไปได้มั้ยที่มีคนฆ่านางแล้วค่อยจับนางไปแขวนไว้ เพื่อจะใส่ร้ายเจจุงวอนน่ะ” โอ ตั้งขอสงสัย


“ไม่น่าจะเป็นไปได้ รอยเล็บข่วนที่คอนาง เห็นได้ว่าเกิดจากนิ้วของนางที่พยายามจะแกะเชือกตามสัญชาตญาณ ถ้ามีคนจับนางผูกขึ้นไปจริง ไม่น่าจะมีรอยข่วนแบบนั้น”

“หรือว่านางต้องการจะสื่ออะไรบางอย่าง” โดยัง ถาม

“ทำไมท่านถึงคิดอย่างนั้น” คังวุค ถาม

“ก็บางคนเลือกการฆ่าตัวตายมาประท้วงความคับแค้นบางอย่าง”

“เราอุตส่าห์ช่วยกันแทบตายกว่าจะช่วยชีวิตนางมาได้นะ”

“นางฆ่าตัวตายในที่ที่มีคนผ่านไปมามากมายอย่างนี้ หรือว่านางมีเรื่องคับแค้นใจในเจจุงวอน” คังวุค กล่าว

ชิลบกมาบอกซ๊อกรันว่า ยองอินที่มารักษาเมื่อวานได้ผูกคอตายที่ห้องตรวจโรค ซ๊อนรันจึงรีบเดินทางมาดู คังวุคซึ่งเป็นมือปราบเดินทางมาตรวจสอบเช่นกันถามว่านางมีบาดแผลที่ไหนบ้าง ชายคนหนึ่งรายงานว่า นางมีบาดแผลทั้งหมดสามที่ ด้านหลังมีรอยเข็มที่แทงเข้าไปลึกมาก



 “แผลนั้นเป็นการเจาะเพื่อระบายหนองในปอด จึงทำให้เกิดรอยแผลค้างอยู่” โดยัง อธิบาย

“อีกที่ก็คือรอยรัดของเชือก และอีกแผลก็คือแผลที่ถูกกรีดเป็นแนวนอนแล้วถูกเย็บ คอยังมีรอยข่วนเป็นแนวตรงเล็กน้อย”

“รอยข่วนนั้นเกิดจากเล็บของนางเอง นั่นแสดงว่าผู้ตายฆ่าตัวตายอย่างแน่นอน”

“ยองอิน”

“แต่มีแผลกรีดเป็นแนวนอนด้วย” คังวุค กล่าว

“ผู้ป่วยไม่สามารถหายใจเอง จึงต้องใช้วิธีนี้เพื่อช่วยชีวิตนางเอาไว้” โดยัง กล่าว

“ด้วยการเจาะคอน่ะเหรอ การรักษาทั้งหมดนี้ เจ้าเป็นคนทำเองหมดเลยรึ” คังวุค ถาม

“คะ?”

“เจ้าเป็นคนรักษาเองทั้งหมด หรือว่ามีใครทำแทนเจ้ารึเปล่า” คังวุค ซัก

“ไม่ ไม่ใช่ค่ะ ข้าเป็นคนทำเอง ข้าเป็นคนรักษานางเอง” ซ๊อกรัน กล่าว

“แต่ข้าคอยเป็นคนคอยบอกนาง สำหรับเจจุงวอน คนไข้ผู้หญิงจะมีแพทย์หญิงเป็นคนทำการรักษา แต่คนที่จะรักษาโดยการเจาะปอดได้ มีแค่ข้าคนเดียว นางจึงทำการรักษาตามที่ข้าคอยบอก” โดยัง กล่าว

“ค่ะ เป็นอย่างนั้นค่ะ”

“ในระหว่างที่ทำการรักษา อาจจะเกิดเหตุบางอย่างที่ทำให้คนไข้ยอมรับไม่ได้ บางทีการที่ไปเจาะคอคนไข้แบบนี้ เรื่องนี้ก็ยอมรับได้ยากนะ” คังวุค ถาม

“แต่ในเวลานั้น ถ้าไม่ทำแบบนี้ คนไข้คงเสียชีวิตไปแล้ว การเจาะคอรักษาเป็นเรื่องที่จำเป็น ตอนนั้นคนไข้ไม่รู้สึกตัว เลยไม่สามารถสอบถามความเห็นได้ ข้าไม่คิดว่าเรื่องนี้จะทำให้นางรู้สึกว่าถูกกระทำอย่างไม่เป็นธรรม”

“ใช่แล้วครับท่าน ขั้นตอนการรักษาไม่มีความผิดพลาดอะไร” โดยัง กล่าว จากนั้นวอลอาสาวใช้ก็ร้องไห้ออกมา

“ก่อนคุณหนูจะฆ่าตัวตาย นางได้พูดอะไรไว้บ้างรึเปล่า?” คังวุค ถามวอลอา

“วอลอา สงบสติอารมณ์หน่อย”

“ช่างเถอะ เดี๋ยวเราค่อยถามนางก็ได้ แล้วมีใครเห็นคนตายออกไปข้างนอกบ้างหรือเปล่า?” คังวุค ถาม

“ข้าเห็นคุณหนูค่ะ คือเมื่อคืนนี้ ข้าเห็นนางออกไปแล้วเอาน้ำในบ่อล้างตัวอยู่ค่ะ” นังนัง กล่าว

“ยองอินน่ะเหรอ?”

“คุณหนู ๆ คุณหนูที่น่าสงสารของข้า คนที่รักษาคุณหนูเป็นหมอผู้ชายคนนึง ไม่ใช่ผู้หญิงคนนี้ค่ะ ฮือ...” วอลอา สารภาพ

“อะไรนะ เจ้าว่าอะไรนะ”

“ข้าจะอธิบายเรื่องนี้เอง นั่นเป็นเพราะว่า” โดยัง กล่าว

“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว วอลอา เจ้าบอกข้ามาเดี๋ยวนี้ เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่”

วอลอา เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยัง บอกว่ามันเป็นความจำเป็น เพราะคุณหนูยองอินกำลังอยู่ระหว่างความเป็นความตาย นักศึกษาฮวางไม่มีทางเลือกจึงจำเป็นต้องเข้าไปในห้องนั้น

“ไหนเจ้าว่าจะเป็นคนรักษาเองไง” ลูกเสนาฯ ถาม

“ค่ะ แต่ตอนนั้น ไม่ได้ไหวพริบของนักศึกษาฮวาง ก็ไม่มีทางยื้อชีวิตคนไข้ไว้ได้ ตอนที่เจาะปอดเพื่อเอาหนองออก ตอนนั้นสถานการณ์คับขันมาก คิดว่าตอนนั้นต่อให้หมอเฮรอนอยู่ด้วย สถานการณ์นั้นก็ไม่แน่ว่าจะช่วยคนไข้ได้ เหตุการณ์ตอนนั้นทั้งลำบากและอันตรายมาก แต่นักศึกษาฮวางกลับช่วย ยื้อชีวิตคนไข้เอาไว้ได้”

“นางพูดจริงรึเปล่า?”

“ใช่ เรื่องนี้เป็นความจริง เมื่อคืนข้าเปิดตำราแพทย์ทั้งหมดที่มี ก็ไม่เจอวิธีรักษาแบบนี้อยู่เลย” โดยัง กล่าว

“ถ้างั้นทำไมพวกเจ้าต้องปิดบัง” คังวุค ถาม

“ที่ปิดบังเรื่องที่นักศึกษาฮวางเป็นคนรักษา เพราะกลัวว่า จะทำให้ท่านเจ้ากรมเสื่อมเสีย อีกอย่างในตอนนั้น คนไข้หมดสติไปแล้ว คิดว่านางคงจำอะไรไม่ได้...” ซ๊อกรัน กล่าว

“แต่ว่าคุณหนูท่านจำได้ คุณหนูยังได้ยินหมดทุกอย่าง” วอลอา กล่าว

“ถ้าเป็นอย่างนั้น ยองอินจำเรื่องอะไรได้บ้างล่ะ?”

“คงจะเป็นเรื่องที่นักศึกษาฮวางคลำที่คอนาง แล้วก็ยังถอดเสื้อนางด้วย เค้ากอดคุณหนูไว้แล้วก็เป็นคนแทงเข็มเข้าที่หลัง ดูเหมือนคุณหนูจะจำได้ทุกอย่าง” วอลอา เล่า

“ข้าพอจะเดาที่มาที่ไปของเรื่องราวได้แล้ว ตอนนี้นักศึกษาฮวางอยู่ที่ไหน?” คังวุค ถาม

“นักศึกษาฮวางไม่มีความผิดนะ” ซ๊อกรัน กล่าว

“ใช่แล้วครับท่าน ทั้งหมดเป็นความเข้าใจผิดต่อการรักษาแบบแพทย์แผนตะวันตก” โดยัง กล่าว


“ไม่มีความผิดรึ ผู้ชายคนนั้นใช้ข้ออ้างว่ารักษายองอิน ทำให้ผู้หญิงบริสุทธิ์ต้องแปดเปื้อน ยังบอกว่าไม่ผิดอีกรึ?”

“ตอนนี้นักศึกษาฮวางอยู่ที่ไหน?”

ทหารผู้คุม เดินทางมาจับฮวางจอง แจ้งกับเขาว่า บุตรสาวท่านเจ้ากรมที่ถูกเจ้าย่ำยี จนตอนนี้นางฆ่าตัวตายแล้ว ทำให้ฮวางจองตกใจมาก เขาถูกพาตัวไปพบกับลูกเสนาฯ




“เหอะ ๆ ๆ ที่แท้เจ้าก็เป็นคนฆ่าสัตว์ เป็นแค่คนฆ่าสัตว์คนนึง กล้ามาแตะเนื้อต้องตัวลูกสาวเจ้ากรม โทษที่ย่ำยีลูกสาวขุนนางใหญ่ วันนี้เจ้าจะต้องจ่ายค่าตอบแทนนั้นก่อน”

“โอ้ย ๆ ๆ” ฮวางจอง ร้องเมื่อถูกทำร้าย

หลังถูกทำร้ายร่างกาย คังวุคก็พาฮวางจอง มาพบ ซุนฮอง เขาสั่งให้ลงโทษตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด จากนั้นฮวางจอง ก็ถูกนำไปขังคุก คังวุคพบโดยัง ก็เข้าไปถาม

“ท่านดูซีดเซียวไปมากเลยทีเดียว ถึงท่านต้องรักษาคนไข้ แต่ก็ดูแลสุขภาพบ้าง”

“ขอบคุณที่ท่านเป็นห่วงข้า แต่ข้ามีคนไข้รออยู่ อยู่ที่นี่นานไม่ได้ ท่านเรียกข้ามาทำไม
เหรอ?”

“นี่ท่านรู้มั้ยว่านี่คืออะไร?” คังวุค ถาม

“นี่มัน?”




“ถูกแล้ว นี่เป็นภาพวาดของเจ้าโซกึนแก เมื่อไม่นานนี้พวกข้าพบมันที่กระเป๋าสัมภาระของมือปราบจง ท่านก็คงรู้ว่าจนป่านนี้เรายังติดต่อมือปราบจงไม่ได้เลย กองปราบก็เลยช่วยเก็บสัมภาระของเค้าเอาไว้ก่อน ตอนหลัง คนที่ร่างภาพให้กับกองปราบมาเห็นคนฆ่าสัตว์คนนั้นเข้า ก็เลยเล่าว่าเค้าเคยวาดรูปคนนี้ให้กับมือปราบจงมาก่อน ข้าเลยมาค้นข้าวของของมือปราบจง แล้วก็พบกับรูปภาพนี้จริง ๆ ข้าเห็นว่าจงโพโกมีความสัมพันธ์อันดีกับตระกูลท่าน พวกข้าเลยสงสัยว่าที่จงโพโกหายไป อาจจะเกี่ยวข้องกับโซกึนแก ข้าเลยอยากเรียกท่านมาสอบถามหน่อย” คังวุค กล่าว

“ถ้า...ถ้าอย่างนั้นโซกึนแก เค้าอาจจะเคยก่อคดีอื่นมาก่อนละมั้ง”

“อืม เค้าเคยลักลอบฆ่าสัตว์ ตอนนั้นจงโพโกมีหน้าที่ตามจับคนที่ลักลอบฆ่าสัตว์อยู่”

“เอ่อ เรื่องนี้ข้านึกไม่ถึงเลย ข้าคิดว่าเค้าเป็นแค่คนฆ่าสัตว์ธรรมดาคนนึง ไม่รู้ว่ามีคดีติดตัว ถ้าอย่างนั้น เค้าจะต้องรับโทษยังไงเหรอ?”

“แค่ความผิดลักลอบฆ่าสัตว์ก็มีโทษตัดหัวแล้ว บวกกับที่แอบอ้างเป็นชนชั้นสูงย่ำยีเกียรติสตรีชั้นสูง ต่อให้ถูกประหารสองสามครั้งก็ยังชดใช้ความผิดที่ก่อไว้ไม่หมด” คังวุค กล่าว

ซ๊อกรันมาขอร้องให้โดยังช่วยฮวางจอง

“คนที่ช่วยพ่อของเจ้า ให้พ้นคดีนั้นมาได้ ก็คือพ่อของคนตายในครั้งนี้ เจ้ากรมที่มีอำนาจแบบนั้น ในโชซอนนี้ยังจะมีใครออกหน้าช่วยได้” โดยัง กล่าวอย่างหนักใจ


“คุณชายก็รู้ความจริงนี่คะ เค้าแค่ช่วยคนไข้ในฐานะของหมอคนนึง ไม่ได้ต้องการให้นางฆ่าตัวตาย เรื่องนี้ท่านรู้ดีกว่าใครนี่ หรือเป็นเพราะฐานะของเค้า ทำไมเค้าต้องตายเพราะช่วยชีวิตนาง ท่านคิดว่ามันยุติธรรมแล้วเหรอ เค้าช่วยชีวิตคนในเจจุงวอนตั้งมากมาย แต่ทำไมเวลาที่เค้ามีอันตราย กลับไม่มีใครออกมาช่วยเค้าเลย” ซ๊อกรัน กล่าว


“ซ๊อกรัน เพราะนี่คือโชซอน”

“นั่นสินะ นี่คือโชซอน คุณชายก็ยังไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ท่านบอกว่าอยากเปลี่ยนสังคม แถมยังตัดผมสั้น แต่หัวใจของท่าน ก็ยังเป็นชนชั้นสูง ข้าจะไม่อยู่เฉยเป็นอันขาด”

หมอเฮรอนพยายามหาทางช่วยฮวางจอง แต่ก็คิดไม่ออกว่าจะใช้วิธีไหน ด้านพระราชาโกจง รับสั่งให้หมอเฮรอนช่วยตรวจอาการของทูตรัสเซียพบว่าจะต้องผ่าตัดตา พระเจ้าโกจงจึงรับสั่งให้หมอเฮรอนผ่าตัดให้ เพื่อหวังผลทางการเมือง แต่หมอเฮรอนปฏิเสธ

ด้านทูตญี่ปุ่นก็ต้องการสร้างโรงพยาบาลญี่ปุ่นในโชซอน

“ข้าเคยบอกท่านแล้วว่าตอนนี้โชซอนมีเจจุงวอนอยู่แล้ว ดังนั้นข้าไม่เข้าใจญี่ปุ่นต้องการจะสร้างโรงพยาบาลขึ้นในโชซอนเพื่ออะไรหะ?” พระเจ้าโกจงตรัสถาม

“ฝ่าบาท แค่เจจุงวอนที่เดียวคงจะยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนพ่ะย่ะค่ะ แน่นอนว่า เรายอมรับว่าเจจุงวอนบุกเบิกการแพทย์ตะวันตกได้ดี แต่ก็ควร..ให้ประชาชนได้มีโอกาสได้รักษาด้วยการแพทย์ตะวันตกอย่างทั่วถึงด้วย ญี่ปุ่นมีการแพทย์ที่ทันสมัย และปรารถนาจะช่วยคนเจ็บป่วยในโชซอนด้วยความจริงใจ หวังว่าฝ่าบาทจะทรงเข้าพระทัย”

พระเจ้าโกจงหนักพระทัยเพราะรู้ว่าญี่ปุ่นมีแผนอะไรถึงต้องการสร้างโรงพยาบาล ตรัสกับพระมเหสีว่า ตอนนี้ต้าชิงยังพึ่งอะไรไม่ได้มาก

“ในช่วงวุ่นวายอย่างนี้ เจจุงวอนไม่เพียงแต่ไม่มีข่าวดี ๆ มาให้กับข้า แต่ยังได้ก่อปัญหาขึ้นมาซะอีก”

“เกิดปัญหาอะไรเพคะ?” มเหสี ทูลถาม

“มีคนฆ่าสัตว์ที่มาเป็นหมอ จนเป็นเหตุให้ลูกสาวเจ้ากรมกลาโหมฆ่าตัวตาย”

“เป็นคนฆ่าสัตว์หรือเพคะ แล้วทำไมเค้าถึงทำให้นางฆ่าตัวตาย มีเรื่อง..เหลวไหลอย่างนี้เกิดขึ้นได้ยังไงกันเพคะ”

“ข้าก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน แต่เจ้ารู้มั้ยว่าคนฆ่าสัตว์เป็นใคร คนที่ชื่อฮวางจอง คนที่ข้าเคยชื่นชมเมื่อนานมาแล้วน่ะ”



“คนชื่อฮวางจองหรือเพคะ เค้าคือนักเรียนแพทย์ที่ช่วยลูกสาวล่ามยูขึ้นมาจากสระบัวตอนนั้นนี่ เฮ้อ แล้วตอนนี้เค้าเป็นยังไงบ้างเพคะ?”

ฮวางจอง ถูกคุมขังก็ยังช่วยแนะนำเรื่องสุขภาพให้กับนักโทษคนอื่น ๆ แต่ก็ไม่สามารถช่วยให้เขาพ้นโทษได้ เมื่อเค้าถูกนำตัวมาฟังคำตัดสิน

“นักโทษฉกรรจ์โซกึนแกฟังคำตัดสิน ปีคับซินเจ้าทำความผิดลักลอบฆ่าสัตว์ ทั้งยังหลบหนีด้วยการปลอมตัวเป็นชนชั้นสูง ปีต่อมาจึงสอบเข้าเจจุงวอนจนเป็นนักเรียนแพทย์ เจ้ายังล่วงเกินสตรีชั้นสูงที่บริสุทธิ์จนทำให้นางต้องฆ่าตัวตาย สร้างความผิดที่เกินกว่าจะให้อภัยได้ จึงตัดสินให้ โซกึนแกถูกประหารชีวิตชดใช้ความผิดที่ก่อไว้”


เนื้อหา: เดลินิวส์ / ภาพจากละคร (เอสบีเอส) 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา