วันเสาร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2555

เจจุงวอน ตำนานแพทย์แห่งโชซอน ตอนที่ 24




เมื่อฮวางจองถูกตัดสินลงโทษประหารชีวิต โดยังก็เข้ามาขอเยี่ยมในที่คุมขัง

“นึกไม่ถึงว่าเรื่องจะบานปลายมาถึงขั้นนี้ นี่รูปวาดของเจ้าใช่รึเปล่าหา ดูไม่ตกใจเลยนี่ แต่ภาพนี้ทำให้ข้าตกใจมาก”

“ในขั้นตอนการสอบสวน หัวหน้ามือปราบเอาให้ข้าดูแล้ว”

“มีเรื่องนึงที่ข้าอยากจะรู้มาก เจ้าคือคนที่เคยผ่าศพนักโทษประหารในกระท่อมร้างบนเขาใช่รึเปล่า?”

“ศพศพนั้นเป็นเจ้าหกนิ้ว เพื่อนของข้าเอง” ฮวางจอง กล่าว



“ความสัมพันธ์ของเจ้ากับข้า มันยาวนานดีจริง ๆ ในตอนนั้นเจ้าคงเกลียดข้ามากสินะ”

“มันก็ใช่ครับ ถึงข้าจะเป็นแค่คนฆ่าสัตว์ แต่การให้ผ่าศพเพื่อนตัวเอง มันก็โหดร้ายเกินไปสำหรับข้า”

“เคยคิดจะแก้แค้นมั้ย?”

“เคยคิดสิครับ”

“แล้วตอนที่เจ้าเห็นพ่อข้ากำลังจะตาย เจ้ารู้สึกดีใจใช่มั้ย?”

“ไม่ใช่เลยครับ ตอนนั้นทำให้ข้านึกถึงแม่ที่ตายไป” ฮวางจอง กล่าว

“เจ้าอยากช่วยพ่อข้าจริงเรอะ?”

“อยากช่วยจริง ๆ”

“ข้าไม่เข้าใจเจ้าเลย แล้วที่เจ้าอยากแก้แค้นล่ะ” โดยัง ถาม

“หึ ตอนหลังข้าก็ลืมมันไป เพราะข้าค่อย ๆ ถูกวิชาแพทย์ดึงดูดไป”

“เฮ้อ..แล้วเรื่องของมือปราบจงโพโกล่ะ ทำไมจู่ ๆ เค้าถึงหายตัวไป”

“เรื่องนั้นข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน” ฮวางจอง กล่าว

“ตอนแรกเค้าจะตามฆ่าเจ้า แต่เจ้าช่วยชีวิตเค้าไว้ หรือว่าเค้าทำไปเพราะต้องการตอบแทนเจ้า แต่ข้าอยากให้เจ้ารู้ไว้ว่า ข้าไม่เคยสั่งให้เค้าฆ่าเจ้าฮวางจอง ข้าต้องการรู้เบื้องหลังของเจ้าเท่านั้น ข้าแค่อยากรู้เบื้องหลังของเจ้า”



“เรื่องนั้นข้ารู้ดี ถ้าท่านได้คำตอบที่พอใจแล้ว ก็เชิญท่านกลับไปเถอะ”

“ดูเหมือนข้าจะเข้าใจเจ้าแล้วจริง ๆ และบางที เจ้ากับข้าอาจจะกลายเป็นเพื่อนรักกันก็ได้ ซ๊อกรันล่ะ นางเป็นอะไรสำหรับเจ้า” โดยัง ถาม

“คุณหนูเป็นคนจิตใจดีเพียงคนเดียวที่ยังเห็นคนฆ่าสัตว์เป็นคนอยู่ คุณหนูซ๊อกรัน ข้าฝากนางด้วยนะ”

โดยังกลับมาที่เจจุงวอน หมอเฮรอน สอบถามว่าจะมีการประหารฮวางจองเมื่อใด เมื่อรู้ว่าในอีก 3 วันก็ตกใจไม่คิดว่าจะเร็วอย่างนี้



“ปกติจะเลือกวันระหว่างฤดูใบไม้ร่วงใบไม้ผลิ ในการประหารนักโทษ คงเพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ก็เลยให้ประหารทันที” โอ กล่าว

“แล้วก็ในครั้งนี้นะ การลงโทษด้วยการประหารชีวิต พอตัดหัวแล้วยังต้องแขวนคอประจานที่ตลาดอีกด้วย เพื่อเตือนว่าคนฆ่าสัตว์แล้วทำชั่วมีจุดจบแบบนี้” คูฮอน กล่าว



“เฮ้อ ช่างน่ากลัวเหลือเกิน”

“นี่เป็นเรื่องที่ธรรมดาจะตายไป”

“ท่าน ผอ. เราไม่มีวิธีอื่นจะช่วยเค้าได้แล้วเหรอ เค้าต้องเจอเรื่องแบบนี้เพราะช่วยคนไข้ของเจจุงวอนนะ”

“เฮ้อ เรื่องนี้น่ากลัวว่าต่อให้คนตายฟื้นขึ้นมาก็ยังยาก ก็คดีที่เค้าก่อมันไม่ใช่แค่เรื่องสองเรื่อง เฮ้ ๆ ๆ มันสายไปแล้วล่ะ สายไปแล้ว” คูฮอน กล่าว



“นักศึกษาเบ๊ก แล้วคุณคิดว่ายังไง?” หมอเฮรอน ถาม

“สิ่งที่นักศึกษาฮวางทำ ถ้ามองในมุมทางการแพทย์ เค้าได้เสี่ยงชีวิตช่วยคนไข้ แต่ถ้ามองในมุมสังคมของโชซอนแล้ว เค้ามีความผิดอย่างเลี่ยงไม่ได้ เฮ้อ ถึงแม้พูดอย่างนี้มันจะผิดต่อเค้า แต่วันประหารก็ถูกกำหนดไปแล้ว หมายความว่าพระราชาทรงประทานอนุญาตมา ดังนั้นจึงไม่มีทางแก้ไขได้อีก”

“ผมพอเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว” หมอเฮรอน กล่าว

ซ๊อกรัน ร้องไห้เสียใจเมื่อรู้ว่าฮวางจองถูกลงโทษประหารชีวิต ด้านยองอิก เข้าเฝ้าพระเจ้าโกจง เพื่อทูลอธิบายว่า การรักษาแบบแพทย์แผนตะวันตก จำเป็นต้องถูกตัวผู้ป่วยอย่างเลี่ยงไม่ได้จึงเกิดการเข้าใจผิดขึ้น แต่พระเจ้าโกจงตรัสว่าได้ป้องกันโดยตั้งหมอหญิงและพยาบาลหญิงขึ้นมา และไม่ต้องพูดถึงเรื่องฮวางจองอีก เพราะได้มีคำสั่งให้ประหารไปแล้ว

ซ๊อกรัน มาขอให้พ่อช่วยนักศึกษาฮวางจอง



“พ่อก็รู้ว่าเรื่องนี้นักศึกษาฮวางไม่มีความผิดอะไรเลย แต่ว่าเรื่องในครั้งนี้ กำลังของพ่อทำอะไรไม่ได้เลย คุณชายโดยังเองก็คงเหมือนกันเพราะว่าพระราชาคงจะไม่ยอมถอนรับสั่งที่พระองค์ตรัสไปแล้วง่าย ๆ หรอก ท่านเจ้ากรมต้องเสียลูกสาว ท่านเสนาบดีเสียลูกสะใภ้ พวกเค้าไม่มีทางนิ่งเฉยแน่”

“แต่ท่านพ่อคะ เพราะข้าไปตามเค้ามาเจจุงวอน เรื่องมันเลยเป็นแบบนี้ มันเป็นความผิดข้า เป็นความผิดของข้าเอง”

“จะเป็นความผิดของเจ้าได้ยังไง คนที่ผิดควรจะเป็นคนที่ตามเจ้ามาด้วย” แม่ซ๊อกรัน กล่าว

“ท่านพ่อคะ”

ยู เดินทางมาหาพ่อของนักศึกษาฮวางจอง ที่บ้าน นำโสมมาให้เอาไว้กินบำรุงร่างกาย



“โอ้ย ท่านเอาของมีค่าอย่างนี้มาทำไมครับ ข้ารับไม่ได้หรอก”

“เมื่อก่อนข้าก็ได้กินของจากบ้านเจ้าบ่อย ๆ รับไปเถอะนะ”

“รับไว้เถอะครับ” ชักแท ช่วยพูด

“ครับ ต่อให้ท่านทุบตีข้ากับลูกให้ตายข้าก็ไม่กล้าตัดพ้อหรอก”

“อะไรกัน ข้าเคยมีความคิดแบบนี้กับเจ้าและลูกของเจ้าอย่างนั้นรึไง? ลูกชายเจ้าเป็นเด็กหนุ่มที่มีความสามารถมาก มันเป็นบุญของเจ้าจริง ๆ ที่มีลูกแบบนี้ได้”

“มีบุญไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะว่าเค้าเกิดมาก็ถูกกำหนดให้ไร้วาสนาแล้ว นึกไม่ถึงว่าเค้าจะต้องมาตายอย่างนี้ ใต้เท้า คือ...ขออภัยที่ข้าน้อยอาจเอื้อมถาม ท่านมีวิธีช่วยลูกชายข้าได้บ้างมั้ย?”

ซ๊อกรัน มาหาซึงยอน ที่กำลังสอนภาษาอังกฤษให้กับเด็ก ๆ อยู่



“ตอนอยู่โรงพยาบาล นักศึกษาฮวางก็คอยดูแลข้าอย่างดี โชคร้ายจังเลยนะ” ซึงยอน กล่าว

“เจ้ารู้จักกับบาทหลวงที่ชื่อว่าแอพเพนเซลเลอร์ รึเปล่าจ๊ะ” ซ๊อกรัน ถาม

“อืม เจ้าจะหาบาทหลวงทำไมเหรอ?”

“เพราะหวังว่าเค้าอาจจะช่วยนักศึกษาฮวางได้”

“อ้อ เป็นความคิดที่ไม่เลวเลย บาทหลวงแอพเพนเซลเลอร์เป็นเพื่อนกับพวกคนฆ่าสัตว์”

“ข้าถึงอยากจะเจอท่านน่ะ”

“ก็ได้ งั้นเราไปหาท่านด้วยกัน”

“ขอบใจนะซึงยอน”

ซึงยอน ซ๊อกรัน และยู มาหาบาทหลวงแอพเพนเซลเลอร์ เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง




“ผมพอจะเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้ว เราจะอยู่เฉย ๆ แล้วปล่อยให้คนเก่งอย่างนั้นต้องตายไปไม่ได้ เดี๋ยวผมจะไปเข้าเฝ้าพระราชาพร้อมกับหมอฮอร์ตั้นและอันเดอร์วูด”

“ขอบคุณท่านมากค่ะ” ซึงยอน กล่าว

“ฝากท่านด้วยนะครับ” ยู กล่าว

“ท่านพ่อคะ”

“อะไรเหรอ?”

“ไม่มีอะไรค่ะ”

ทูตรัสเซีย มาหาทูตญี่ปุ่น เพื่อให้หมอวาตานาเบ้ ตรวจดูอาการของตา และขอให้ผ่าตัดให้ แต่วาตานาเบ้ปฏิเสธเพราะกลัวว่าจะทำให้ตาบอดทั้งหมดได้ เป็นเพราะว่าเนื้อเยื่อที่ยึดเลนส์แก้วตามันเกือบจะขาดอยู่แล้ว ถ้าผ่าตัดผลอาจจะเลวร้ายมาก



“น่าเสียดายที่เราไม่สามารถผ่าตัดให้กับท่านทูตรัสเซียได้ เค้าอุตส่าห์หนีจากหมอเฮรอนที่เจจุงวอนเพื่อมาหาพวกเรา” ทูตญี่ปุ่น กล่าว

“การผ่าตัดแบบนี้อย่าทำดีกว่า ไม่งั้นจะเป็นการหาเรื่องใส่ตัวมากกว่า การผ่าตัดแบบนี้คนที่ไม่ทำต่างหากเป็นฝ่ายชนะ”

“งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นก็ตัดใจละกัน เราจะต้องรีบเดินแผนสร้างโรงพยาบาลของเราโดยเร็ว หัวใจของการสร้างโรงพยาบาลครั้งนี้ก็คือ จะมีเครื่องมือการแพทย์ที่ทันสมัย และจะต้องมีหมอที่เก่งที่สุด ที่สำคัญกว่านั้นคือ ในบรรดาหมอโรงพยาบาลเราจะต้องมีชาวโชซอนอย่างน้อยหนึ่งคนด้วย”

“ถ้าเป็นเรื่องนั้น คุณหมอวาตานาเบ้เตรียมพร้อมไว้แล้วค่ะ”

วาตานาเบ้ และซูซูกิ มาหาฮวางจองในที่คุมขัง



“เมื่อหลายวันก่อน ถ้าคุณยอมรับข้อเสนอเรา ตอนนี้ก็ไม่ต้องมาถูกขังแล้ว มันช่างน่าเสียดายจริง ๆ ว่ายังไงล่ะ ยอมรับข้อเสนอของพวกข้าก็ยังไม่สาย”

“ข้าไม่ยอมรับครับ”

“มิสเตอร์ฮวาง ลองคิดดูให้ดีนะ คุณยอมเลือกที่จะถูกตัดหัว หรือว่าจะได้เป็นหมอที่ช่วยชีวิตคนมากมาย สงสัยว่าคุณจะสนใจแต่วิชาการแพทย์ แต่ไม่ค่อยเข้าใจความจริงของโลกนัก ในอนาคตอันใกล้ โชซอนจะต้องเปลี่ยนไปตามกระแสของโลกแล้ว”

“นี่ท่านคิดจะพูดอะไรกับข้ากันแน่?” ฮวางจอง กล่าว



“ผมคิดว่าอีกไม่นานโชซอนจะต้องยกเลิกระบบชนชั้น และมันจะมาเร็วกว่าที่คิดเอาไว้ ดังนั้นชาวญี่ปุ่นเองก็กำลังรอให้วันนั้นมาถึง”

“ใช่ค่ะมิสเตอร์ฮวาง”

“ใช่ พวกผมจะสร้างโรงพยาบาลญี่ปุ่นขึ้นบนแผ่นดินของโชซอน เป็นของขวัญวิเศษที่สุด สำหรับความสัมพันธ์ของสองประเทศ ฮะ ๆ ๆ เอ่อ แต่ว่าที่สำคัญที่สุดก็คือ ในโรงพยาบาลของเราคุณจะได้เป็นหมอโชซอนที่คอยรักษาโรคให้ชาวโชซอน ดังนั้นมิสเตอร์ฮวาง นี่..เป็นเอกสารรับรอง ว่าคุณได้ขอทำเรื่องขอเปลี่ยนสัญชาติเป็นคนญี่ปุ่น ผมเตรียมเอกสารไว้ให้คุณเรียบร้อยตั้งนานแล้ว ฮะ ๆ ๆ ถ้าคุณได้รับสัญชาติญี่ปุ่น เรื่องทั้งหมดก็จะคลี่คลายได้แน่นอน เพราะกฎหมายโชซอนไม่สามารถลงโทษประหารคนญี่ปุ่นได้ ไม่ใช่แค่นั้น ถ้าคุณยอมมาเป็นหมอให้โรงพยาบาลเรา ผมจะช่วยส่งคุณไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นด้วยนะ ว่ายังไงล่ะ ถ้าหากคุณต้องการ ผมสามารถช่วยทำให้มิสเตอร์ฮวางกับพ่อของคุณได้รับสัญชาติของญี่ปุ่นได้เลยนะ”

โกขอร้องให้นักศึกษาแพทย์คนอื่น ๆ ช่วยลงชื่อเพื่อช่วยฮวางจอง มีบางคนที่ไม่เห็นด้วยไม่ยอมลงชื่อ

“คุณหนูซ๊อกรัน หวังว่าท่านจะร่วมลงชื่อด้วย” โก กล่าว

“นี่คืออะไรเหรอคะ ขอบคุณมากนะคะ” ซ๊อกรัน กล่าว

“เอ่อ ไม่เป็นไรหรอก ขอบคุณอะไร ข้าทำไม่ใช่เพื่อต้องการให้ท่านมาขอบคุณข้าหรอก แค่อยากเป็นตัวแทนนักเรียนแพทย์พยายามช่วยนักศึกษาฮวางจากใจจริงน่ะ”

“ก็ต้องขอบคุณท่านอยู่ดี”

“ในนี้ มีของขวัญอีกชิ้นนึง”

“นี่นักศึกษาฮวางนี่นา”

“ใช่ ชื่อภาพฮวางจองผู้คิดคำนึง ตอนนั้น เหมือนว่าเค้ากำลังคิดถึงคุณหนูซ๊อกรันอยู่ นั่งเหม่อเหมือนคนจิตหลุด ข้าขอตัวก่อนนะ” โก กล่าว

ฮวางจอง กำลังดูแผลให้เพื่อนนักโทษ ซ๊อกรันและโดยัง เดินเข้ามาเยี่ยม




“คุณหนู ท่านมาที่แบบนี้ทำไมครับ นักศึกษาเบ๊ก”

“ข้าอยากทำอาหารมาให้ท่านกินน่ะ”

“ไม่เห็นต้องยุ่งยากเลย”

“อย่าปฏิเสธข้าเลยนะ”

“อร่อยมาก ๆ เลย”

“อร่อยก็ดีแล้ว ข้ายังเป็นห่วงอยู่เลยว่า เม็ดข้าวจะแข็งเกินไป ตอนนี้พ่อข้ากำลังวิ่งเต้นไปทั่วเพื่อจะช่วยท่านให้ออกมาให้ได้”

“ใต้เท้ายูน่ะหรือครับ”

“ใช่ มีบาทหลวงที่คอยสอนศาสนาให้พวกคนฆ่าสัตว์ทั้งหลายอยู่ เค้าจะรวมตัวกันเข้าวัง เพื่อจะไปขอเข้าเฝ้าพระราชา ตอนนี้นักศึกษาโกก็กำลังเขียนหนังสือร้องเรียน เค้ายังรวบรวมคนทั้งหมดในเจจุงวอนด้วย พรุ่งนี้หมอฮอร์ตั้นจะเอามันเข้าวังไปด้วย”



“ถ้าอย่างนั้นข้าขอฝากขอบคุณทุกคนด้วย” ฮวางจอง กล่าว

“เอาไว้ท่านออกไปขอบคุณพวกเค้าเองนะ”

“คือว่า คุณหนู เอ่อ..ถ้าข้า ต้องกลายเป็นคนชาติอื่นไป แล้วได้เป็นหมอต่อ ท่านจะมองเรื่องนี้ยังไง”

“หมายความว่ายังไง” ซ๊อกรัน ถาม

“แค่คิดว่าถ้าข้าไม่ต้องตาย และได้เป็นหมออยู่ในประเทศที่ไม่มีชนชั้นคนฆ่าสัตว์ ข้าก็คิดไปเรื่อยเปื่อยน่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีสิ ขอแค่มีชีวิตอยู่”

ยองอิก มาขอร้องให้หมอเฮรอน ช่วยผ่าตัดตาให้ทูตรัสเชีย แต่ได้รับการปฏิเสธเหมือนเดิม เพราะไม่เห็นด้วยกับการผ่าตัดเพื่อความสวยงาม และไม่ยอมใช้วิชาทางการแพทย์เพื่อเป็นเครื่องมือทางการเมือง จากนั้นโก ก็เข้ามาหาหมอเฮรอน




“นี่คืออะไร?” หมอเฮรอน ถาม

“ข้าเขียนหนังสือร้องขอชีวิตให้กับฮวางจองน่ะ ข้าล่ารายชื่อคนที่เห็นด้วยอยู่ครับ หวังว่าท่าน ผอ.จะยินดีลงชื่อ”

“มีคนที่อยากให้ยกโทษให้ฮวางจองไม่น้อยเลยนะ”

“ครับ ถูกต้องแล้วครับ”

“ปากกา” หมอเฮรอน ถามหา

“ขอบคุณมากครับ”

มาตังแก พ่อของฮวางจอง มาหาชักมูจ๊อกที่บ้าน

“ดื่มสักถ้วยนึงก่อน ฮ่ะ ๆ ๆ ไม่ได้เจอกันหลายปีแล้ว ตั้งแต่ข้ามาเป็นเพชฌฆาต จนถึงตอนนี้ก็ สักสิบปีได้แล้วมั้ง”

“ข้าขอดูมีดหน่อยได้มั้ย” พ่อของฮวางจองถาม

“ฮะ ๆ ๆ พอดีมีนักโทษที่กำลังจะถูกประหารวันพรุ่งนี้น่ะ ฮะ ๆ” มูจ๊อก กล่าว “มีดทื่อไปหน่อยนะ”

“แค่นี้มันก็ไม่เลวแล้วล่ะ ก็ครอบครัวเค้าไม่ยอมจ่ายเงินมาให้ข้าเลย ข้าเลยกะว่าคงจะฟันเค้าสักสามสี่ทีค่อยตายละกัน”

“เค้าเป็นลูกชายข้าเอง”

“อะไร เมื่อกี้เจ้า พูดว่าอะไรนะ”

“คนที่เจ้าต้องไปฟันคอเค้าพรุ่งนี้ เป็นลูกชายข้าเอง”



“ลูกชายของเจ้า เค้าเป็นนักโทษอยู่เรอะ”มูจ๊อก ถาม

“ก็อย่างนั้นแหละ”

“แต่ว่าเค้า..เป็นเด็กดีอย่างนั้น ทำไมถึง.. ทำไมถึงได้..”

“ข้าอยู่มาจนแก่ป่านนี้แล้ว แต่กลับไม่เคยทำ..อะไรให้ลูกเลย ถ้าข้าตายไปก่อนเรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น นี่เป็นเงินเก็บของข้า เป็นสิ่งเดียวที่ข้าทำได้ ข้ารู้ว่าเงินแค่นี้มันอาจจะไม่ค่อยพอสักเท่าไหร่ แต่ข้าอยากจะขอเจ้าอย่างไม่อาย ขอให้ช่วย ช่วยตัดคอโซกึนแกให้ขาดในครั้งเดียว ช่วยตัดให้ขาดในครั้งเดียว จะได้รึเปล่าหา?”

“เข้าใจแล้ว ข้า..จะช่วยส่งเค้าไปแบบไม่ทรมาน”

หมอเฮรอน และหมอฮอร์ตั้น ยองอิก และยู มาเข้าเฝ้าพระเจ้าโกจง ทูลขอให้รับสั่งยกเลิกโทษประหารฮวางจอง แต่พระเจ้าโกจงตรัสว่าจะไม่ยอมยกเลิกคำสั่ง และให้กลับไปกันได้แล้ว อีกด้านหนึ่งวาตานาเบ้ มาหาฮวางจองในที่คุมขัง นำกระดาษมาให้เซ็นเพื่อที่จะได้ให้สถานทูตไปแจ้งกับพระราชาโชซอนว่าฮวางจองเป็นพลเมืองของญี่ปุ่นแล้ว



“ถึงจะกินน้ำค้างต้นเดียวกัน ผึ้งสร้างเป็นน้ำผึ้งหวาน แต่งูกลับบ่มมาเป็นยาพิษ ข้าคิดว่าสำหรับหมอก็ไม่แตกต่างกัน”

“ถูกต้อง อืม”

“หมอที่ดีจะให้น้ำผึ้งหวานเพื่อช่วยชีวิตคนไข้ แต่หมอที่เลวกลับจะให้ยาพิษ ในการสังหารคน”

“นี่คุณหมายความว่ายังไงเนี่ย?” วาตานาเบ้ ถาม

“แม่ข้าเอาชีวิตไปทิ้งในมือท่าน ทั้ง ๆ ที่ท่านแม่เป็นคนไข้ที่ควรจะช่วยชีวิตให้รอดได้ แต่ท่านกลับให้ยาพิษกับนาง ท่านเป็นหมอที่เลว ถ้าอยู่ใต้ปีกของท่าน ก็ขอตายบนโชซอน ให้คนรุ่นหลังได้จดจำว่าข้าเป็นหมอที่ดีที่ต้องตายเพราะช่วยชีวิตคนโชซอน ข้าเชื่อว่าแม่ข้าก็คงเห็นด้วยกับการตัดสินใจของข้า”

“บ้าไปแล้ว ผมอุตส่าห์ให้โอกาสคุณครั้งแล้วครั้งเล่าแต่คุณกลับ นี่คุณบ้าไปแล้วเหรอ”

“หลีกทางด้วยครับ” ผู้คุมเข้ามานำตัวฮวางจอง

“บัดซบที่สุด บ้าเอ๊ย” วาตานาเบ้ กล่าวอย่างมีอารมณ์โมโห

ฮวางจอง ถูกนำตัวมายังลานประหาร ระหว่างทางถูกชาวบ้านขว้างปา และสาปแช่ง



“ฮวางจอง” ซ๊อกรัน เรียก

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ เค้าทำผิดอะไร พวกท่านไม่มีสิทธิมาทำกับเค้าแบบนี้” โก กล่าว

“ก็มันเป็นคนฆ่าสัตว์แล้วสะเออะไปเป็นหมอไม่ใช่เรอะ” ชาวบ้านคนหนึ่ง กล่าว

“ถ้าอยากเป็นก็ไปเป็นหมอสัตว์สิ”

“เค้าเคยช่วยชีวิตคนไข้จนคนเจ็บป่วยมานับไม่ถ้วนนะ” นังนัง กล่าว

“ใช่ พวกเจ้าในที่นี้ ใครกล้าบอกว่าไม่เคยมาปลูกฝีที่เจจุงวอนบ้าง เค้าคนนี้เป็นคนช่วยคิดหาวิธีทำวัคซีนขึ้นมาได้นะ” โก กล่าว

“ไม่เจ็บตรงไหนใช่มั้ย?”

“ข้าไม่เป็นไรหรอก ท่านรีบหลีกไปเถอะนะ” ฮวางจอง กล่าว



“พี่ฮวาง ข้าจะฉีดนี่ให้ท่าน มันเป็นยาชา ฉีดเข้าไปแล้ว ตอนนั้นท่านจะได้ไม่รู้สึกเจ็บ ไม่ต้องทรมาน ที่ข้าทำให้ท่านได้ มีแค่นี้เท่านั้นเอง”

“ขอบใจเจ้ามากนะ แต่ยานี้ เก็บอาไว้ใช้กับคนไข้เถอะ”

“เจ้าทำอะไรกัน หลีกไปให้พ้น” ผู้คุม เข้ามา

พ่อของฮวางจอง เดินทางมาที่ลานประหารหวังที่จะเป็นคนเก็บศพลูกชาย สร้างความสะเทือนใจจนทำให้หลายคนร้องไห้ออกมา

“ก่อนตายเจ้ามีอะไรจะพูดถึงเปล่า?” ผู้คุมถาม

“ท่านพ่อ ข้าขอโทษด้วย คุณหนู ข้ารักคุณหนูนะ” ฮวางจอง กล่าว




“เจ้าไม่ต้องกลัวหรอกนะ พ่อเจ้าฝากข้าเอาไว้แล้ว แป๊บเดียวเท่านั้นแหละ” มูจ๊อก กล่าว

“มีดบางอย่าง มีเอาไว้เพื่อปลิดชีวิต มีดอีกอย่างคือมีดที่ไว้ช่วยชีวิต และมีมีดอีกชนิด นั่นก็คือมีดศักดิ์สิทธิ์”

ฮวางจองยังไม่ถูกประหาร ผู้คุมได้นำตัวพบกับขันที เขานำเสื้อผ้าให้กับฮวางจอง




“เจ้าใส่ชุดนี้ซะ เดี๋ยวเจ้าจะต้องไปเข้าเฝ้าพระราชา เมื่อเข้าไปแล้วเจ้าห้ามเงยหน้าขึ้นเป็นอันขาด แล้วก็ห้ามมองพระพักตร์ด้วย เจ้าต้องตอบคำถามทุกอย่างที่พระราชาทรงถามอย่างนอบน้อมที่สุด ตอนออกมาก็ให้เดินถอยหลัง เข้าใจรึเปล่า ข้าถามเจ้าว่าเข้าใจรึเปล่า?”

หมอเฮรอน ยองอิก มาเข้าเฝ้า พระเจ้าโกจง ทูลว่าฮวางจองสามารถผ่าตัดให้กับทูตรัสเซียได้

“คนฆ่าสัตว์คนนั้น สามารถผ่าตัดต้อ กระจกได้จริง ๆ น่ะเหรอ ข้าแทบไม่อยากจะเชื่อ” พระเจ้าโกจง ตรัส

“ฝ่าบาท เพราะว่ามือของชาวโชซอนเล็กกว่า เหมาะกับการผ่าตัดที่เน้นความประณีต อีกอย่างการที่พวกเค้าใช้ตะเกียบ ทำให้มีทักษะการใช้มือดี อีกอย่างหนึ่ง นักศึกษาฮวางเกิดในครอบครัวที่ต้องใช้มีดเป็นประจำ เค้ารู้ทักษะการใช้มีดเป็นอย่างดี” หมอเฮรอน กล่าว

“นั่นสิ ฟังดูก็มีเหตุผล”

“การผ่าตัดให้ทูตรัสเซีย เราจะผิดพลาดหรือล้มเหลวไม่ได้อย่างเด็ดขาด ถ้าจะหาคนที่มีทักษะและความแม่นยำที่สุด เวลานี้ก็คงจะไม่มีใครเทียบ ฮวางจองได้แล้ว” ยองอิก กล่าว “ฝ่าบาท แพทย์ฝึกหัดฮวางจองมารอเข้าเฝ้าแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ขันที เข้ามา

“เข้ามาได้ เจ้าคือฮวางจองใช่มั้ย?” พระ เจ้าโกจง ตรัส



“พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท คือกระหม่อม พ่ะย่ะค่ะ”

“เฮรอน หวังว่าการผ่าตัดจะสำเร็จนะ” พระเจ้าโกจง ตรัส

“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมกับนักศึกษาฮวางจะพยายาม” หมอเฮรอน ทูล

“นักศึกษาฮวาง ข้ามินยองอิกเอง”

“ครับใต้เท้ามิน”

“หวังว่าเจ้าจะทำการผ่าตัดสำเร็จ เมื่อนั้นเจ้าก็จะได้พ้นโทษที่มี ฝ่าบาททรงรับสั่งว่าผ่าตัดสำเร็จ ฝ่าบาทจะอภัยโทษให้”

“อภัยโทษ?”

ยูเห็นทหารหลวงมาเต็มไปหมด ก็คิดว่ามีพระราชโองการจากพระราชา คูฮอนเดาว่าอาจจะมีการจัดให้มีการประหารในวังแทน เพื่อให้พระราชาทอดพระเนตรด้วยพระองค์เอง ด้านโอ บอกกับทุกคนว่า เมื่อกี้พระราชามีรับสั่งให้คนมาเอาชุดนักศึกษาของฮวางจองไป ยูจึงตัดสินใจที่จะเข้าวังเพื่อดูติดตามเหตุการณ์

ทูตรัสเซีย เดินทางมาที่เจจุงวอนพร้อมล่าม พบกับโดยังก็บอกว่านัดหมายกับดอกเตอร์เฮรอนไว้แล้วว่าจะมาผ่าตัดต้อกระจกในวันนี้ ซักพักหมอเฮรอนกับฮวางจอง ก็เข้ามาที่เจจุงวอน

“ช่วยหลีกทางหน่อย” หมอเฮรอน กล่าว

“นักศึกษาฮวาง ท่านยังมีชีวิตอยู่” นังนัง กล่าว

“นี่อะไรกันครับ” โดยัง งงกับเหตุการณ์

“ท่านทูตรัสเซียมารึยัง?” หมอเฮรอน ถาม



“ครับ ตอนนี้รออยู่ในห้องตรวจแล้ว นักศึกษาฮวาง นี่มันเรื่องอะไรกัน?” โดยัง ถาม

“มันเรื่องอะไร ข้าเองก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน”

“ฮวางจองคะ” ซ๊อกรัน เรียก

“คุณหนู”

เมื่อเข้ามาในห้อง ฮวางจอง ก็ถามหมอเฮรอนว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ผ่าตัดต้อกระจกถึงไม่มีตนหมอเฮรอนก็ทำคนเดียวได้

“ไม่เลย คุณลืมไปแล้วเหรอว่าคุณผ่านการสอบมาด้วยคะแนนอันดับหนึ่ง คุณน่ะเป็น นักศึกษาแพทย์อันดับหนึ่งของเจจุงวอนที่ผมอบรมมา ไม่ใช่แค่นั้น คุณยังเป็นเพียงคนเดียวที่ผ่าตัดต้อกระจกกับผม”

“ท่าน ผอ.”

“การผ่าตัดครั้งนี้ เป็นการผ่าตัดที่มีความสำคัญมากสำหรับโชซอน เพราะฉะนั้น ผมจึงได้แนะนำคนเก่งที่สุดอย่างคุณ ให้..คุณเป็นผู้ร่วมผ่าตัด ไม่ใช่เป็นผู้ช่วย”

“แต่ว่า การผ่าตัดต้อกระจกผมเพียงแค่เคยเห็นมาเท่านั้น ยังไม่มีประสบการณ์จริง ไม่เท่ากับเป็นการโกหกพระราชาหรือ”

“ขอแค่ผมกับคุณสามารถทำการผ่าตัดได้สำเร็จ คุณก็จะได้กลับมาเป็นแพทย์ฝึกหัดของเจจุงวอนอีกครั้ง ผมจะให้คุณเป็นคนผ่าตัดเปิดกระจกตาเอง ผมไม่เคยโกหกใคร โอเคมั้ยครับ?”



ฮวางจอง ทำการผ่าตัดสำเร็จ ทุกคนต่างดีใจ แต่เขายังต้องรอผลการรักษาจึงต้องถูกคุมตัวไว้ที่กองปราบอีก หลังจากเวลาผ่านไประยะหนึ่งหมอเฮรอน และฮวางจอง เดินทางไปเข้าเฝ้าพระเจ้าโกจง

“ข้าได้ยินว่าการผ่าตัดเรียบร้อยดีมาก”

“พ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้การมองเห็นของท่านทูตหายเป็นปกติแล้ว ทั้งหมดเป็นเพราะทักษะของนักศึกษาฮวาง ทำให้ไม่กระทบต่อเนื้อเยื่อที่เชื่อมเลนส์แก้วตา ทำให้การผ่าตัดลุล่วงไปด้วยดี”

“เป็นอย่างนั้นเหรอ นักศึกษาฮวางเงยหน้าให้ข้าดูสิ”

“ฝ่า...ฝ่าบาท คนอย่างกระหม่อมมิกล้าเงยหน้าพ่ะย่ะค่ะ ได้โปรดถอนรับสั่งด้วยเถอะ”

“ก็ข้าอยากจะเห็นหน้าตาของเจ้านี่ เงยหน้ามาให้ข้าดูสิ”

“นักศึกษาฮวาง” หมอเฮรอน กล่าว

“ดีมาก ครั้งนี้เจ้าคงเหนื่อยสินะ”

“ไม่พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมแค่ทำตามคำชี้แนะ ของผอ.เฮรอนเท่านั้น”

“ฝ่าบาท นักศึกษาฮวางได้ช่วยผ่าตัดจนสำเร็จแล้ว ขอให้ฝ่าบาททรงรักษาสัญญาด้วย”

“ฝ่าบาท ขอทรงพระเมตตาพ่ะย่ะค่ะ” ยองอิก ทูล

“นั่นสิ เมื่อผ่าตัดประสบความสำเร็จ ข้าก็ต้องรักษาสัญญาที่ว่าจะอภัยโทษให้เจ้า”

“ฝ่าบาท เป็นพระกรุณาธิคุณยิ่งพ่ะย่ะค่ะ”

“เป็นพระกรุณาธิคุณยิ่งพ่ะย่ะค่ะ”

“เจ้าชื่อว่าอะไรนะ อ้อ สาแหรกตระกูลเจ้าเป็นใคร?” พระเจ้าโกจง ตรัสถาม


“กระหม่อมเป็นชนชั้นต่ำ จึงไม่รู้ที่มาของบรรพบุรุษ กระหม่อมทราบแต่ว่าบรรพบุรุษล้วนเป็นคนฆ่าสัตว์”

“งั้นหรือ ถ้าไม่มีสาแหรกก็ไม่มีแซ่น่ะสิ ถ้างั้น เจ้าชื่ออะไรหา?”

“พระ พระอาญาไม่พ้นเกล้า ใน..ในท้องพระโรง กระหม่อมไม่กล้าพูด ชื่อนั้น..ของกระหม่อมออกมาพ่ะย่ะค่ะ”

“บอกมาเถอะไม่เป็นไร”

“โซกึนแก..พ่ะย่ะค่ะ” ฮวางจอง กล่าวทูล ทำให้หลายคนขำ

“โซกึนแก อืม ทำไมถึงเอาชื่อแบบนี้มาตั้งชื่อคนนะ ถ้าเป็นหมอในเจจุงวอน เจ้าจะชื่อนี้ต่อไปได้ยังไง ชื่อที่เจ้าใช้ในเจจุงวอนล่ะชื่ออะไร?”

“พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท ชื่อ..ชื่อฮวางจองพ่ะย่ะค่ะ นั่นไม่ใช่ชื่อของกระหม่อมจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ”

“ถ้างั้น เจ้าก็เปลี่ยนมาเป็นชื่อของตัวเองซะเลยสิ ให้เจ้าแซ่ฮวาง ส่วนภูมิลำเนาก็ให้ใช้ชื่อที่เจ้าเกิดและโตมา ชื่อจองของเจ้าคือจองตัวไหนกันล่ะ”

“พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท จองที่แปลว่าสามัญพ่ะย่ะค่ะ”

“จองตัวนั้นยังสื่อความหมายคนฆ่าสัตว์ด้วย ดังนั้นอย่าใช้คำนี้เลย ข้าจะตั้งชื่อใหม่ให้กับเจ้าเอง ให้เจ้าใช้จองที่แปลว่าความเที่ยงตรงก็แล้วกัน”

“เป็นพระ..กรุณาธิคุณยิ่ง..พ่ะย่ะค่ะ พระดำรัสของฝ่าบาท กระหม่อมจะจำไว้ ไม่มีวันลืมแน่นอน เป็นพระกรุณาธิคุณยิ่งพ่ะย่ะค่ะ”

พระราชาสั่งให้เจ้าหน้าที่นำเกี้ยวไปส่งฮวางจองถึงบ้าน ฮวางจองบอกกับพ่อว่าพระราชาทรงช่วยชีวิตของตนเอาไว้

“ฮะ ๆ สวยมั้ย” ชักแท จับผ้าขึ้นดู

“ของแพงอย่างนี้ พระราชาประทานให้เจ้าเหรอ นี่เจ้าโซกึนแก บ้านเราไม่ได้ต้องการของพวกนี้หรอก เจ้าเอาไปให้ใต้เท้ายูดีกว่ามั้ง” พ่อ กล่าว

“ไม่ต้องหรอกครับ ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวข้าจะเอามาตัดชุดให้ท่าน”

“ไม่ได้เด็ดขาด ผ้าแพรไหมพวกนี้มีแต่ชนชั้นสูงที่ใส่ได้ เราเอามาใส่เดี๋ยวโชคร้ายแย่ ตอนลูกชายเบ็กเทแต่งงาน เค้าก็ใส่ชุดแพรไหม ตอนหลังก็ถูกพวกชนชั้นสูงตีจนตายใช่มั้ย”

“นั่นสิ พวกเราไม่เหมาะกับของพวกนี้หรอก” ชักแท กล่าวเสริม



“ท่านพ่อ ตอนนี้ข้าไม่ใช่คนฆ่าสัตว์แล้ว ข้า..พ้นจากฐานะนั้นแล้ว พระราชาทรงประทานให้กับข้าเองเลย”

“เจ้าพูดจริงเหรอ?”

“ใช่ ข้าถูกปลดจากฐานะชนชั้นต่ำ เท่ากับท่านพ่อก็จะได้พ้นไปด้วย”

“ข้าก็พ้นจากชนชั้นต่ำไปด้วยเหรอ?”

“แล้ว ข้า ข้าล่ะ” ชักแท ถาม

“เจ้าจะได้ ๆ ไง ท่านพ่อครับ พระราชายังทรงประทานชื่อให้ข้าด้วยนะ ชื่อฮวางจองน่ะครับ จองที่แปลว่าความเที่ยงตรง พระราชาอยากให้มีความเที่ยงตรง ก็เลยตั้งชื่อนี้ให้ข้า”

“ถ้าอย่างนั้นข้าเอง ก็น่าจะมีชื่อด้วย ใช่มั้ย อย่างนี้ข้าก็จะมีแซ่ฮวางด้วย..แซ่ฮวางด้วย ใช่รึเปล่า?”

“แน่นอน ท่านก็ควรจะตั้งชื่อด้วย”

“งั้นชื่อ ฮวางมาตังแก” พ่อ กล่าว ด้านฮวางจอง หัวเราะ

“ฮึ้ย อย่างนี้เค้าเรียกตั้งชื่อเหรอ อย่างชื่อ ฮวางจอง เค้าก็เป็นชื่อตัวเดียว ถ้างั้นชื่อของลุง ก็ตั้งชื่อสองตัว แล้วจะตั้งชื่อ ชื่ออะไรดีนะ ฮวาง..อะไรดีนะ?” ชักแท ถาม

“ท่านพ่อ ต่อไป เราจะไม่ใช่ชนชั้นต่ำอีกแล้ว เราจะได้เป็นสามัญชน”

“ใช่แล้ว สามัญชน เป็นสามัญชน ฮ่า ๆ”


 ฮวางจองได้กลับมาทำงานที่เจจุงวอนอีกครั้ง เฮรอนบอกกับนักศึกษาแพทย์ทุกคน


เนื้อหา: เดลินิวส์ / ภาพจากละคร (เอสบีเอส) 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา