บทประพันธ์: โม่เหยียน
กำกับ: เจิ้งเสี่ยวหลง
เขียนบท: จ้าวตงหลิง
แนวละคร: โรแมนติก, ร่วมสมัย
จำนวนตอน: 60
ออกอากาศ: จีน - เริ่มวันที่ 27 ตุลาคม 2557 ทางปักกิ่งทีวี, ซานตงทีวี, เจ้อเจียงทีวี และดราก้อนทีวี
ไทย - ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 17:00 – 18:00 น. ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี เอชดี ช่อง 30/40 เริ่มวันที่ 1 สิงหาคม 2558
เรื่องย่อ
ละคร "ตำนานรักทุ่งสีเพลิง (Red Sorghum*)" ดัดแปลงมาจากนวนิยายดังเรื่อง "红高粱家族" (Red Sorghum: A Novel of China / Red Sorghum Clan / ตำนานรักทุ่งสีเพลิง) ที่ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529) และเป็นนวนิยายเรื่องแรกของ "โม่เหยียน" นักประพันธ์ชาวจีนคนแรกที่คว้ารางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม เมื่อปี ค.ศ. 2012
* Sorghum แปลว่า "ข้าวฟ่าง" สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นอาหารสัตว์หรืออาหารมนุษย์ ในสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย มักนำมาทำโจ๊ก ขนมปัง และเบียร์ ส่วนประเทศจีนใช้เมล็ดข้าวฟ่างในการผลิตเหล้าข้าวฟ่างและน้ำส้มสายชู นอกจากนี้ ต้นข้าวฟ่างยังนำมาทำเป็นวัสดุก่อสร้าง เชื้อเพลิง และน้ำตาล ได้ด้วย
ละครเรื่องนี้ยังเป็นเวอร์ชั่นรีเมคของภาพยนตร์ชื่อเรื่องเดียวกันที่เข้าฉายในปี ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530) ซึ่งกำกับโดย "จางอี้โหมว่" นำแสดงโดย "กงลี่" และกวาดรางวัลระดับนานาชาติมาแล้วมากมาย ถึงแม้คราวนี้จะมาในเวอร์ชั่นจอแก้วแต่ดีกรีและกระแสความแรงก็ไม่ด้อยกว่ากัน เพราะได้นักแสดงภาพยนตร์ชื่อดัง "โจวซวิ่น" มารับบทนำหลังห่างหายไปจากวงการโทรทัศน์นานนับ 10 ปี แถมเธอยังกระชากวัยสุดๆ เพราะต้องรับบทเด็กสาววัย 19 ปี (ปัจจุบันนี้เธออายุ 40 ปี) นอกจากนี้ ละครยังได้เพิ่มตัวละครใหม่ที่ไม่มีในบทประพันธ์อย่างเช่น "จางจวิ้นเจี๋ย" รักแรกของจิ่วเอ๋อ และ "ซูเสียน" หญิงม่ายที่ยึดมั่นในหลักจริยธรรมของขงจื๊อและเป็นคู่ปรับของจิ่วเอ๋อ เป็นต้น
เนื้อหาในละครกล่าวถึง "ไต้จิ่วเหลียน" (จิ่วเอ๋อ) เด็กสาวยากจนที่ถูกพ่อ (ขาย) จับแต่งงานกับลูกเจ้าของโรงกลั่นเหล้าจากข้าวฟ่างทั้งๆ ที่เขาเป็นโรคเรื้อน หลังสามีและพ่อสามีถูกฆ่าตายโดยไม่มีทายาทสืบทอด จิ่วเอ๋อจึงกลายเป็นเจ้าของและต้องสานต่อธุรกิจโรงกลั่นเหล้าของครอบครัวสามี ขณะเดียวกันเธอก็มีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับ "อวี่จ้านอ๋าว" ชายหนุ่มที่เคยช่วยชีวิตเธอจากกลุ่มโจร (ภายหลังเขาได้จัดตั้งกองกำลังอิสระเพื่อช่วยทางการปราบกลุ่มโจรและต่อสู้กับภัยคุกคามต่างๆ) ในขณะที่ธุรกิจโรงกลั่นเหล้าภายใต้การกำกับดูแลของจิ่วเอ๋อกำลังประสบความสำเร็จด้วยดีก็มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น เมื่อกองทัพญี่ปุ่น (ซึ่งเข้ามารุกรานและยึดแผ่นดินบางส่วนของจีน (แมนจูเรีย) ได้ระยะหนึ่งแล้ว) เริ่มบุกเข้ามาในพื้นที่ชนบทอันเป็นบ้านเกิดของจิ่วเอ๋อหลังจากสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สองปะทุขึ้น (เป็นสงครามที่เกิดขึ้นก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ต่อมาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของสงครามโลกครั้งที่สองเรียกว่า "สงครามแปซิฟิก") จ้านอ๋าวจึงนำกองกำลังมาช่วยรับมือกับทหารญี่ปุ่น ขณะที่จิ่วเอ๋อเองก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ยอมสละชีวิตเพื่อปกป้องพวกพ้องและบ้านเกิด
ละครเปิดฉากขึ้นที่อำเภอเกามี่ (บ้านเกิดผู้ประพันธ์และเป็นสถานที่ถ่ายทำ) ในเมืองเหว่ยฟาง มณฑลซานตง ในช่วงต้นๆ ของยุคปี 1930s* ซึ่งเป็นช่วงที่บ้านเมืองกำลังระส่ำระสายทั้งยังมีโจรชุกชุม หลังนายอำเภอคนเก่าถูกโจรฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม นายทหารกล้า "จูหาวซาน" ซึ่งมีเปาบุ้นจิ้นเป็นไอดอลก็ถูกผู้ว่าการมณฑลซานตงส่งมารับหน้าที่นายอำเภอคนใหม่แทน (นายอำเภอในที่นี้เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่มีอำนาจในการพิจารณาคดีเล็กๆ น้อยๆ) เพียงวันแรกที่มาถึง จูหาวซานก็ถูกโจร "ฮัวป๋อจื่อ" ลองของหวังข่มขู่ให้หวาดกลัว แต่จูหาวซานกลับยิงโจรที่ถูกจับได้ทิ้งและประกาศกร้าวว่าจะกวาดล้างกลุ่มโจรให้สิ้นซาก ทั้งยังติดประกาศให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาอีกด้วย
* ยุคปี 1930s เป็นช่วงที่ญี่ปุ่นเข้ารุกรานจีนและมีการก่อตั้งรัฐแมนจู (รัฐหุ่นเชิดของญี่ปุ่น ปกครองโดยอดีตจักรพรรดิ์ผู่อี๋ หรือปูยี) แถม "เหมาเจ๋อตุง" ผู้ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ กับ "เจียงไคเช็ค" แห่งพรรคก๊กมินตั๋ง (ฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตย) ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเพื่อนก็กำลังห้ำหั่นและทำสงครามกัน - เจียงไคเช็ค (ซึ่งภายหลังเป็นผู้ก่อตั้งประเทศไต้หวัน) มองว่าคอมมิวนิสต์เป็นภัยร้ายแรงกว่าญี่ปุ่นจึงพยายามกวาดล้าง ทำให้จีนในตอนนั้นต้องเผชิญทั้งศึกนอกและใน)
"จางจี้ฉาง" นักค้าเงินผู้มั่งคั่งและมีอิทธิพล (เจ้าพ่อเงินกู้) ที่เบื้องหลังแอบสมคบคิดและเป็นนายทุนให้กับกลุ่มโจรฮัวป๋อจื่อ (แต่กลับมาเสนอหน้าต้อนรับนายอำเภอที่หน้าประตูเมือง) เริ่มรู้สึกเป็นกังวลเมื่อเห็นว่าจูหาวซานมีท่าทีฮึกเหิมแทนที่จะหวาดกลัว เขาจึงเตือนโจรฮัวป๋อจื่อให้ระมัดระวังตัวมากขึ้นและอย่าบุ่มบ่ามมาหาตนที่ร้านเพราะเกรงว่าภัยจะมาถึงตัว
"ไต้เหล่าซาน" ซึ่งติดฝิ่นงอมแงมแถมยังถูกผีพนันเข้าสิงถึงกับขายเมียเพื่อนำเงินมาใช้หนี้จางจี้ฉาง หลังถูกจางจี้ฉางกดดันอย่างหนัก พอใช้หนี้ (บางส่วน) แล้วไต้เหล่าซานก็บ่นว่ากำลังจะดองกันแท้ๆ ไม่น่าทำกันขนาดนี้ จางจี้ฉางได้ยินแล้วถึงกับควันออกหูเพราะเขาไม่มีทางยอมให้ลูกชายตนเป็นลูกเขยของคนอย่างไต้เหล่าซาน ไต้เหล่าซานอ้างว่า "จางจวิ้นเจี๋ย" (ลูกชายจางจี้ฉาง) กำลังคบหากับ "จิ่วเอ๋อ" ลูกสาวของตน จางจี้ฉางโวยลั่นว่าจิ่วเอ๋อเป็นฝ่ายตามตื๊อลูกชายตน ตนเลยต้องส่งลูกชายไปเรียนที่ชิงเต่า (เมืองหนึ่งในมณฑลซานตง) ไต้เหล่าซานแย้งว่าจางจวิ้นเจี๋ยต่างหากที่เป็นฝ่ายตามตื๊อลูกสาวตน ซ้ำยังท้าให้จางจี้ฉางไปดูว่าตอนนี้จางจวิ้นเจี๋ยอยู่กับจิ่วเอ๋อจริงหรือไม่ (จางจวิ้นเจี๋ยเพิ่งกลับมาจากชิงเต่า)
ทันทีที่มาถึงเกามี่จางจวิ้นเจี๋ยก็รีบไปหาจิ่วเอ๋อ จิ่วเอ๋อจึงตัดกระดาษเป็นรูปใบหน้าของจางจวิ้นเจี๋ยไว้สำหรับดูต่างหน้า จิ่วเอ๋อรู้ดีว่าตนเองไม่คู่ควรกับจางจวิ้นเจี๋ย เพราะเขาเป็นลูกคหบดีที่มีการศึกษาสูง ส่วนเธอเป็นลูกขี้ยาที่ถูกผีพนันเข้าสิง มิหนำซ้ำ ฐานะทางบ้านยังยากจนทำให้ไม่มีเงินเรียนหนังสือ เธอจึงกลัวว่าอีกหน่อยเขาไปแล้วจะลืมเธอ จางจวิ้นเจี๋ยยืนยันว่าเขาไม่มีวันลืมเธอและกลับมาคราวนี้เขาจะไม่ไปไหนอีกเพราะอยากดูแลแม่ที่กำลังล้มป่วยและต้องการมาเป็นครูที่นี่ ทำให้จิ่วเอ๋อดีใจมาก แต่เธอดีใจได้ไม่นานจางจวิ้นเจี๋ยก็ถูกพ่อตามตัวกลับบ้าน แถมพ่อของเขายังตำหนิเธอว่าไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว ซ้ำยังดูถูกพ่อของเธอด้วย
จางจี้ฉางบอกว่าพ่อของเธอสมควรโดนดูถูกเพราะเขาขายเมียตัวเองเพื่อนำเงินมาใช้หนี้ จิ่วเอ๋อได้ยินดังนั้นจึงรีบวิ่งกลับบ้านเพื่อคาดคั้นความจริงจากปากพ่อ (พ่อของเธอกำลังจะขายบ้านใช้หนี้) เมื่อรู้ว่าแม่ถูกขายให้ "เฉาเอ้อ" จิ่วเอ๋อก็ทุบตีพ่อด้วยความโกรธและรีบไปที่บ้านเฉาเอ้อเพื่อขอแม่คืนทันที ("อวี่จ้านอ๋าว" เป็นหนึ่งในคนงานที่ไปรับจ้างทำงานที่นั่นและอยู่ในเหตุการณ์พอดี) เฉาเอ้อปฏิเสธโดยบอกว่าตนจ่ายเงินซื้อแม่ของจิ่วเอ๋อมาแล้ว จิ่วเอ๋อจึงลงทุนคุกเข่าอ้อนวอน เฉาเอ้อบ่นอย่างเหนื่อยหน่ายว่าตั้งแต่แม่เธอมาที่นี่ก็ร้องไห้ฟูมฟายไม่หยุด อวี่จ้านอ๋าวจึงแนะนำให้ปล่อยแม่ของจิ่วเอ๋อไป เฉาเอ้อโวยวายว่าตนไม่ได้ตัวเธอมาฟรีๆ และกล่าวต่อว่าตนรำคาญที่แม่ของจิ่วเอ๋อเอาแต่ร้องไห้ทั้งวันจึงขายต่อให้คนอื่นแล้ว
อวี่จ้านอ๋าวแนะนำให้จิ่วเอ๋อรีบไปหาเงินมาไถ่ตัวแม่ก่อนที่แม่จะถูกส่งตัวไปที่อื่น เฉาเอ้อได้ยินดังนั้นจึงถือโอกาสโก่งราคา จิ่วเอ๋อไปขอความช่วยเหลือจากพี่ชายต่างมารดาแต่ถูกพี่สะใภ้ปฏิเสธและขัดขวาง เธอจึงบากหน้าไปขอความช่วยเหลือจากจางจี้ฉางแต่ก็ถูกปฏิเสธเช่นกัน จางจวิ้นเจี๋ยเห็นดังนั้นจึงช่วยกดดันพ่อจนพ่อของเขายอมให้เงินตามที่จิ่วเอ๋อต้องการ
จิ่วเอ๋อรีบนำเงินมาให้เฉาเอ้อเพื่อไถ่ตัวแม่คืนแต่กลับพบว่าแม่ของเธอผูกคอตายแล้ว เฉาเอ้อโวยวายลั่นที่แม่ของจิ่วเอ๋อคิดสั้นผูกคอตายในบ้านตน อวี่จ้านอ๋าวตำหนิเฉาเอ้อที่รับเงินค่าไถ่ตัวทั้งๆ ที่แม่ของจิ่วเอ๋อตายแล้ว แต่เฉาเอ้อกลับอ้างว่าตนเป็นฝ่ายเสียหายเพราะแม่ของจิ่วเอ๋อมาตายคาบ้านตน จิ่วเอ๋อทั้งโกรธและเสียใจจึงตรงเข้าทำร้ายเฉาเอ้อแต่ถูกเหล่าคนงานรวมทั้งอวี่จ้านอ๋าวห้ามเอาไว้ เธอจึงคิดที่จะเผาบ้านเฉาเอ้อแต่ถูกอวี่จ้านอ๋าวอุ้มออกจากบ้านไปเสียก่อนเพราะไม่อยากให้เธอโดนจับข้อหาวางเพลิง จิ่วเอ๋อซึ่งกำลังโกรธจนขาดสติจึงตบหน้าอวี่จ้านอ๋าวเต็มแรง เธอพยายามวิ่งเข้าไปในบ้านเฉาเอ้ออีกครั้งแต่ถูกเหล่าคนงานขวางเอาไว้
หลังขายบ้านแล้วไต้เหล่าซานก็ตามจิ่วเอ๋อมาที่บ้านของเฉาเอ้อ เมื่อเห็นลูกสาวตนกำลังอาละวาดอยู่ที่หน้าบ้านคนอื่น ไต้เหล่าซานจึงเข้าไปต่อว่าลูก เฉาเอ้อบอกไต้เหล่าซานว่าจิ่วเอ๋อจะเผาบ้านตน ตนจึงคิดที่จะจับจิ่วเอ๋อไปส่งนายอำเภอ จูหาวซานบังเอิญผ่านมาพอดีจึงถามว่าเกิดอะไรขึ้น พอรู้ว่าจูหาวซานคือนายอำเภอคนใหม่ จิ่วเอ๋อก็รีบคุกเข่าร้องทุกข์ จูหาวซานผู้รักความเที่ยงธรรมเห็นดังนั้นจึงเริ่มทำการไต่สวนโดยถามว่าจิ่วเอ๋อถูกใครรังแก จิ่วเอ๋อชี้ไปที่พ่อและเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง เมื่อได้ฟังเรื่องราวโดยละเอียด จูหาวซานจึงสั่งลงโทษเฉาเอ้อและไต้เหล่าซานต่อหน้าธารกำนัล (โดยใช้รองเท้าฟาดก้น คนละ 200 ที) จากนั้นก็ประกาศว่าตนจะปิดโรงฝิ่นและบ่อนการพนันทั้งหมดในเกามี่ (เพราะเป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด) ทำให้ได้รับเสียงชื่นชมจากประชาชนที่มามุงดู
จางจวิ้นเจี๋ยตามมาให้กำลังใจและคอยอยู่เคียงข้างจิ่วเอ๋อ (อวี่จ้านอ๋าวเห็นทั้งคู่จับมือกันจึงรู้ว่าจิ่วเอ๋อมีคนรักแล้ว) จิ่วเอ๋อร่ำไห้หน้าหลุมศพแม่พลางบอกว่าจากนี้ไปไม่มีใครรักเธออีกแล้ว จางจวิ้นเจี๋ยแย้งว่ายังมีตนอีกคน แต่จิ่วเอ๋อรู้ดีว่าครอบครัวจางจวิ้นเจี๋ยไม่มีทางยอมรับเธอแน่ๆ ถึงกระนั้น จางจวิ้นเจี๋ยก็ไม่ยอมแพ้ เขากลัวว่าเธอจะถูกพ่อขายไปอีกคนจึงบอกว่าจะหาวิธีพาตัวเธอออกจากบ้านให้ได้
เมื่อจิ่วเอ๋อกลับถึงบ้านก็พบว่าพ่อขายบ้าน (ห้องพัก) ให้คนอื่นไปแล้ว เธอกับพ่อจึงต้องย้ายมาอยู่โรงเก็บของแทน แถมพ่อเธอยังคิดขายเธอให้กับคนสกุลช่านซึ่งทำธุรกิจโรงกลั่นเหล้าจากข้าวฟ่าง โดยบอกเพียงว่า "ช่านถิงซิ่ว" (เจ้าของโรงเหล้า) อยากให้เธอแต่งงานกับลูกชายของเขาที่มีชื่อว่า "ช่านเปี่ยนหลาง" จิ่วเอ๋อแย้งว่าช่านเปี่ยนหลางกำลังป่วยเป็นโรคเรื้อน แต่พ่อของเธอ (ซึ่งจะได้เงินก้อนใหญ่จากการขายลูกกิน) ยังคงอ้างว่าตนหวังดี และชี้ว่าช่านเปี่ยนหลางคงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หากเขาตายเมื่อไหร่สมบัติสกุลช่านก็จะตกเป็นของจิ่วเอ๋อ จิ่วเอ๋อยืนกรานว่าถึงตายก็ไม่แต่ง แต่พ่อของเธอไม่สนใจ ซ้ำยังพูดว่าถ้าจะตายก็ไปตายที่บ้านคนสกุลช่าน
อีกด้านหนึ่งจางจวิ้นเจี๋ยก็กำลังมีปากเสียงกับพ่อเรื่องจิ่วเอ๋อ พ่อของเขายืนกรานว่าจะไม่ยอมให้ทั้งคู่คบกัน ขณะที่จางจวิ้นเจี๋ยเองก็ยืนยันว่าตนจะไม่ทนดูจิ่วเอ๋อลำบากอีกต่อไป พอรู้ว่าจิ่วเอ๋อกำลังจะถูกพ่อขายให้กับคนสกุลช่าน ซ้ำยังต้องแต่งงานกับคนเป็นโรคเรื้อน จางจวิ้นเจี๋ยจึงคิดที่จะพาจิ่วเอ๋อหนีไปอยู่ที่ชิงเต่า เขาชวนจิ่วเอ๋อคุกเข่าและกล่าวคำปฏิญาณเลียนแบบพิธีแต่งงานที่เคยเห็นในเมืองชิงเต่า จากนั้นก็แลกแหวนที่ทำจากต้นหญ้า ก่อนนัดกันว่าจะมาพบกันอีกครั้งที่นี่ตอนสี่ทุ่มเพื่อจะได้หนีไปตายดาบหน้าด้วยกัน เขาบอกให้เธอแอบอยู่หลังต้นไม้เพื่อความปลอดภัย ถ้าได้เสียงตบมือสามครั้งเมื่อไหร่จึงค่อยออกมา จิ่วเอ๋อรีบตอบตกลง จากนั้นก็หอมแก้มและสวมกอดจางจวิ้นเจี๋ยอย่างมีความสุข
เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรติดตามชมได้ใน " ตำนานรักทุ่งสีเพลิง (Red Sorghum)" ทางช่องโมเดิร์นไนน์ทีวี เอชดี
* เนื้อหาโดย luvasianseries
นักแสดงนำ
โจวซวิ่น
รับบท ไต้จิ่วเหลียน (จิ่วเอ๋อ)
(นักแสดง/นักร้อง ชาวจีน)
จูย่าเหวิน
รับบท อวี่จ้านอ๋าว
(นักแสดง ชาวจีน)
หวงเซวียน
รับบท จางจวิ้นเจี๋ย
(นักแสดง ชาวจีน)
ฉินไห่ลู่
รับบท ซูเสียน
(นักแสดง/นักร้อง/นักเขียนบท ชาวจีน
อวี๋หรงกวง
รับบท จูหาวซาน
(ผู้กำกับ/นักแสดง/โปรดิวเซอร์ ชาวจีน)
ซ่งเจียหลุน
รับบท หลัวฮั่น
(นักแสดง ชาวจีน)
คลิปไฮไลท์ความยาว 12.39 นาที เวอร์ชั่นภาษาจีน
รวมคลิปตัวอย่างและเบื้องหลัง
รวมคลิปตัวอย่างและเบื้องหลัง
*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***
ซีรี่ย์เรื่องนี้ดีมากๆ
ตอบลบ