จำนวนตอน: 40
ออกอากาศ: ไต้หวัน - 21 พฤศจิกายน 2550 ทางซีทีวี
จีน - 7 กุมภาพันธ์ 2551 ทางอีสต์ มูฟวี่ แชนแนล
จีน - 7 กุมภาพันธ์ 2551 ทางอีสต์ มูฟวี่ แชนแนล
ไทย - ทุกวันอังคาร-พฤหัสบดี เวลา 20.35 น. และวันศุกร์ เวลา 20.45 น. ทางช่อง 3 เอสดี ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2559 - 4 ตุลาคม 2559 (ออกอากาศครั้งแรก วันที่ 13 ตุลาคม 2554 ทางไทยทีวีสีช่อง 3)
กาลเวลาผ่านไป สรรพสิ่งเปลี่ยนแปลง ซันเย่ต้าฉางลูกชายของฮั่วเฟยเถิงเจ้าสำนักอินทรีย์เทพซึ่งอยู่นอกด่านนั้นได้เดินทางกลับดินแดนจงหยวนตามคำสั่งเสียอาจารย์ที่ให้ไว้ก่อนที่จากโลกนี้ไป ที่เมืองจี้หนัน ต้าฉางนัดประลองกับไป๋ซันคง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ไม่สามารถเปิดเผยให้ผู้ใดล่วงรู้ได้ ไป๋ซันคงจึงซ้อนแผนโดยใช้การประลองกับต้าฉางแสร้งทำเป็นตาย ฟางเป่าอี้หลานชายของไป๋ซันคงเศร้าโศกเสียใจมากจึงตัดสินใจฝึกวรยุทธเพื่อล้างแค้นให้ไป๋ซันคงผู้เป็นตา ฟางเป่าอี้เดินทางไปที่หาดป๋อไห่เพื่อฝากตัวเป็นศิษย์จื่ออีโหว ระหว่างทางเป่าอี้ถูกหวังต้าเหนียงแห่งไป๋สุ่ยกงจับตัวไป ด้านนอกของโรงเตี๊ยม เป่าอี้ใช้ความเฉลียวฉลาดทำให้เปินเยี่ยซึ่งกำลังตื่นตาตื่นใจกับโลกภายนอกให้ช่วยชีวิตตนเอาไว้ ทั้งสองร่วมทุกข์ร่วมสุขกันจนทั้งสองรักกัน บรรดาชาวยุทธจากสำนักต่าง ๆ ต่างพากันเดินทางมาที่หาดป๋อไห่เพื่อตามหาจื่ออีโหวมือกระบี่อันดับหนึ่งของแผ่นดินซึ่งถอนตัวจากยุทธภพโดยมีเป้าหมายที่แตกต่างกัน จูเอ๋อลูกสาวของหวังเตียนซึ่งพลัดหลงกับเป่าอี้นั้นได้พบกับเด็กซึ่งพลัดหลงกับแม่ที่วัดร้างเข้าโดยบังเอิญ
บนเรือธงห้าสี ทัวเฉินมอบม้าพันธุ์ดีให้จื่ออีโหวโดยหวังว่าจื่ออีโหวจะรับปากเป็นราชครูแคว้นต้าหวั่น แต่น่าเสียดายกลับถูกจื่ออีโหวปฏิเสธ มู่หลางคุณชายน้อยแห่งป้อมชิงมู่ขอยาถอนพิษจากจื่ออีโหว แต่ก็ต้องถูกปฏิเสธเช่นเดียวกัน มีเพียงหวังเตียนจอมยุทธแห่งแม่น้ำเหลืองเท่านั้น ที่เกลี้ยกล่อมจื่ออีโหวให้ประลองกับต้าฉาง ต้าฉางไม่ทันระวังพลัดตกน้ำไป
จื่ออีโหวซึ่งได้อ่านจดหมายของไป๋ซันคงแล้วก็รับฟางเป่าอี้เอาไว้ คนจำนวนหนึ่งลอบเข้าไปในบ้านจื่ออีโหว เป่าอี้รู้สึกไม่พอใจการปฏิบัติของจื่ออีโหว ดังนั้นจึงแอบหลบหนีไป เปินเยี่ยซึ่งดื้อรั้นเอาแต่ใจได้ติดตามไปด้วยกันกับเป่าอี้
มู่หลางมีใจให้ทัวเฉินเมื่อแรกพบ มู่หลางช่วยชีวิตทัวเฉินจากเงื้อมมือหลีจื่อหยวนและพวก ทั้งสองพากันเดินทางไปที่ป้อมชิงมู่ ต้าฉางได้รับการช่วยชีวิตจากเจ้าแม่ไป๋สุ่ยแห่งไป๋สุ่ยกง เมื่อรู้ว่าไป๋สุ่ยกงจะบุกโจมตีป้อมชิงมู่ ต้าฉางจึงรีบนำความไปบอกป้อมชิงมู่ให้เตรียมการป้องกัน ที่แท้ระหว่างทางที่ต้าฉางเดินทางไปที่หาดป๋อไห่นั้นได้รู้จักกับมู่หลางจนได้ผูกสัมพันธ์เป็นพี่น้องกัน
หลังจากที่ไปจากหาดป๋อไห่แล้ว จูเอ๋อก็สะกดรอยตามหวังเตียน นึกไม่ถึงว่ากลับถูกหวังเตียนพบเห็นเข้า โชคดีที่จูเอ๋อหลบหนีเอาตัวรอดไปได้จนได้พบกับต้าฉาง จูเอ๋อดีใจมากที่ได้พบกับต้าฉางอีกครั้ง
ต้าฉางปฏิบัติตามคำสั่งเสียของอาจารย์ที่ให้ไว้โดยท้าประลองกับมือกระบี่ทั่วทั้งยุทธภพ ต้าฉางท้าประลองนักพรตชื่อซง ในเวลาเดียวกัน ไป๋ซันคงซึ่งกบดานอยู่นั้นและหวังเตียนสุภาพบุรุษจอมปลอมได้ปรึกษาหารือกันวางแผนให้นักพรตชื่อซงพ่ายแพ้ต่อต้าฉาง หลังจากที่ประลองเสร็จสิ้นลง แม้ว่าต้าฉางปลิดชีวิตนักพรตชื่อซงลงได้ แต่ก็ไม่สามารถได้กระบี่วิเศษมาครอบครอง ที่สำคัญต้าฉางยังได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกด้วย บรรดาชาวยุทธฝ่ายธรรมต่างพากันตามล่าหมายเอาชีวิตต้าฉาง นับเป็นอีกครั้งที่เจ้าแม่ไป๋สุ่ยได้ช่วยชีวิตต้าฉางไว้ เจ้าแม่ไป๋สุ่ยจับจ้องไปที่ต้าฉางซึ่งหมดสติไป ที่แท้ไป๋เยี่ยนจู๋ปลอมตัวเป็นเจ้าแม่ไป๋สุ่ย นางหวนนึกถึงความหลังเมื่อครั้งที่ได้รู้จักกับฮั่วเฟยเถิง
เมื่อพบว่ามีคนสะกดรอยตาม จื่ออีโหวก็ตัดสินใจเบี่ยงเบนความสนใจศัตรู โดยให้เซาโหวไปสมทบกับเป่าอี้และเปินเยี่ยที่นอกด่าน เพื่อไขปมปริศนาชาติกำเนิดของเป่าอี้ ระหว่างทาง เป่าอี้และเปินเยี่ยได้รับอันตราย โชคดีที่จินจู่หยางช่วยชีวิตทั้งสองเอาไว้
ภายในกระท่อมนอกด่าน หลีจื่อหยวนฉวยโอกาสที่จินจู่หยางและเป่าอี้ไม่อยู่ลักพาตัวเปินเยี่ย เพื่อช่วยเปินเยี่ย เป่าอี้ได้ฝึกสุดยอดวิชาจากจินจู่หยาง
ต้าฉางและจูเอ๋อพากันปลอมตัวเป็นนักพรตลอบเข้าไปที่ไป๋หยุนกวาน เพื่อช่วยมู่หลางและทัวเฉิน แต่นึกไม่ถึงว่ากลับต้องตกอยู่ในวงล้อมของสำนักบู๊ตึ๊ง จูเอ๋อออกอุบายทำให้ทุกคนรอดพ้นอันตราย แต่นางกลับถูกจับกุมตัวไว้ได้ หวังเตียนต้องการให้จูเอ๋อผู้เป็นลูกสาวประกบต้าฉาง คอยรายงานความเคลื่อนไหวของต้าฉางให้ตนรู้ จูเอ๋อปฏิเสธ เมื่อเป็นเช่นนั้นหวังเตียนจึงต้องวางยาเพื่อไว้ควบคุมจูเอ๋อ
นับเป็นอีกครั้งที่ไป๋สุ่ยกงบุกโจมตีป้อมชิงมู่ ต้าฉาง,ทัวเฉินและมู่หลางถูกจับกุมตัวไว้ได้ ต้าฉางต้องจำใจเข้ากับไป๋สุ่ยกงเป็นการชั่วคราวเพื่อช่วยชีวิตจูเอ๋อ ต้าฉางตัดสินใจลอบเข้าไปที่ ไป๋หยุนกวานอีกครั้งโดยมีเจ้าแม่ไป๋สุ่ยคอยให้ความช่วยเหลือ
บรรดาชาวยุทธต่างพากันเดินทางไปที่ไป๋หยุนกวานเพื่อเลือกผู้นำชาวยุทธคนใหม่ เพื่อขจัดความขัดแย้ง ทุกคนจึงลงความเห็นให้ฟางเป่าอี้และต้าฉางประลองกัน ทั้งหมดเป็นแผนการของไป๋ซันคงและหวังเตียน ศึกในครั้งนี้ทำให้ความสัมพันธ์ของจูเอ๋อและต้าฉาง รวมทั้งความสัมพันธ์ของเปินเยี่ยและเป่าอี้ต้องพังทลายลง หวังเตียนดำรงตำแหน่งผู้นำชาวยุทธ เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นทำให้จื่ออีโหวและจินจู่หยางเกิดความเคลือบแคลงสงสัยไป๋ซันคงและหวังเตียนขึ้นมา
เพื่อช่วยชีวิตต้าฉางซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสและจูเอ๋อซึ่งได้รับพิษร้ายเข้าไปนั้น จื่ออีโหวและ เจ้าแม่ไป๋สุ่ย เป่าอี้และต้าฉางได้พากันวางบุญคุณความแค้นที่มีต่อกันลง เป่าอี้พาจูเอ๋อไปถอนพิษ จินจู่หยางบอกจูเอ๋อว่าเมื่อถอนพิษแล้วจะต้องสูญเสียความทรงจำ จูเอ๋อกลัวว่าเมื่อสูญเสียความทรงจำไปจะลืมต้าฉาง นางจึงแอบหลบหนีไป
หวังเตียนนำพาสำนักต่างๆกวาดล้างพรรคมาร ทำให้ไป๋สุ่ยกงมีภัย เปินเยี่ยลูกสาวจื่ออีโหวขอร้องจื่ออีโหวให้ร่วมมือกับเจ้าแม่ไป๋สุ่ยรับศึก หลังจากที่ศึกครั้งนี้ผ่านพ้นไป ต้าฉาง,มู่หลางและพวกต่างก็ไปกันคนละทิศคนละทาง เจ้าแม่ไป๋สุ่ยและจื่ออีโหวถูกบีบบังคับให้เข้าไปุบเขา เพื่อช่วยชีวิตทัวเฉินและเปินเยี่ยไว้ ทำให้จื่ออีโหวและเจ้าแม่ไป๋สุ่ยต่างได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วยกันทั้งคู่ ไป๋เยี่ยนจู๋ซาบซึ้งในน้ำใจของจื่ออีโหว นางจึงตัดสินใจถอดหน้ากากออกเพื่อให้จื่ออีโหวได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของนาง
เป่าอี้เดินทางไปที่บ้านสกุลไป๋เพื่อตามหาจูเอ๋อ แต่นึกไม่ถึงว่าได้พบกับมู่หลางเข้าโดยบังเอิญ ทำให้เป่าอี้เกิดความสงสัยขึ้นมา ดังนั้นจึงสะกดรอยตามมู่หลาง ในที่สุดเป่าอี้ก็พบว่ามู่หลางเป็นคนของราชสำนัก เมื่อเป่าอี้รู้ฐานะที่แท้จริงของมู่หลางแล้ว มู่หลางก็ตัดสินใจกำจัดเป่าอี้ เป่าอี้หลบหนีไปจนทะเลทรายและได้พบกับทัวเฉินและเปินเยี่ยโดยบังเอิญ เปินยี่ยและทัวเฉินดีใจมากที่ได้พบกับเป่าอี้อีกครั้ง เนื่องจากเรื่องที่ไป๋หยุนกวานยังไม่ยุติ หลังจากที่ออกจากทะเลทรายแล้ว ทั้งสามพบว่ามีประกาศนำจับเป่าอี้ทั่วเมือง เป่าอี้เปิดเผยฐานะที่แท้จริงของมู่หลางให้ทัวเฉินและเปินเยี่ยรู้ ทัวเฉินกลับไม่เชื่อ จนกระทั่งทั้งสามถูกเจ็บ ทัวเฉินเศร้าโศกเสียใจยิ่งนัก
มู่หลางบีบบังคับให้เป่าอี้รับใช้ราชสำนัก เพื่อเปินเยี่ย ทำให้เป่าอี้ไม่มีทางเลือกจึงต้องรับปากตามความต้องการของมู่หลาง หลังจากที่เป่าอี้และเปินเยี่ยออกจากห้องขังแล้วก็ได้พบกับไป๋เยี่ยนจู๋และจื่ออีโหวซึ่งได้รับบาดเจ็บ ในเวลานี้เองเป่าอี้ถึงได้รู้ฐานะที่แท้จริงของตน ทำให้ยากทำใจยอมรับว่าจื่ออีโหวเป็นศัตรูที่ฆ่าพ่อ เป่าอี้พาเปินเยี่ยจากไป ทั้งสองได้พบกับจูเอ๋อซึ่งสูญเสียความทรงจำที่วัดแห่งหนึ่ง นอกจากนี้ยังพบต้าฉางอีกด้วย คนทั้งสี่ได้พบกันอีกครั้ง ทำให้ยากที่จะหลีกเลี่ยงบุญคุณความแค้นที่มีต่อกัน ต่อมา เปินเยี่ยถูกมู่หลางลักพาตัวไป มู่หลางให้เป่าอี้นำศีรษะของจื่ออีโหวและ ไป๋เยี่ยนจู๋มาช่วยชีวิตเปินเยี่ยภายในสามเดือน ในเวลาเดียวกัน จื่ออีโหวและไป๋เยี่ยนจู๋ก็พากันเดินทางไปหยุนหนันเพื่อตามหาเป่าอี้และเปินเยี่ย เป่าอี้,จินจู่หยาง,จื่ออีโหวและไป๋เยี่ยนจู๋ได้พบกันอีกครั้ง
เพื่อค้นหากระบี่วิเศษ จูเอ๋อร่วมเดินทางไปกับต้าฉาง ระหว่างทางทั้งสองถูกหลีจื่อหยวนและพวกสะกดรอยตาม จนกระทั่งทั้งสองได้พบกับเป่าอี้ จูเอ๋อ,ต้าฉางและเป่าอี้พากันติดตามไป๋ซันคงไปหามู่หลางเพื่อช่วยชีวิตเปินเยี่ย
เมื่อนึกถึงว่ามู่หลางและพวกกำลังมาถึง จินจู่หยาง,จื่ออีโหวและไป๋เยี่ยนจู๋ก็ตัดสินใจว่าจะต้องหากระบี่วิเศษให้พบเสียก่อน
ทุกคนพากันไปที่เมืองโบราณตามตำนาน สถานที่นี้เป็นสถานที่ยุติความบาดหมางที่มีต่อกัน การนองเลือดได้เริ่มต้นขึ้น มู่หลางต้องจบชีวิตลงภายใต้คมกระบี่หญิงคนรัก ทัวเฉินเศร้าโศกเสียใจจึงฆ่าตัวตาย ต้าฉางและเป่าอี้ต่างสับสนเมื่อพบว่าทั้งสองเป็นพี่น้องร่วมมารดาแต่ต่างบิดากัน
สามเดือนต่อมา เป่าอี้และต้าฉางประลองยุทธกัน นึกไม่ถึงว่ากระบี่ของต้าฉางถูกเป่าอี้ทำลาย ทำให้ต้าฉางพบหนังสือที่อาจารย์ซุกซ่อนไว้ในกระบี่ เนื้อความในจดหมายได้เปิดเผยถึงชาติกำเนิดที่แท้จริงของต้าฉาง
ต้าฉางนำกระบี่วิเศษทั้งสองเล่มกลับไปมอบให้ฮั่วเฟยเถิง เป่าอี้และเปินเยี่ยพากันเดินทาง ไปด้วยกันเพื่อมุ่งสู่วันข้างหน้า
* ข้อมูลจาก ช่อง 3
เล่าขานกันว่าในยุคชุนชิวจ้านกั๋วมีวีรบุรุษเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก บรรดาอ๋องต่างตั้งเป็นใหญ่ ในเวลาเดียวกันก็มีกระบี่วิเศษมากมายอุบัติขึ้นมา กระบี่เป็นอาวุธคู่กายนักรบ แม้ว่ากระบี่วิเศษสูญหายไป บรรดาชาวยุทธต่างก็พากันเสาะหามาครอบครองให้ได้ ฮั่วเฟยเถิงเจ้าสำนักอินทรีย์เทพซึ่งอยู่นอกด่านใช้เวลาถึงสี่ปีเสาะหากระบี่กันเจียง อานุภาพของกระบี่กันเจียงทำให้แผ่นดินสะเทือนเลื่อนลั่น อากาศแปรปรวน ฮั่วเฟยเถิงนำกระบี่วิเศษเดินทางกลับสำนักอินทรีย์เทพ ไป๋เยี่ยนจู๋ฮูหยินของฮั่วเฟยเถิงให้กำเนิดทารกเพศชาย
เดิมทีไป๋เยี่ยนจู๋เป็นบุตรีเพียงคนเดียวของไป๋ซันคงแห่งบ้านชิงผิง ต่อมาไป๋เยี่ยนจู๋และฮั่วเฟยเถิงรักกัน แต่เนื่องจากความรักของคนทั้งสองถูกไป๋ซันคงกีดกัน ทำให้ทั้งสองหนีไปอยู่กินกันฉันท์สามีภรรยาที่นอกด่าน จนกระทั่งวันนี้ไป๋ซันคงก็ยังคงตามหาไป๋เยี่ยนจู๋ ในที่สุดไป๋ซันคงก็พบเบาะแสไป๋เยี่ยนจู๋ ไป๋ซันคงวางแผนล่อไป๋เยี่ยนจู๋ลูกสาวออกมาเพื่อที่จะได้กำจัดฮั่วเฟยเถิงได้สะดวกขึ้น ฮั่วเฟยเถิงอุ้มลูกชายหลบหนี กงซุนเหลียงชาวเผิงไหลช่วยชีวิตฮั่วเฟยเถิงและลูกไว้ ที่แท้กงซุนเหลียงมีเป้าหมายที่จะได้กระบี่วิเศษมาครอบครอง เพื่อตอบแทนพระคุณที่กงซุนเหลียงช่วยชีวิตตนไว้ ฮั่วเฟยเถิงจึงรับปากกงซุนเหลียงว่าจะใช้กระบี่กันเจียงเสาะหากระบี่ม่อเสีย
ในที่สุดฮั่วเฟยเถิงก็พบกระบี่ม่อเสีย กงซุนเหลียงทายาทเผ่าเผิงไหลซึ่งหลงใหลในกระบี่เป็นชีวิตจิตใจนั้นเป็นผู้สันทัดในเพลงกระบี่ ดังนั้นจึงคิดครอบครองกระบี่ม่อเสียและกระบี่กันเจียง แม้ว่ากงซุนเหลียงเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตฮั่วเฟยเถิงไว้ แต่ฮั่วเฟยเถิงก็ไม่ต้องการให้กระบี่วิเศษตกอยู่ในมือชาวเผิงไหล ด้วยเหตุนี้ฮั่วเฟยเถิงจึงรับคำท้าจากกงซุนเหลียง กงซุนเหลียงใช้กระบวนท่านางแอ่นคืนรังสยบฮั่วเฟยเถิง เมื่อฮั่วเฟยเถิงพ่ายแพ้ให้กงซุนเหลียง ฮั่วเฟยเถิงจึงต้องมอบลูกชายให้กงซุนเหลียงนำไปเลี้ยงดูตามที่ตกลงกันไว้
แปดปีต่อมา ไป๋เยี่ยนจู๋แต่งงานใหม่กับจื่ออีโหวโหวหยวนที่มีชื่อเสียงเลื่องลือทั่วทั้งแผ่นดิน ไป๋เยี่ยนจู๋และ จื่ออีโหวมีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน ต่อมา ไป๋เยี่ยนจู๋ผิดหวังยิ่งนักเมื่อรู้ความจริงว่าพ่อของนางวางแผนทำให้นางต้องพลัดพรากจากฮั่วเฟยเถิงและลูก เมื่อไป๋เยี่ยนจู๋รู้ความจริงเช่นนั้นแล้วก็จากไปด้วยความโกรธ ไป๋เยี่ยนจู๋ออกตามหาฮั่วเฟยเถิงและลูกที่พลัดพรากจากกัน ด้วยความที่จิตใจของไป๋เยี่ยนจู๋ว้าวุ่นทำให้นางหลงทางจนถึงหน้าผาแห่งหนึ่ง นึกไม่ถึงว่าไป๋เยี่ยนจู๋ได้พบกับโหวฟงน้องชายของโหวหยวนซึ่งหลงรักนางมาโดยตลอด โหวหยวนและโหวฟง สองพี่น้องผิดใจกันอันมีสาเหตุมาจากผู้หญิงเพียงคนเดียว ทำให้สองพี่น้องห้ำหั่นกันเอง ไป๋เยี่ยนจู๋เศร้าโศกเสียใจยิ่งนักเมื่อรู้ว่าฮั่วเฟยเถิงเสียชีวิตไปเมื่อแปดปีที่แล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ไป๋เยี่ยนจู๋จึงกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตาย เพื่อช่วยชีวิต ไป๋เยี่ยนจู๋ไว้ โหวหยวนจึงกระโดดหน้าผาตามลงไป
กาลเวลาผ่านไป กงซุนเหลียงซึ่งสังหารฮั่วเฟยเถิงนั้นบัดนี้ต้องเผชิญกับวิกฤต ต้าฉาง (ลูกชายของฮั่วเฟยเถิง) ศิษย์เอกได้รับการถ่ายทอดสุดยอดเพลงกระบี่จากกงซุนเหลียง เฉาชิวต้องการรวบรวมสำนักกระบี่ทั้งหลายเป็นหนึ่งเดียว ดังนั้นจึงส่งหนังสือท้าประลองไปยังสำนักกระบี่ต่างๆ เฉาชิวตระหนักดีว่ากระบวนท่านางแอ่นคืนรังเป็นกระบวนท่าที่มีอานุภาพ ดังนั้นจึงวางแผนไม่ให้กงซุนเหลียงใช้กระบวนท่านางแอ่นคืนรัง ในที่สุด กงซุนเหลียงก็ต้องจบชีวิตลงด้วยคมกระบี่ของเฉาชิว ต้าฉางต้องการทดแทนพระคุณกงซุนเหลียงผู้เป็นอาจารย์ ดังนั้นจึงตัดสินใจเดินทางมายังดินแดนจงหยวนเพื่อเสาะหากระบี่วิเศษอีกเจ็ดเล่มให้พบตามเจตนารมณ์อาจารย์ ทันทีที่ต้าฉางเดินทางมาถึงดินแดนจงหยวน ต้าฉางก็สยบสี่ยอดฝีมือจงหยวนลงได้ เป้าหมายต่อไปของต้าฉางคือท้าประลองกับไป๋ซันคง
ไป๋ซันคงเป็นผู้นำชาวยุทธซันตง แต่กลับห้ามไม่ให้ฟางเป่าอี้หลานชายฝึกวรยุทธ ฟางเป่าอี้เฉลียวฉลาดจึงแอบศึกษาวรยุทธจากศิษย์พี่หูปู้โฉว หวังเตียนจอมยุทธฮวงโหและจูเอ๋อลูกสาวได้พากันเดินทางมายังบ้านชิงผิง ฟางเป่าอี้ยืนกรานที่จะประลองกับจูเอ๋อให้ได้ ผลปรากฏว่าฟางเป่าอี้เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ดังนั้นจึงต้องพาจูเอ๋อไปกินปลาหลีฮื้อเปรี้ยวหวานที่เลื่องชื่อตามที่ให้คำมั่นสัญญาไว้ โรงเตี๊ยมเจาเทียนเก๋อ ฟางเป่าอี้และจูเอ๋อได้พบกับต้าฉาง ฟางเป่าอี้เกิดความสนอกสนใจดาบของต้าฉาง ดังนั้นจึงขอดูเพื่อเปิดหูเปิดตา ฟางเป่าอี้ใช้อุบายจนบรรลุความปรารถนา แต่จูเอ๋อกลับไม่พอใจพฤติกรรมของฟางเป่าอี้ หลังจากที่จูเอ๋อและฟางเป่าอี้ออกจากโรงเตี๊ยมไปแล้ว จูเอ๋อก็ได้พบกับหลี่เซียวหยานหลานชายของหลีจื่อหยวนฉายาวานรแปดกรซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากับจูเอ๋อ จูเอ๋อและหลี่เซียวหยานต่อสู้กัน ฟางเปาอี้ใช้อุบายทำให้หลี่เซียวหยานพ่ายแพ้ อีกด้านหนึ่งนั้น ต้าฉางและไป๋ซันคงพบกันที่โรงเตี๊ยมเจาเทียนเก๋อ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตน ไป๋ซันคงซ้อนแผนโดยใช้การประลองแสร้งทำเป็นตาย หวังเตียนซึ่งสมรู้ร่วมคิดกับไป๋ซันคงนั้นได้ชักชวนบรรดาชาวยุทธมาชุมนุมกันที่ซันตงโดยใช้การตายของไป๋ซันคงยั่วยุบรรดาชาวยุทธกำจัดต้าฉาง
****
ศิษย์ของไป๋ซันคงวางแผนจับกุมตัวต้าฉาง ขณะที่ต้าฉางกำลังเพลี่งพล้ำนั่นเอง หวังเตียนช่วยชีวิตต้าฉางไว้ จากนั้นหวังเตียนก็บอกต้าฉางว่าถ้าต้องการบรรลุเป้าหมายต้องท้าประลองกับ โหวฟงจื่ออีโหว
ฟางเป่าอี้ท้อแท้สิ้นหวังต่อการจากไปของท่านตา หูปู้โฉวและจูเอ๋อต่างพากันร้อนใจ หวังเตียนกลับไม่ยินดียินร้ายแต่อย่างใด หวังเตียนเชื่อมั่นว่าฟางป่าอี้จะต้องหาทางออกได้อย่างแน่นอน ฟางเป่าอี้ทำใจยอมรับความจริงโดยตั้งอกตั้งใจฝึกวรยุทธเพื่อล้างแค้นให้ท่านตา ขณะที่ฟางเป่าอี้เดินทางไปที่หาดปอไห่นั่นเอง ฟางเป่าอี้พบเห็นผู้คนกำลังสักการะมู่หลาง ทันใดนั่นเอง หวังต้าเหนียงฉายาเหล่าปู้สื่อแห่งไป๋สุ่ยกงได้ปรากฏตัวขึ้นมา การปรากฏตัวของหวังต้าเหนียงทำให้จูเอ๋อซึ่งเป็นหลานสาวเกิดความตระหนก จูเอ๋อพยายามหลบหนีด้วยไม่อยากให้หวังต้าเหนียง พบเห็น ฟางเป่าอี้ขโมยของวิเศษของมู่หลาง น่าเสียดายกลับถูกหวังต้าเหนียงจับได้
จูเอ๋อย้อนกลับมาหาฟางเป่าอี้ด้วยไม่สามารถทำใจทิ้งฟางเป่าอี้ไปได้ ต่อมาจูเอ๋อเข้าไปในวัดร้างแห่งหนึ่งจนได้พบกับต้าฉางซึ่งได้รับบาดเจ็บ เดิมทีจูเอ๋อสบโอกาสที่จะปลิดชีวิตต้าฉาง แต่ก็ไม่สามารถลงมือได้ ในเวลาเดียวกันนั้นเอง หลี่เซียวหยานและพวกพากันเดินทางมาถึงวัดร้าง หลี่เซียวหยานใช้วาจาแทะโลมจูเอ๋อ จูเอ๋อไม่อยากเห็นหน้าหลี่เซียวหยวนอีกต่อไป เมื่อต้าฉางได้ยินเช่นนั้นก็ปลิดชีวิตหลี่เซียวหยานและพวกทันที จูเอ๋อตกใจมากถึงกับหน้าถอดสีเลยทีเดียว ที่เป็นเช่นนี้นั้นด้วยตระหนักดีว่านางไม่มีทางล้างมลทินครั้งนี้อย่างแน่นอน เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว จูเอ๋อก็ตัดสินใจเลยตามเลยโดยติดตามต้าฉางไปทุกหนแห่ง ระหว่างทางที่ทั้งสองเดินทางไปด้วยกันนั้น ทั้งสองต่าง มีความรู้สึกที่ดีต่อกันขึ้นมา
หวังต้าเหนียงไปสืบข่าวคราวตามโรงเตี๊ยมต่างๆ นึกไม่ถึงว่าหวังต้าเหนียงได้พบกับฟางเป่าอี้ นางจึงมัดฟางเป่าอี้ไว้กับที่ผูกม้าซึ่งอยู่ด้านนอกของโรงเตี๊ยม ต่อมา หวังต้าเหนียงได้ยินชาวยุทธพูดคุยกันถึงเรื่องที่แคว้นต้าหวั่นจะมอบม้าพันธุ์ดีสองตัวให้จื่ออีโหว เมื่อหวังต้าเหนียงได้ยินเช่นนั้นก็อยากได้ม้าทั้งสองมาครอง ด้านนอกของโรงเตี๊ยม เปินเยี่ยซึ่งหลบหนีอออกมานั้นรู้สึกแปลกใจมากเมื่อพบเห็นฟางเป่าอี้ถูกมัดอยู่กับที่ผูกม้า จากการเกลี้ยกล่อมของฟางเป่าอี้ ทำให้เปินเยี่ยปล่อยฟางเป่าอี้เป็นอิสระ ฟางเป่าอี้และเปินเยี่ยต่างพากันหลบหนีการตามล่าของหวังต้าเหนียง ทั้งสองร่วมทุกข์ร่วมสุขกันจนเกิดความรู้สึกที่ดีต่อกัน ที่เป็นเช่นนี้นั้นเนื่องจากทั้งสองมีชาติกำเนิดเหมือนกัน ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ทั้งสองเข้ากันได้เป็นอย่างดี นับเป็นครั้งแรกที่เปินเยี่ยออกสู่โลกภายนอก ดังนั้นจึงรู้สึกตื่นตาตื่นใจเป็นพิเศษ ความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาของเปินเยี่ยได้มัดใจฟางเป่าอี้ไว้แล้ว
เปินเยี่ยและฟางเป่าอี้พากันออกม้าพันธุ์ดีที่แคว้นต้าหวั่นจะมอบให้จื่ออีโหว อีกด้านหนึ่งนั้น ทัวเฉินซึ่งแต่งกายเป็นชายได้พบกับมู่หลางที่วัดร้างแห่งหนึ่ง ขณะที่ทัวเฉินและมู่หลางกำลังต่อสู้กันนั่นเอง ม้าพันธุ์ดีก็ถูกฟางเป่าอี้และเปินเยี่ยขโมยไป
ต้าฉางเดินทางไปที่หาดปอไห่เพื่อท้าประลองกับจื่ออีโหวตามคำแนะนำของหวังเตียน ต้าฉางห้ามไม่ให้จูเอ๋อร่วมเดินทางไปกับตน แต่จูเอ๋อกลับไม่ยอม ขณะที่ทั้งสองกำลังดึงดันกันอยู่นั่นเอง ฟางเป่าอี้และเปินเยี่ยผ่านมาพบเห็นเข้าจึงเข้าช่วยเหลือจูเอ๋อเอาไว้ จูเอ๋อต่อว่าฟางเป่าอี้ที่เข้ามายุ่งวุ่นวายเรื่องของนาง นอกจากนี้จูเอ๋อยังประนามจื่ออีโหวอย่างเสียหายทำให้เปินเยี่ยเกิดความไม่พอใจจนทั้งสองต่อสู้กันขึ้นมา ขณะที่ฟางเป่าอี้กำลังลำบากใจนั่นเอง หัวเฉินนำพาผู้คนล้อมคนทั้งสองไว้โดยให้มอบม้าพันธุ์ดีให้นาง เมื่อมีการขัดขืนก็เกิดการต่อสู้กันขึ้นมา เปินเยี่ยพลาดท่าเสียที ทันใดนั้นเองชุนหยิ่งและเซี่ยฉานก็ปรากฏตัวขึ้นมา ทั้งสองเปิดเผยความจริงให้ทัวเฉินรู้ว่าเปินเยี่ยเป็นคุณชายน้อยแห่งเรือธงห้าสี
ที่โรงเตี๊ยมหยุนไหล หวังเตียนพบคนลึกลับคนหนึ่ง คนลึกลับต้องการให้หวังเตียนคลี่คลายปัญหาต่าง ๆ ในยุทธภพโดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ยังกำชับให้หวังเตียนทำงานเอาจริงเอาจังอีกด้วย จากนั้น หวังเตียนก็เดินทางไปที่หาดป๋อไห่
บนเรือธงห้าสี ทัวเฉินมอบม้าพันธุ์ดีให้จื่ออีโหวโดยหวังว่าจื่ออีโหวจะรับตำแหน่งราชครูแคว้นต้าหวั่น แต่น่าเสียดายที่จื่ออีโหวกลับปฏิเสธ มู่หลางขอยาถอนพิษจากจื่ออีโหว แต่กลับถูกจื่ออีโหวปฏิเสธ ในเวลาเดียวกัน หวังเตียนหวังว่าจื่ออีโหวจะประลองยุทธกับต้าฉาง ในที่สุดจื่ออีโหวและต้าฉางก็ประลองยุทธกันจนเลื่องลือไปทั่วยุทธภพ ต้าฉางใช้กระบวนท่านางแอ่นคืนรังรับมือกับจื่ออีโหว น่าเสียดายที่พื้นฐานของต้าฉางยังไม่สู้ดีนัก ทำให้จื่ออีโหวสบโอกาสเล่นงานต้าฉาง ทำให้ต้าฉางถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัสพลัดตกทะเลลงไป ทุกคนต่างพากันตกตะลึงกับการประลองยุทธของจื่ออีโหวและต้าฉาง จากการเชื้อเชิญของหวังเตียน จื่ออีโหวจึงรับปากไปร่วมงานเลี้ยงแสดงความยินดีที่บรรดาชาวยุทธจัดขึ้น ที่โรงเตี๊ยมจี้เสียน มู่หลางจับตัวเปินเยี่ยต่อรองให้จื่ออีโหวมอบน้ำทิพย์ออกมา มู่หลางตกอยู่ในวงล้อม ขณะที่เหตุการณ์ณ์กำลังวิกฤตนั่นเอง ทัวเฉินก็บุกเข้ามา
บนเรือหลังจากที่จื่ออีโหวอ่านจดหมายจากไป๋ซันคงแล้วก็ให้ที่พักพิงแก่ฟางเป่าอี้ แต่ก็ไม่ได้รับปากว่าจะถ่ายทอดวรยุทธให้ฟางเป่าอี้ จื่ออีโหวทดสอบฟางเป้าอี้ ทำให้ฟางเป่าอี้เกิดความไม่พอใจจื่ออีโหวขึ้นมา แต่ถึงกระนั้นก็ตามก็ต้องสะกดอารมณ์เอาไว้
ต้าฉางซึ่งถูกจื่ออีโหวซัดตกทะเลนั้นยังไม่ตาย นึกไม่ถึงว่าต้าฉางพลัดหลงเข้าไปในงานชุมนุมพรรคมารโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ขณะที่เจ้าแม่ไป๋สุ่ยกำลังจะทำลายความเป็นชายของต้าฉางนั่นเอง เจ้าแม่ไป๋สุ่ยก็ตกใจมากเมื่อพบเห็นรอยสักรูปอินทรีย์เหิรบนแผ่นหลังต้าฉาง เมื่อเจ้าแม่ไป๋สุ่ยเห็นเช่นนั้นก็เกลี้ยกล่อมต้าฉางเป็นพวก แต่กลับถูกต้าฉางปฏิเสธ
ที่เมืองแห่งหนึ่ง ทัวเฉินรู้สึกรันทดเมื่อเห็นนักรบแคว้นต้าหวั่นถูกฆ่าตายเป็นจำนวนมาก ทันใดนั้นเอง หลีจื่อหยวนก็นำพาพรรคพวกมาช่วงชิงม้าพันธุ์ดีเป็นเหตุให้ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันขึ้นมา ขณะที่เหตุการณ์กำลังชุลมุนนั่นเอง มู่หลางปรากฏตัวขึ้นปลิดชีวิตหลีจื่อหยวน ทัวเฉินตัดสินใจให้มู่หลางยืมม้าพันธุ์ดีเพื่อใช้เดินทางกลับไปยังป้อมชิงมู่
ระหว่างทางที่เดินทางไปหาดปอไห่นั่นเอง เนื่องจากมู่หลางและต้าฉางเคยต่อสู้กันมาก่อน ทำให้คนทั้งสองมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน ต้าฉางพบว่าเจ้าแม่ไป๋สุ่ยจะบุกป้อมชิงมู่ เมื่อต้าฉางรู้เช่นนั้นแล้วจึงรีบรุดเดินทางไปที่ป้อมชิงมู่ทันที แต่น่าเสียดายกลับช้าไปก้าวหนึ่ง ป้อมชิงมู่ถูกทำลายย่อยยับลงเสียแล้ว ต่อมา ต้าฉางก็ได้พบกับเจ้าป้อมชิงมู่ แต่ก็หมดทางเยียวยาเสียแล้ว ก่อนที่เจ้าป้อมชิงมู่จะสิ้นใจลงนั้นได้มอบไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์ให้ต้าฉาง ทั้งยังกำชับให้มู่หลางล้างแค้นให้ป้อมชิงมู่อีกด้วย หน้าสุสานป้อมชิงมู่ มู่หลาง,ทัวเฉินและต้าฉางต่างสาบานว่าจะร่วมเป็นร่วมตายด้วยกัน
อีกด้านหนึ่งนั้น ฟางเป่าอี้สะกดรอยตามจื่ออีโหวและพวกไปจนถึงบ้านเก่าสกุลโหว จื่ออีโหวสั่งทุกคนว่าก่อนที่ความจริงจะกระจ่างห้ามไม่ให้ทุกคนไปจากบ้านสุกลโหวเป็นอันขาด ต่อมา จื่ออีโหวสุดที่จะทนฟางเป่าอี้ได้อีกต่อไป ฟางเป่าอี้ไม่มีทางเลือกจึงต้องพาเปินเยี่ยหลบหนี
จูเอ๋อสะกดรอยตามหวังเตียนมาจนถึงที่รกร้างแห่งหนึ่งแห่งหนึ่ง จูเอ๋อตกใจมากเมื่อพบว่าความจริงว่าหวังเตียน,พ่อของนางและหลีจื่อหยวนสมคบคิดกันก่อการร้าย ด้วยความที่จูเอ๋อไม่ระวังตัวจึงทำให้หวังเตียนและพวกพบว่ามีคนแอบฟัง จูเอ๋อหลบหนีเอาตัวรอด ระหว่างที่หลบหนีนั่นเองได้พบกับหวังต้าเหนียงเข้าโดยบังเอิญ หวังต้าเหนียงต้องการให้จูเอ๋อเข้าร่วมกับไป๋สุ่ยกง แต่จูเอ๋อกลับปฏิเสธ ต่อมา จูเอ๋อรู้ความจริงจากท่านย่าว่าต้าฉางยังไม่ตายโดยพักอาศัยอยู่ละแวกนี้ จูเอ๋อฉวยโอกาสที่ท่านย่าและพ่อของนางต่อสู้กันหลบหนีไปเพื่อพบกับต้าฉาง
****
โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง ฟางเป่าอี้และเปินเยี่ยพบมู่หลางและทัวเฉินโดยบังเอิญ เป็นอีกครั้งที่มู่หลางหมายจับกุมตัวเปินเยี่ย ทันใดนั้น คนจากไป๋สุ่ยกงซึ่งปลอมตัวเป็นเสี่ยวเอ้อและเจ้าของโรงเตี๊ยมก็ก่อความวุ่นวายขึ้นมา ขณะที่กำลังชุลมุนนั่นเอง จื่ออีโหวก็ปรากฏตัวขึ้นมาช่วยชีวิตทุกคนไว้ เนื่องจากฟางเป่าอี้ไม่พอใจพฤติกรรมของจื่ออีโหว ทำให้ฟางเป่าอี้จากไปด้วยความโกรธ เปินเยี่ยออกตามหาฟางเป่าอี้จนได้พบกับฟางเป่าอี้ที่อารามเมฆขาว เปินเยี่ยบอกฟางเป่าอี้ว่าจะติดตามฟางเป่าอี้ตลอดไป ฟางเป่าอี้และเปินเยี่ยต่างหิวโหยด้วยกันทั้งคู่ ขณะที่ทั้งสองกำลังหาของกินนั่นเองได้พบกับหลวงจีนฉิงคงและนักพรตชื่อซง นักพรตชื่อซงหัวใจเต้นรัวเมื่อเห็นความงามของเปินเยี่ย ชุนหยิ่งติดตามมาจนถึงอารามเมฆขาวเพื่อยับยั้งไม่ให้ฟางเป่าอี้และเปินเยี่ยเดินทางกลับไป แต่ทั้งสองกลับปฏิเสธ ขณะที่ชุนหยิ่งกำลังหาของกินอยู่นั่นเอง นึกไม่ถึงว่าของกินที่หามาได้นั้นถูกคนวางยาพิษไว้ อีกด้านหนึ่งนั้น มู่หลางและทัวเฉินซึ่งอยู่ในสภาพที่หิวโหยนั้นก็ถูกคนจากไป๋สุ่ยกงวางยาพิษ ทั้งสองพากันฝ่าวงล้อมเพื่อหลบหนี มู่หลางและทัวเฉินซ่อนตัวอยู่ที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง ทัวเฉินไม่มีทางเลือกจึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากจื่ออีโหว หลังจากที่พิษในร่างของมู่หลางถูกกำจัดออกจนหมดสิ้นแล้ว มู่หลางก็ตัดสินใจไปจากบ้านสกุลโหว ทัวเฉินปฏิเสธที่จะไปกับมู่หลาง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มู่หลางและทัวเฉินมีปากเสียงกันขึ้นมา
พิษในร่างของเปินเยี่ยถูกกำจัดจนหมดสิ้น แต่จื่ออีโหวกลับปฏิเสธที่จะถอนพิษให้ฟางเป่าอี้ การที่จื่ออีโหวทำเช่นนี้นั้นด้วยต้องการทรมาณฟางเป่าอี้ ฟางเป่าอี้ไม่รู้ถึงเจตนาของจื่ออีโหว ทำให้ฟางเป่าอี้และจื่ออีโหวมีปากเสียงกันขึ้นมา จื่ออีโหวหลุดปากพูดถึงพ่อแม่ของฟางเป่าอี้ เมื่อฟางเป่าอี้ได้ยินเช่นนั้นก็คาดคั้นเอาความจริงเรื่องชาติกำเนิดที่แท้จริงของตนจากจื่ออีโหว จื่ออีโหวกลับบ่ายเบี่ยงไม่ยอมเปิดเผยความจริงให้ฟางเป่าอี้รู้ ทำให้ฟางเป่าอี้จากไปด้วยความโกรธ ที่หน้าสุสานของโหวหยวน คนสวมหน้ากากปกปิดใบหน้าถ่ายทอดฝ่ามือไหมสลายพิษให้ฟางเป่าอี้ ฟางเป่าอี้เลื่อมใสศรัทธาจึงกราบคนสวมหน้ากากเป็นอาจารย์
หลังจากที่มู่หลางไปจากบ้านสกุลโหวแล้วก็เข้าพักที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง ฟางเป่าอี้ฉกฉวยป้ายทองจากองครักษ์เสื้อแพร ในเวลาเดียวกัน องครักษ์เสื้อแพรส่งหนังสือรายงานเบาะแสต้าฉาง หวังต้าเหนียงวางแผนให้จูเอ๋อกินผงสลายกระดูก การที่หวังต้าเหนียงทำเช่นนี้นั้นด้วยต้องการบีบบังคับให้ต้าฉางและจูเอ๋อเข้ากับไป๋สุ่ยกง เมื่อต้าฉางพบความจริงว่าหวังต้าเหนียงเป็นท่านยายของจูเอ๋อแล้ว ต้าฉางไม่มีทางเลือกจึงต้องลามือ เพื่อจูเอ๋อแล้ว ต้าฉางให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่คิดร้ายต่อไป๋สุ่ยกง ที่สำคัญจะไม่เป็นศัตรูกับไป๋สุ่ยกง
จูเอ๋อนำนต้าฉางอย่าได้เป็นศัตรูกับบรรดาชาวยุทธเป็นอันขาด ไม่เช่นนั้นภัยพิบัติจะมาถึงตัว ต้าฉางซาบซึ้งในความหวังดีของจูเอ๋อ ต้าฉางรู้สึกว่ามีเพียงจูเอ๋อเท่านั้นที่เป็นห่วงเป็นใยตน ทำให้ต้าฉางเกิดความรู้สึกที่ดีต่อจูเอ๋อขึ้นมา
ป่าแห่งหนึ่ง ฟางเป่าอี้ถูกคนสวมหน้ากากบีบบังคับให้ฟางเป่าอี้ฝึกวิชาฝ่ามือไหมสลายพิษ จากนั้น คนสวมหน้ากากก็มอบคัมภีร์เพลงกระบี่กระบี่สุภาพบุรุษให้ฟางเป่าอี้ ขณะที่ฟางเป่าอี้กำลังฝึกกระบี่นั่นเองพิษในร่างของฟางเป่าอี้ก็กำเริบขึ้นจนหมดสติไป ต้าฉางและจูเอ๋อผ่านมาพบเห็นเข้าจึงช่วยฟางเป่าอี้เอาไว้ หลังจากที่ฟางเป่าอี้ฟื้นได้สติขึ้นมาแล้วก็ดีใจมากเมื่อพบเห็นหน้าจูเอ๋อ ฟางเป่าอี้ดึงดันต่อสู้กับต้าฉาง แต่กลับถูกต้าฉางสยบลงอย่างง่ายดาย
อารามเมฆขาว หลวงจีนพาหญิงนางหนึ่งซึ่งมีชื่อว่าหยงหยงพบกับนักพรตชื่อซงและจื่ออีโหว ต้าฉางนัดประลองยุทธกับนักพรตชื่อซงในอีกสามวันข้างหน้า หยงหยงได้พบกับเปินเยี่ยซึ่งมาหาฟางเป่าอี้ที่อารามเมฆขาว หยงหยงดีใจจนเนื้อเต้นเมื่อรู้ความจริงว่าเปินเยี่ยเป็นลูกสาวของจื่ออีโหว แต่ในทางกลับกันกลับทำให้เปินเยี่ยแปลกใจ ไม่นานนัก จื่ออีโหวก็เดินทางมาถึงอารามเมฆขาวเพื่อยืนยันชาติกำเนิดที่แท้จริงของเปินเยี่ย เปินเยี่ยราวกับถูกฟ้าผ่ากลางวันแสกๆเมื่อได้รับการยืนยันความจริงจากจื่ออีโหว นักพรตชื่อซงเล่าความจริงตั้งแต่ต้นจนจบให้ฟังว่าที่แท้เมื่อยี่สิบปีก่อนนักพรตชื่อซงและลูกสาวบ้านสกุลต้วนรักกันจนมีเลือดเนื้อเชื้อไขด้วยกัน ต่อมา นักพรตชื่อซงก็ได้รับจดหมายจากอาจารย์ให้เดินทางกลับไปรับตำแหน่งเจ้าสำนักบู๊ตึ๊ง ต้วนหยงหยงพบว่านางตั้งครรภ์ หยงหยงตัดสินใจไปจากบ้านสกุลต้วนโดยเดินทางไปที่วัดเส้าหลินวิงวอนขอร้องหลวงจีนฉิงคงให้ที่พักพิงแก่นาง หลังจากที่หยงหยงให้กำเนิดลูกสาวแล้วก็มอบลูกสาวให้จื่ออีโหวเลี้ยงดู เปินเยี่ยว้าวุ่นใจมากด้วยไม่คาดคิดมาก่อนว่าชาติกำเนิดของนางจะวุ่นวายสับสนเช่นนี้ จื่ออีโหวเห็นหยงหยงซึ่งป่วยหนักกำลังจะสิ้นใจ ดังนั้นจึงให้เปินเยี่ยเรียกหยงหยงว่าแม่ หยงหยงสิ้นใจด้วยรอยยิ้ม ทุกคนทำศพให้หยงหยงด้วยความเศร้า ทันใดนั้นเอง เจ้าแม่ไป๋สุ่ยแห่งไป๋สุ่ยกงก็เดินทางมาถึง เจ้าแม่ไป๋สุ่ยคาดคั้นเอาความจริงจากจื่ออีโหวว่าเหตุใดจึงไม่ใช้น้ำทิพย์ถอนพิษให้ฟางเป่าอี้ หลังจากที่เจ้าแม่ไป๋สุ่ย นำยาทิพย์ให้ฟางเป่าอี้กินแล้วก็จากไป จื่ออีโหวเห็นเช่นนั้นจึงติดตามเจ้าแม่ไป๋สุ่ยไป
เนื่องจากการตายของหยงหยง ทำให้นักพรตชื่อซงผิดนัดการประลองยุทธกับต้าฉาง ต้าฉางเดินทางไปที่อารามเมฆขาวเพื่อคาดคั้นเอาความจริงจากนักพรตชื่อซง นักพรตชื่อซงซึ่งกำลังเศร้าโศกจึงรับปากประลองยุทธกับต้าฉางบนยอดเขาในวันมะรืน ต้าฉางไม่อยากให้จูเอ๋อติดตามตนอีกต่อไป จูเอ๋อยินดีติดตามต้าฉางไปทุกหนแห่งโดยไม่นำพาต่อชาติกำเนิดของนางแม้แต่น้อย เมื่อต้าฉางเห็นจูเอ๋อดึงดันจึงเล่าเรื่องที่กงซุนเหลียงอาจารย์ของตนฆ่าหญิงคนรักด้วยไม่อยากพะวักพะวงกับการประลองยุทธ จูเอ๋อตกใจมากเมื่อได้ยินเช่นนั้นจึงท้าให้ต้าฉางฆ่นาง ต้าฉางซึ่งต้องการให้จูเอ๋อไปจากตนไปนั้นได้ชักดาบออกมา แม้ว่าจูเอ๋อผิดหวังยิงนักแต่ก็ยินดีตายด้วยน้ำมือต้าฉาง แต่ต้าฉางกลับไม่สามารถฆ่าหญิงคนรักด้วยน้ำมือตนเอง ต้าฉางดึงจูเอ๋อเข้ามากอดโดยไม่ต้องบรรยายความรู้สึกที่มีต่อ จูเอ๋อ ออกมา
เปินเยี่ยมีปากเสียงกับฟางเป่าอี้ด้วยฟางเป่าอี้ไม่ไว้วางใจจูเอ๋อ จื่ออีโหวและพวกเข้าไกล่เกลี่ย จากนั้นก็บอกให้เปินเยี่ยและฟางเป่าอี้ไปจากอารามเมฆขาวในวันรุ่งขึ้น นึกไม่ถึงว่าฟางเป่าอี้กลับไม่ยอมไปจากอารามเมฆขาว ฟางเป่าอี้ยืนกรานว่าจะต้องเห็นต้าฉางปลิดชีวิตนักพรตชื่อซงเสียก่อนถึงจะไปจากอารามเมฆขาว หลวงจีนฉิงคงใช้ธรรมขัดเกลาจิตใจฟางเป่าอี้ จื่ออีโหวเห็นฟางเป่าอี้ยึดติดอยู่กับชาติกำเนิด ดังนั้นจึงรับปากว่าหลังจากที่การประลองยุทธยุติลงจะเปิดเผยความจริงเรื่องชาติกำเนิดให้ฟางเป่าอี้รู้
ทัวเฉินซึ่งสะกดรอยตามเจ้าแม่ไป๋สุ่ยนั้นถูกคนของไป๋สุ่ยกงจับกุมตัวไว้ได้ที่ป่าแห่งหนึ่ง เจ้าแม่ไป๋สุ่ยกลับไม่ปลิดชีวิตทัวเฉิน ในทางกลับกันเจ้าแม่ไป๋สุ่ยกลับเกลี้ยกล่อมทัวเฉินเข้ากับไป๋สุ่ยกงติดตามความเคลื่อนไหวของจื่ออีโหว ระหว่างทางที่ทัวเฉินเดินทางไปยังอารามเมฆขาวนั่นเองพบเห็นจินจู่หยางจอมยุทธขี้เมาถูกตามทวงหนี้ค่าเหล้า ทัวเฉินเห็นเช่นนั้นจึงพาจินจู่หยางเดินทางไปที่อารามเมฆขาวด้วยกัน อารามเมฆขาว ชุนหยิ่งและเซี่ยฉานต่างไม่พอใจพฤติกรรมของทัวเฉินที่พาคนขี้เมามาที่อารามเมฆขาวจนมีปากเสียงกันขึ้นมา จื่ออีโหวจำจินจู่หยางได้ จินจู่หยางรู้ว่านักพรตชื่อซงอยู่ที่อารามเมฆขาว ดังนั้นจึงขอคำแนะนำเพลงกระบี่จากนักพรตชื่อซง จินจู่หยางสยบนักพรตชื่อซงลงได้ จินจู่หยางบอกนักพรตชื่อซงว่าถ้าหากนักพรตชื่อซงว้าวุ่นใจเช่นนี้เชื่อว่าไม่มีทางเอาชนะต้าฉางอย่างแน่นอน จื่ออีโหวร่ายรำกระบวนท่านางแอ่นคืนรังให้นักพรตชื่อซงและจินจู่หยางดู นักพรตชื่อซงและจินจู่หยางต่างเห็นว่าเป็นการยากที่จะทำลายกระบวนท่านี้ได้ อีกด้านหนึ่งนั้น หวังเตียนพบกับคนลึกลับที่โรงเตี๊ยมร้างแห่งหนึ่ง หวังเตียนรายงานคนลึกลับว่าตนวางยาพิษนักพรตชื่อซงแล้ว
****
นักพรตชื่อซงตกใจมากเมื่อพบว่าฟางเป่าอี้เป็นผู้มีพรสวรรค์ในวรยุทธ ทันใดนั้น เปินเยี่ยก็บุกเข้ามาเพื่อพาฟางเป่าอี้ไป ที่ด้านหลังของอารามเมฆขาว ฟางเป่าอี้ชี้แนะเปินเยี่ยให้กล้าเผชิญความจริง แต่เปินเยี่ยกลับยอมรับว่านางไม่สามารถทำใจยอมรับความจริงทั้งหมดได้
จื่ออีโหวเป็นห่วงนักพรตชื่อซงที่ต้องประลองยุทธกับต้าฉางในสภาพจิตใจไม่พร้อม จื่ออีโหวจึงตัดสินใจขอร้องจินจู่หยางมือกระบี่อันดับหนึ่งของแผ่นดินประลองยุทธกับต้าฉางแทนนักพรตชื่อซง จินจู่หยางบอกจื่ออีโหวว่าตนจนปัญญาด้วยติดข้อจำกัดสามข้อของบรรพชน ทำให้จื่ออีโหวผิดหวังยิ่งนัก จากการขอร้องของจื่ออีโหว ทำให้ทัวเฉินตัดสินใจไปขอร้องต้าฉางให้เลิกล้มการประลองยุทธ ต้าฉางกลับปฏิเสธ จื่ออีโหวซาบซึ้งน้ำใจของทัวเฉินที่ช่วยเกลี้ยกล่อมต้าฉาง เมื่อทัวเฉินได้ยินเช่นนั้นจึงบอกจื่ออีโหวว่านางทำเพื่อจื่ออีโหวไม่ได้ทำเพื่อนักพรตชื่อซงแต่อย่างใด
ภายในอารามเมฆขาว นักพรตชื่อซงมอบกระบี่ชื่อเซียวให้หลวงจีนฉิงคงเก็บรักษาโดยหวังว่าหลวงจีนฉิงคงจะสนับสนุนการจัดงานชุมนุมชาวยุทธต่อไป ดึกสงัด จินจู่หยางดื่มเหล้าเมามายจนเข้าห้องผิดโดยเข้าไปในห้องพักของฟางเป่าอี้ จินจู่หยางถ่ายทอดเคล็ดวิชาเพลงกระบี่เมาให้ฟางเป่าอี้ แต่ฟางเป่าอี้กลับเป็นห่วงการประลองของนักพรตชื่อซงในวันรุ่งขึ้น จินจู่หยางนอนหลับไปด้วยความมึนเมา เปินเยี่ยนอนไม่หลับจึงมาหาฟางเป่าอี้ที่ห้องพัก ทั้งสองพากันออกไปเดินเล่น เปินเยี่ยเปิดเผยความในใจต่อฟางเป่าอี้ นางหวังเป็นอย่างยิ่งว่านักพรตชื่อซงจะได้รับ ชัยชนะ
ต้าฉางและนักพรตชื่อซงต่างมุ่งมั่นในการประลองยุทธ นับเป็นอีกครั้งที่นักพรตชื่อซงพบว่าลมปราณของตนติดขัด ก่อนที่นักพรตชื่อซงจะเดินทางไปยังสถานที่ประลองยุทธ นักพรตชื่อซงได้กำชับไม่ให้ทุกคนติดตามไป ตนจะไปประลองกับต้าฉางตามลำพัง จูเอ๋ออธิษฐานขอให้ต้าฉางได้รับชัยชนะ ก่อนที่ต้าฉางจะออกเดินทางไปยังสถานที่ประลอง จูเอ๋อบอกต้าฉางว่าจะรอต้าฉางกลับมา
นักพรตชื่อซงและต้าฉางประลองยุทธกันตามลำพังโดยไม่มีผู้ใดเกี่ยวข้อง ทั้งสองต่อสู้กันอย่างดุเดือด ต้าฉางใช้กระบวนท่านางแอ่นคืนรังสยบนักพรตชื่อซง ตั้งแต่ต้นจนจบนักพรตชื่อซงกลับไม่ได้ใช้กระบี่ชื่อเซียวรับมือกับต้าฉาง
ทุกคนต่างไม่สามารถรอคอยต่อไปได้จึงพากันขึ้นไปบนยอดเขา แต่กลับไม่เห็นนักพรตชื่อซง ทุกคนพบเห็นแต่เพียงคราบเลือดบนพื้นเท่านั้น เมื่อทุกคนเห็นเช่นนั้นจึงพากันอออกตามหานักพรตชื่อซง เปินเยี่ย,ฟางเป่าอี้และจินจู่หยางพบศพนักพรตชื่อซงในป่า จินจู่หยางสำรวจร่างกายนักพรตชื่อซงแล้วพบว่านักพรตชื่อซงต่อสู้กับต้าฉางในสภาพที่สูญสิ้นพลังวัตร เปินเยี่ยร้องไห้กอดศพนักพรตชื่อซงด้วยความเศร้าโศกเสียใจ
บนยอดเขา ศพของนักพรตชื่อซงถูกฝังเคียงข้างสุสานของหยงหยง จินจู่หยางร้องไห้ด้วยความเศร้าโศกเสียใจ ทันใดนั้นเอง หูปู้โฉวนำพาศิษย์บู๊ตึ๊งขึ้นมาบนยอดเขา ทุกคนตกตะลึงเมื่อพบว่านักพรตชื่อซงได้มรณภาพ เสียแล้ว
ต้าฉางและจูเอ๋อนั่งสุมไฟอยู่นอกกระท่อม ทันใดนั้นเองก็มีลูกธนูสาดเข้ามา ต้าฉางและจูเอ๋อเห็นเช่นนั้นจึงพากันหลบเข้าไปในกระท่อม ที่แท้ศิษย์บู๊ตึ๊งต้องการคิดบัญชีกับต้าฉางล้างแค้นให้นักพรตชื่อซง ขณะที่ต้าฉางและจูเอ๋อกำลังตกอยู่ในอันตรายนั่นเอง มู่หลางและทัวเฉินพากันบุกเข้าไปช่วยคนทั้งสอง ทั้งสี่พากันหลบหนีไป
อารามเมฆขาว ทันใดนั้นเอง จื่ออีโหวก็นึกขึ้นได้ว่าไม่เป็นการสมควรที่ป้ายวิญญาณของนักพรตชื่อซงและ หยงหยงแยกกัน ด้วยเหตุนี้จื่ออีโหวและพวกจึงพากันขึ้นไปบนยอดเขาอีกครั้ง จื่ออีโหวตกใจมากเมื่อพบว่าสุสานของนักพรตชื่อซงถูกขุดขึ้นมา
ขณะที่ทัวเฉินกำลังซื้อขนมเปี๊ยอยู่นั่นเองถูกสมุนของหลีจื่อหยวน จับตาดูความเคลื่อนไหวและสะกดรอยตาม ผู้เฒ่าพรรคกระยาจกนำพาศิษย์ปะทะกับหูปู้โฉวและศิษย์บู๊ตึ๊ง ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างดุเดือด มู่หลางใช้ไหวพริบพาทุกคนหลบหนีเอาตัวรอด เนื่องจากมีม้าเพียงสามตัวเท่านั้น มู่หลางจึงทั้งสามคนหนีไปก่อน ส่วนตนจะติดตามไปในภายหลัง ทัวเฉินยืนกรานว่าจะอยู่เคียงข้างมู่หลาง มู่หลางและทัวเฉินร่วมแรงร่วมใจกันรับมือกับ หลีจื่อหยวน ขณะที่ทั้งสองกำลังเพลี่ยงพล้ำนั่นเอง สื่อตูเกลี้ยกล่อมมู่หลางให้เข้ากับไป๋สุ่ยกง แต่กลับได้รับการปฏิเสธจากมู่หลาง
อีกด้านหนึ่งนั้น ต้าฉางและจูเอ๋อยังคงถูกหูปู้โฉวและพวกตามล่าหมายเอาชีวิต ขณะที่ต้าฉางและจูเอ๋อกำลังจนตรอกนั่นเอง หวังต้าเหนียงปรากฏตัวขึ้นช่วยชีวิตคนทั้งสองไว้โดยพาคนทั้งสองไปยังไป๋สุ่ยกง
ที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง ทัวเฉินคิดถึงมู่หลางมาก จากคำสนทนาของทัวเฉินและสื่อตู ทำให้สื่อตูเข้าใจถึงจิตใจตนเองมากขึ้น บนถนนใหญ่ ทัวเฉินตกอยู่ในวงล้อมของหวังเตียนและศิษย์บู๊ตึ๊ง หวังเตียนและศิษย์บู๊ตึ๊งบีบบังคับให้ทัวเฉินเปิดเผยสาเหตุการตายของนักพรตชื่อซงออกมา ขณะที่ทัวเฉินกำลังตกอยู่ในอันตรายนั่นเอง ทันใดนั้น มู่หลางก็ปรากฏตัวขึ้นช่วยชีวิตทัวเฉิน มู่หลางกลับถูกลอบทำร้ายจนถูกจับกุมตัวด้วยกันทั้งคู่
ต้าฉางพักผ่อนอยู่ในห้องศิลาด้วยความอ่อนล้า ไป๋เยี่ยนจู๋เข้ามาหาต้าฉาง ทันใดนั้น ไป๋เยี่ยนจู๋ก็หวนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครั้งที่ได้รู้จักกับฮั่วเฟยเถิง ที่แท้ไป๋เยี่ยนจู๋เลื่อมใสศรัทธาฮั่วเฟยเถิงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เนื่องจากฮั่วเฟยเถิงและพ่อของนางนัดประลองยุทธกัน ฮั่วเฟยเถิงจึงเดินทางมาหาพ่อของนางตามที่นัดหมาย ไป๋เยี่ยนจู๋และฮั่วเฟยเถิงเข้าใจผิดกัน ต่อมา ไป๋เยี่ยนจู๋ถึงรู้ความจริงว่าคนที่เดินทางมาหาพ่อของนางคือฮั่วเฟยเถิง ไป๋เยี่ยนจู๋รู้สึกเขินอายจึงบอกฮั่วเฟยเถิงแต่เพียงว่านางเลื่อมใสศรัทธาฮั่วเฟยเถิงมาช้านานแล้ว
เวลาผ่านไปทำให้ไป๋เยี่ยนจู๋และฮั่วเฟยเถิงสนิทสนมกันมากขึ้น หลังจากที่อาการบาดเจ็บของต้าฉางหายเป็นปกติแล้วก็พาจูเอ๋อไปจากไป๋สุ่ยกง ต้าฉางและจูเอ๋อพบว่ามู่หลางและทัวเฉินถูกศิษย์บู๊ตึ๊งจับกุมตัวไป เมื่อทั้งสองรู้เช่นนั้นแล้วจึงพากันปลอมตัวเป็นศิษย์บู๊ตึ๊งเพื่อเข้าไปช่วยมู่หลางและทัวเฉิน จื่ออีโหวพาฟางเป่าอี้และพวกเดินทางไปนอกด่าน ฟางเป่าอี้ยังคงกลัดกลุ้มด้วยเรื่องชาติกำเนิดของตนเอง เปินเยี่ยปลอบใจฟางเป่าอี้
เนื่องจากพบว่ามีคนสะกดรอยตาม จื่ออีโหวจึงให้เปินเยี่ยและฟางเป่าอี้เบนความสนใจคนร้าย โจวฟางใช้หน้ากากปกปิดใบหน้าพาฟางเป่าอี้และเปินเยี่ยเดินทางออกไปนอกด่าน นึกไม่ถึงว่าระหว่างทางฟางเป่าอี้และพวกได้พบกับหลวงจีนฉิงคงจนเกิดการต่อสู้กันขึ้นมา โจวฟางพลีชีพช่วยชีวิตฟางเป่าอี้และเปินเยี่ยเอาไว้ ขณะที่ฟางเป่าอี้และเปินเยี่ยกำลังตกอยู่ในอันตรายนั่นเอง จินจู่หยางก็ปรากฏตัวขึ้นช่วยชีวิตคนทั้งสอง ฟางเป่าอี้จัดงานศพให้โจวฟาง เปินเยี่ยมอบเงินจำนวนหนึ่งให้จินจู่หยางนำไปซื้อโลงศพอย่างดี นึกไม่ถึงจินจู่หยางกลับนำเงินไปซื้อสุราอาหาร ทำให้ความรู้สึกศรัทธาของฟางเป่าอี้ที่มีต่อจินจู่หยางลดลงทุกที หลังจากที่เสร็จสิ้นพิธีศพของโจวฟางแล้ว ฟางเป่าอี้และเปินเยี่ยก็พากันเดินทางจากไป จินจู่หยางเย้ยหยันฟางเป่าอี้ที่ด้อยวรยุทธ ออกเดินทางไปก็มีแต่ไปตายสถานเดียว เมื่อฟางเป่าอี้ได้ยินเช่นนั้นก็ร่ายรำเพลงกระบี่สุภาพบุรุษให้จินจู่หยางดู จินจู่หยางแนะนำฟางเป่าอี้ว่าถ้าหากดื่มเหล้าเข้าไปก็จะทำให้เพลงกระบี่ทรงอานุภาพยิ่งขึ้น
เวลาผ่านไปทำให้ไป๋เยี่ยนจู๋และฮั่วเฟยเถิงสนิทสนมกันมากขึ้น หลังจากที่อาการบาดเจ็บของต้าฉางหายเป็นปกติแล้วก็พาจูเอ๋อไปจากไป๋สุ่ยกง ต้าฉางและจูเอ๋อพบว่ามู่หลางและทัวเฉินถูกศิษย์บู๊ตึ๊งจับกุมตัวไป เมื่อทั้งสองรู้เช่นนั้นแล้วจึงพากันปลอมตัวเป็นศิษย์บู๊ตึ๊งเพื่อเข้าไปช่วยมู่หลางและทัวเฉิน จื่ออีโหวพาฟางเป่าอี้และพวกเดินทางไปนอกด่าน ฟางเป่าอี้ยังคงกลัดกลุ้มด้วยเรื่องชาติกำเนิดของตนเอง เปินเยี่ยปลอบใจฟางเป่าอี้
เนื่องจากพบว่ามีคนสะกดรอยตาม จื่ออีโหวจึงให้เปินเยี่ยและฟางเป่าอี้เบนความสนใจคนร้าย โจวฟางใช้หน้ากากปกปิดใบหน้าพาฟางเป่าอี้และเปินเยี่ยเดินทางออกไปนอกด่าน นึกไม่ถึงว่าระหว่างทางฟางเป่าอี้และพวกได้พบกับหลวงจีนฉิงคงจนเกิดการต่อสู้กันขึ้นมา โจวฟางพลีชีพช่วยชีวิตฟางเป่าอี้และเปินเยี่ยเอาไว้ ขณะที่ฟางเป่าอี้และเปินเยี่ยกำลังตกอยู่ในอันตรายนั่นเอง จินจู่หยางก็ปรากฏตัวขึ้นช่วยชีวิตคนทั้งสอง ฟางเป่าอี้จัดงานศพให้โจวฟาง เปินเยี่ยมอบเงินจำนวนหนึ่งให้จินจู่หยางนำไปซื้อโลงศพอย่างดี นึกไม่ถึงจินจู่หยางกลับนำเงินไปซื้อสุราอาหาร ทำให้ความรู้สึกศรัทธาของฟางเป่าอี้ที่มีต่อจินจู่หยางลดลงทุกที หลังจากที่เสร็จสิ้นพิธีศพของโจวฟางแล้ว ฟางเป่าอี้และเปินเยี่ยก็พากันเดินทางจากไป จินจู่หยางเย้ยหยันฟางเป่าอี้ที่ด้อยวรยุทธ ออกเดินทางไปก็มีแต่ไปตายสถานเดียว เมื่อฟางเป่าอี้ได้ยินเช่นนั้นก็ร่ายรำเพลงกระบี่สุภาพบุรุษให้จินจู่หยางดู จินจู่หยางแนะนำฟางเป่าอี้ว่าถ้าหากดื่มเหล้าเข้าไปก็จะทำให้เพลงกระบี่ทรงอานุภาพยิ่งขึ้น
****
จื่ออีโหวคอยฟางเป่าอี้อยู่นานแต่ฟางเป่าอี้ก็ยังไม่มาสมทบเสียที หลีจื่อหยวนนำหน้ากากของโจวฟางมามอบให้ ทำให้จื่ออีโหวเชื่อว่าจะต้องเกิดเรื่องร้ายกับโจวฟางอย่างแน่นอน เมื่อคิดได้เช่นนี้จื่ออีโหวก็ตัดสินใจเดินทางกลับดินแดนภาคกลางเพื่อสืบหาเบาะแสฟางเป่าอี้และพวก นึกไม่ถึงว่าในเวลานี้เองฟางเป่าอี้และพวกกำลังเดินทางออกนอกด่าน ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้จื่ออีโหวและฟางเป่าอี้ต้องคลาดกัน ที่กระท่อมนอกด่าน ฟางเป่าอี้กลัดกลุ้มใจด้วยเรื่องชาติกำเนิดที่แท้จริงของตน จินจู่หยางอ่านบันทึกเล่มหนึ่งซึ่งเขียนโดยไป่เสี่ยวเซิงซึ่งบรรยายถึงเรื่องราวบ้านชิงผิง เปินเยี่ยนำบันทึกมาอ่านต่อไป ฟางเป่าอี้วิ่งออกไปนอกกระท่อมด้วยไม่สามารถทำใจยอมรับความจริงได้ ฟางเป่าอี้ไม่เข้าใจว่าทั้งที่ตนเป็นลูกชายของฮั่วเฟยเถิงและไป๋เยี่ยนจู๋ แต่ก็มีเรื่องราวมากมายที่ตนสงสัยและไม่ได้รับคำตอบ เปินเยี่ยสงสารและเห็นใจฟางเป่าอี้เป็นอันมาก
ต่อมา ฟางเป่าอี้และเปินเยี่ยพบสุสานของฮั่วเฟยเถิงเข้าโดยบังเอิญ ฟางเป่าอี้ดึงดันไม่ยอมจากไป จินจู่หยางแนะนำเปินเยี่ยให้ฟางเป่าอี้อยู่ตามลำพังเพื่อทำใจยอมรับความจริง ตกดึก ฟางเป่าอี้ดื่มเหล้าร่ายรำกระบี่ที่หน้าสุสานของฮั่วเฟยเถิง รุ่งเช้า ได้มีโจรสามคนเข้ามาขโมยของที่สุสาน ฟางเป่าอี้ต่อสู้กับพวกโจรและฆ่าโจรคนหนึ่งตาย นับเป็นครั้งแรกที่ฟางเป่าอี้ฆ่าคนตาย ทำให้ฟางเป่าอี้ถึงกับทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว ภายในกระท่อม หลีจื่อหยวนฉวยโอกาสที่จินจู่หยางและฟางเป่าอี้ไม่อยู่ลักพาตัวเปินเยี่ยไป เมื่อฟางเป่าอี้และจินจู่หยางกลับมายังกระท่อมก็พบจดหมายฉบับหนึ่งโดยบอกให้คนทั้งสองเดินทางไปหาเปินเยี่ยที่อารามเมฆขาว ทัวเฉินและมู่หลางถูกขังอยู่ในห้องฟืนของอารามเมฆขาว ภัยพิบัติทำให้เห็นน้ำใสใจจริง หวังเตียนแอบพบกับไป๋ซันคงที่อารามเมฆขาว ที่แท้เหตุการณ์ทั้งหมดมีหวังเตียนและไป๋ซันคงชักใยอยู่เบื้องหลัง เป้าหมายที่แท้จริงของหวังเตียนคือการเป็นประมุขยุทธภพ ส่วนไป๋ซันคงกลับมีเป้าหมายที่จะให้ฟางเป่าอี้กำจัดต้าฉางและจื่ออีโหวเพื่อล้างแค้นให้ไป๋เยี่ยนจู๋
ต่อมา ฟางเป่าอี้และเปินเยี่ยพบสุสานของฮั่วเฟยเถิงเข้าโดยบังเอิญ ฟางเป่าอี้ดึงดันไม่ยอมจากไป จินจู่หยางแนะนำเปินเยี่ยให้ฟางเป่าอี้อยู่ตามลำพังเพื่อทำใจยอมรับความจริง ตกดึก ฟางเป่าอี้ดื่มเหล้าร่ายรำกระบี่ที่หน้าสุสานของฮั่วเฟยเถิง รุ่งเช้า ได้มีโจรสามคนเข้ามาขโมยของที่สุสาน ฟางเป่าอี้ต่อสู้กับพวกโจรและฆ่าโจรคนหนึ่งตาย นับเป็นครั้งแรกที่ฟางเป่าอี้ฆ่าคนตาย ทำให้ฟางเป่าอี้ถึงกับทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว ภายในกระท่อม หลีจื่อหยวนฉวยโอกาสที่จินจู่หยางและฟางเป่าอี้ไม่อยู่ลักพาตัวเปินเยี่ยไป เมื่อฟางเป่าอี้และจินจู่หยางกลับมายังกระท่อมก็พบจดหมายฉบับหนึ่งโดยบอกให้คนทั้งสองเดินทางไปหาเปินเยี่ยที่อารามเมฆขาว ทัวเฉินและมู่หลางถูกขังอยู่ในห้องฟืนของอารามเมฆขาว ภัยพิบัติทำให้เห็นน้ำใสใจจริง หวังเตียนแอบพบกับไป๋ซันคงที่อารามเมฆขาว ที่แท้เหตุการณ์ทั้งหมดมีหวังเตียนและไป๋ซันคงชักใยอยู่เบื้องหลัง เป้าหมายที่แท้จริงของหวังเตียนคือการเป็นประมุขยุทธภพ ส่วนไป๋ซันคงกลับมีเป้าหมายที่จะให้ฟางเป่าอี้กำจัดต้าฉางและจื่ออีโหวเพื่อล้างแค้นให้ไป๋เยี่ยนจู๋
ในที่สุดต้าฉางและจูเอ๋อซึ่งซุกซ่อนตัวอยู่ในอารามเมฆขาวนั้น ก็ล่วงรู้ถึงเบาะแสของทัวเฉินและมู่หลาง ขณะที่ทั้งสองกำลังเข้าช่วยทัวเฉินและมู่หลางนั่นเองได้ตกอยู่ในวงล้อมศิษย์บู๊ตึ๊ง จูเอ๋อใช้ระเบิดควันเพื่อให้ต้าฉางและพวกหลบหนีไปก่อน ส่วนนางกลับถูกพ่อของนางจับกุมตัวได้ หวังเตียนต้องการให้จูเอ๋อเกลี้ยกล่อมต้าฉางมาเป็นพวก จูเอ๋อแสร้งทำเป็นรับปาก หวังเตียนรู้ดีว่าจูเอ๋อคิดเอาตัวรอดจึงรับปากอย่างง่ายดายเช่นนี้ ดังนั้นจึงบีบบังคับให้จูเอ๋อกินยาสลายวิญญาณเข้าไปเพื่อไม่ให้จูเอ๋อทรยศ
หลีจื่อหยวนซึ่งลักพาตัวเปินเยี่ยไปนั้นได้เข้าพักที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง ต่อมา หลี่จื่อหยวนพบว่าทัวเฉิน,มู่หลางและต้าฉางพักอยู่ข้างๆ ที่สำคัญต้าฉางและมู่หลางต่างได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วยกันทั้งคู่ หลีจื่อหยวนตัดสินใจเล่นงานคนทั้งสาม แต่นึกไม่ถึงว่าหลีจื่อหยวนกลับหลงกลติดกับต้าฉางและพวก ต้าฉางและมู่หลางต่างพากันค้นห้องพักของหลีจื่อหยวน ทั้งสองพบว่าเปินเยี่ยได้หลบหนีไปแล้ว ระหว่างทางที่เปินเยี่ยหลบหนีไปนั้นได้รับความช่วยเหลือจากหลวงจีนฉิงเทียน ต้าฉาง,ทัวเฉินและมู่หลางพากันเดินทางกลับไปยังป้อมชิงมู่ ทุกคนพบว่าศิษย์ป้อมชิงมู่ยังคงอยู่ที่ป้อมชิงมู่ มู่หลางเห็นเช่นนั้นจึงตั้งปณิธานว่าจะทำให้ป้อมชิงมู่เกรียงไกรดังเดิม ทัวเฉิน,ต้าฉางและมู่หลางวางแผนล้างแค้น มู่หลางตั้งปณิธานอย่างแน่วแน่ว่าจะล้างแค้นให้พ่อให้ได้ หลังจากที่สื่อตูได้รับจดหมายจากทัวเฉินแล้วก็ส่งกำลังไปช่วยเหลือ นอกจากนี้ยังนำม้าตัวโปรดไปมอบให้ทัวเฉินอีกด้วย ทัวเฉินและมู่หลางดีใจมากที่ได้รับกำลังสนับสนุนจากสื่อตู ทัวเฉินและมู่หลางพากันออกไปเดินเล่น ทั้งสองเปิดเผยความในใจต่อกัน
สื่อตูเตือนทัวเฉินอย่าให้ความรักทำให้ต้องเสียการใหญ่ แม้ว่าทัวเฉินว้าวุ่นใจ แต่นางก็ไม่ได้ลืมภารกิจสำคัญ
ไป๋สุ่ยกง,หัวม๋อเสิน,ถู่หลงจื่อและค่ายต่างๆตระเตรียมกันบุกโจมตีป้อมชิงมู่ ภายในป้อมชิงมู่ ทุกคนตระเตรียมการรับมือ มู่หลางกังวลว่าการนองเลือดในครั้งนี้จะทำลายความหวังในการทำให้ป้อมชิงมู่กลับมาเกรียงไกรดังเดิม มู่หลาง,ต้าฉางและพวกเห็นว่ากำลังของทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เมื่อเป็นเช่นนี้จึงต้องใช้อุบายกำจัดถู่หลงจื่อเสียก่อน จากนั้นค่อยกำจัดหั่วม๋อเสิน ทัวเฉินซึ่งถูกเจ้าแม่ไป๋สุ่ยส่งมาเป็นสายนั้นตกที่นั่งลำบากไม่รู้จะทำอย่างไรดี
มู่หลางต้องพ่ายแพ้ให้แก่หัวม๋อเสินจนต้องหลบหนีไปยังทางลับ นึกไม่ถึงว่ากลับได้พบกับเจ้าแม่ไป๋สุ่ยซึ่งตามล่าหมายเอาชีวิต มู่หลางรับมือเจ้าแม่ไป๋สุ่ยตามลำพังโดยที่ทัวเฉินและต้าฉางไม่เข้าช่วยเหลือด้วยแต่ละคนต่างมีเหตุผลของตน มู่หลางผิดหวังยิ่งนักเมื่อเห็นทัวเฉินและต้าฉางต่างพากันนิ่งดูดายปล่อยให้ตนรับมือเจ้าแม่ไป๋สุ่ยตามลำพัง ในที่สุดมู่หลางก็ถูกเจ้าแม่ไป๋สุ่ยจับกุมตัวได้ ในห้องศิลา เจ้าแม่ไป๋สุ่ยให้มู่หลางแช่ในอ่างสมุนไพรเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ จากนั้นเจ้าแม่ไป๋สุ่ยก็เกลี้ยกล่อมมู่หลางสวามิภักดิ์ไป๋สุ่ยกง มู่หลางกลับปฏิเสธ ทัวเฉินขอร้องเจ้าแม่ไป๋สุ่ยปล่อยมู่หลางไปแต่กลับถูกปฏิเสธ เจ้าแม่ไป๋สุ่ยสอบถามทัวเฉินว่าเคยพบเห็นไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์ใช่หรือไม่ ทัวเฉินและต้าฉางวิเคราะห์ว่าเจ้าแม่ไป๋สุ่ยไม่มีทางฆ่ามู่หลางอย่างแน่นอน ที่เป็นเช่นนี้เชื่อว่าต้องมีเงื่อนงำ ที่สำคัญต้องเกี่ยวพันกับไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์ ต้าฉางพามู่หลางหลบหนี เจ้าแม่ไป๋สุ่ตามล่า ภายในห้องลับ มู่หลางบอกต้าฉางว่าตนมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานนัก ดังนั้นจึงขอมอบไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์ให้ต้าฉางเก็บรักษา ทันใดนั้นเอง เจ้าแม่ไป๋สุ่ยก็ปรากฏตัวขึ้นช่วงชิงไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์ไป แต่ก็ต้องตกใจมากเมื่อพบว่าไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์เป็นของปลอม เพื่อช่วยชีวิตมู่หลาง ต้าฉางไม่มีทางเลือกจึงต้องรับปากเข้ากับไป๋สุ่ยกง
ต้าฉางเป็นห่วงจูเอ๋อมาก ดังนั้นจึงตัดสินใจไปที่อารามเมฆขาวเพื่อช่วยจูเอ๋อ เจ้าแม่ไป๋สุ่ยสั่งให้หวังต้าเหนียงติดตามต้าฉาง รูปร่างลักษณะของต้าฉางทำให้เจ้าแม่ไป๋สุ่ยหวนนึกถึงฮั่วเฟยเถิงขึ้นมา
ฟางเป่าอี้จากไปโดยไม่ได้ร่ำลาเพื่อออกตามหาเปินเยี่ย ฟางเป่าอี้เข้าพักที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง แต่ถึงกระนั้นก็ตามก็ยังไม่รอดพ้นเงื้อมมือจินจู่หยางไปได้ ฟางเป่าอี้ยืนกรานที่จะไปที่อารามเมฆขาวเพื่อช่วยเปินเยี่ยให้ได้ แต่ฟางเป่าอี้ก็ไม่สามารถรอดพ้นเงื้อมมือจินจู่หยางไปได้ หน้าสุสานของอินทรีย์เหิรฮั่วเฟยเถิงซึ่งตั้งอยู่นอกด่าน ฟางเป่าอี้ร่ำไห้ด้วยความเศร้าโศกเสียใจทำให้จินจู่หยางใจอ่อน จินจู่หยางมอบคัมภีร์ห้ามตะวันให้ฟางเป่าอี้ จากนั้นก็อธิบายวิธีการฝึกวิชานี้ให้ฟางเป่าอี้ฟังว่าการฝึกวิชานี้จะต้องผ่านความเป็นความตายถึงเก้าครั้งด้วยกัน ฟางเป่าอี้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะฝึกวิชานี้ให้สำเร็จ
* ข้อมูลจาก ช่อง 3 / ภาพจาก ชินล่าง
เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามชมได้ใน "ฤทธิ์ดาบสุริยะมหากาฬ (The Spirit of the Sword)" ทางช่อง 3 เอสดี
* ข้อมูลจาก ช่อง 3 / ภาพจาก ชินล่าง
เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามชมได้ใน "ฤทธิ์ดาบสุริยะมหากาฬ (The Spirit of the Sword)" ทางช่อง 3 เอสดี
นักแสดงนำ
เซียะถิงฟง (นิโคลัส เซียะ)
รับบท ฮูเหยียนต้าฉาง
(นักแสดง/นักร้อง/นักดนตรี/นักแต่งเพลง/นักธุรกิจ ชาวฮ่องกง)
จง ซินถง (จิลเลียน ชุง/ อาเจียว)
รับบท จูเอ๋อ
(นักแสดง/นักร้อง/นางแบบ ชาวฮ่องกง)
อีเหนิงจิ้ง (แอนนี่ อี)
รับบท องค์หญิงทัวเฉิน
(นักแสดง/นักร้อง/ผู้ดำเนินรายการ ชาวไต้หวัน)
ถานเย่าเหวิน (แพทริค แทม)
รับบท จื่ออีโหว
(นักแสดง/นักร้อง ชาวฮ่องกง)
เฉียวเจิ้นอวี่
รับบท ฟางเป่าอวี้
(นักแสดง ชาวจีน)
หยางหรุ่ย
รับบท เปินเยว่
(นักแสดง ชาวจีน)
จ้าวหงเฟย
รับบท มู่หลางเสินจวิน
(นักแสดง ชาวจีน)
โจวลี่
รับบท ไป๋เยี่ยนจู๋
(นักแสดง ชาวจีน)
จี้ชุนหัว
รับบท ไป๋ซานคง
(นักแสดง ชาวจีน)
สวีเซี่ยงตง
รับบท หวังเตียน
(นักแสดง/ผู้เชี่ยวชาญและครูฝึกวิชาศิลปะการต่อสู้ ชาวจีน)
รวมคลิปตัวอย่าง
*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา