ในที่สุด เฮวอน (หรือทาสสาวออนยอน) ก็ได้พบและรู้ว่าแท้จริงแล้วนายน้อยสุดที่รักของเธอยังไม่ตาย สายตาของเฮวอนจับจ้องที่ใบหน้าแทกิลตลอดเวลา เธอแทบไม่เชื่อสายตาตนเองเมื่อพบว่า คนรักที่ถูกพี่ชายฆ่าต่อหน้าต่อตาเมื่อสิบปีก่อน (และเธอก็ไม่เคยลืมเขา) กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเธอ!
ตอนที่ 14 นี้ เริ่มต้นขณะที่แทกิลกำลังจ้องมองไปข้างหน้า เขาทำผ้าหลุดมือราวกับเห็นอะไรบางอย่างที่สะดุดตา สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสงสัยและไม่แน่ใจ เขาพยายามเพ่งมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเหมือนไม่เชื่อสายตาตนเอง (ที่ผ่านมาแทกิลมักเห็นผู้หญิงคนอื่นเป็นทาสสาวออนยอนบ่อยครั้ง) ก่อนจะตามไปดูให้แน่ใจว่าใช่อย่างที่ใจคิดหรือไม่
เฮวอนไม่กล้าสู้หน้าแทกิล เพราะเธอเป็นน้องสาวของทาสทรยศที่ฆ่าคนในครอบครัวและเผาบ้านของเขา มิหนำซ้ำยังเป็นทาสหลบหนี และอดีตคนรักที่เพิ่งเข้าพิธีแต่งงานกับชายอื่น เมื่อเห็นแทกิลเดินเข้ามาหา เธอจึงแอบหลบอยู่ทางด้านหลังประตู
แทกิลพยายามสอดส่ายสายตามองหาสิ่งที่เขาเห็นเมื่อสักครู่ เฮวอนรู้สึกได้ว่าเขาอยู่ใกล้ๆ เลยเอามือปิดปากตัวเองไว้เพื่อไม่ให้เขาได้ยินเสียงเธอร้องไห้ แทกิลเห็นประตูบานหนึ่งเปิดอยู่ จึงคิดที่จะเดินเข้าไปสำรวจดู แต่กลับถูกซอลฮวาฉุดแขนเอาไว้แล้วลากตัวออกไป
เฮวอนไม่รู้ว่าสิ่งที่เห็นไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด สาวน้อยซอลฮวาซึ่งภายนอกมีทีท่ายิ้มแย้มแจ่มใสและเดินเคียงข้างแทกิลเหมือนมีความสุขเสียเต็มประดา กำลังร้องไห้อยู่ลึกๆ ภายใน เธอรู้ว่าท่าทีที่เปลี่ยนไปของแทกิล (ใจดีผิดปกติและยิ้มแย้มต่อหน้าเธอ ทั้งๆ ที่เขากำลังหัวใจสลาย) คือ ลางบอกเหตุว่าเขากำลังจะทิ้งเธอ เธอจึงอยากเก็บความทรงจำและช่วงเวลาดีๆ อย่างนี้เอาไว้ให้นานที่สุด เลยพยายามถ่วงเวลาด้วยการพาแทกิลเดินดูผ้าจนทั่วตลาด
เฮวอนรู้สึกเจ็บปวดใจที่เห็นนายน้อยแทกิลมีผู้หญิงเดินเคียงข้าง ผู้หญิงคนนั้นเกาะแขนแทกิลอย่างสนิทสนม เธอดึงตัวแทกิลไปเลือกซื้อผ้าและคอยหยอกล้อเขาตลอดเวลา ภาพที่เฮวอนเห็นตรงหน้าคือคู่รักที่ยิ้มแย้มและเดินเคียงข้างกันอย่างมีความสุข เฮวอนได้แต่ร้องไห้และเดินตามทั้งคู่อยู่ห่างๆ พลางนึกถึงภาพความหลังอันแสนหวานระหว่างเธอและนายน้อยแทกิล
เฮวอนไม่รู้ว่าสิ่งที่เห็นไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด สาวน้อยซอลฮวาซึ่งภายนอกมีทีท่ายิ้มแย้มแจ่มใสและเดินเคียงข้างแทกิลเหมือนมีความสุขเสียเต็มประดา กำลังร้องไห้อยู่ลึกๆ ภายใน เธอรู้ว่าท่าทีที่เปลี่ยนไปของแทกิล (ใจดีผิดปกติและยิ้มแย้มต่อหน้าเธอ ทั้งๆ ที่เขากำลังหัวใจสลาย) คือ ลางบอกเหตุว่าเขากำลังจะทิ้งเธอ เธอจึงอยากเก็บความทรงจำและช่วงเวลาดีๆ อย่างนี้เอาไว้ให้นานที่สุด เลยพยายามถ่วงเวลาด้วยการพาแทกิลเดินดูผ้าจนทั่วตลาด
เฮวอนเจ็บปวดที่เห็นแทกิลกำลังมีความสุขกับผู้หญิงคนอื่น แต่เธอเองก็ไม่ต่างอะไรกับเขาที่มีคนใหม่แล้ว เธอเฝ้ามองทั้งคู่เดินห่างออกไปด้วยน้ำตานองหน้า พลางกล่าวขอบคุณนายน้อยในใจ ที่เขายังมีชีวิตอยู่ และกำลังมีความสุข
อีกด้านหนึ่ง อ๊บบ๊ก โชบ๊ก และทาสร่วมขบวนการอีก 5 คนก็กำลังวางแผนลอบสังหารชนชั้นสูงกลางป่าคราวนี้อ๊บบ๊กไม่ได้ลงมือเพียงคนเดียว แต่ยังมีนักฆ่ามือใหม่อย่าง กึ๊ตบง และทาสอีก 2 คนร่วมเป็นมือสังหารด้วย อ๊บบ๊ก บอกกึ๊ตบง และเพื่อนร่วมขบวนการว่า การยิงปืนต้องใช้ "ความกล้าหาญ" ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องตั้งสติให้แน่วแน่และทำตามขั้นตอน (การยิง) จึงจะสำเร็จ
อย่างไรก็ตาม ภารกิจที่พวกเขากำลังจะลงมือทำในครั้งนี้นับว่ามีความเสี่ยงและแตกต่างจากทุกครั้ง เพราะนอกจากจะมีมือใหม่หัดยิงมาร่วมทำงานถึง 3 คนแล้ว เหยื่อที่พวกเขาต้องลงมือสังหารยังมีมากถึง 5 คน มิหนำซ้ำ พวกเขายังไม่รู้เวลาที่แน่ชัดว่าเหยื่อจะเดินทางมาถึงเมื่อไหร่ (อาจเป็นวันนี้หรือพรุ่งนี้) อ๊บบ๊กรู้ว่างานนี้มีความเสี่ยงสูง จึงบอกให้โชบ๊กกลับไปก่อน
ระหว่างทางโชบ๊กเจอกลุ่มชนชั้นสูงกำลังเดินมุ่งหน้าไปยังทิศที่อ๊บบ๊กและทาสร่วมขบวนการดักซุ่มอยู่ แต่ปัญหาก็คือคนกลุ่มนี้ไม่ได้มากันเพียง 5 คน เธอนึกถึงข้อความในจดหมายที่สั่งให้สังหารชนชั้นสูงชื่อ 'ยู' และพรรคพวก ซึ่งชอบนำตัวทาสหลบหนีไปขายให้คนลักลอบค้าของเถื่อน (และค้ามนุษย์) โดยระบุว่าเหยื่อของพวกเขาจะมากันราว 4-5 คน โชบ๊กนับจำนวนชนชั้นสูงที่เพิ่งเดินผ่านไป เมื่อเห็นว่าพวกเขามากันเป็นสิบคน เธอจึงรีบวิ่งกลับไปเตือนอ๊บบ๊กแต่ก็สายเกินไป ถึงกระนั้นเธอก็ช่วยให้อ๊บบ๊กหลบหนีได้อย่างปลอดภัย
หลังแทกิลพาซอลฮวาไปหาซื้อผ้าในตลาดเป็นการสั่งลา เชก็กลับมารอแทกิลที่ห้องพักในโรงเตี๊ยมเพื่อเตรียมเดินทางกลับไปลงหลักปักฐานที่เมืองฮันยาง เมื่อพบว่าภายในห้องว่างเปล่าเชก็ออกอาการโมโหและรู้สึกเป็นกังวลในขณะเดียวกัน เขารู้ว่าน้องเล็กวังซอนกำลังจะหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัวด้วยการออกไปตามล่าแทฮาตามลำพัง จึงรีบออกตามหาวังซอนทันที
ระหว่างนั้น แทฮาและคนของเขาได้รับมอบหมายจากบัณฑิตโจ ให้เดินทางไปพบชนชั้นสูงและอดีตขุนนางตามรายชื่อที่แต่ละคนได้รับเพื่อขอกำลังและเงินสนับสนุน แม้แทฮาจะเห็นตรงกันกับบัณฑิตโจว่าองค์ชายน้อยคือผู้มีสิทธิโดยชอบธรรมในการสืบทอดราชบัลลังก์ แต่เขาไม่เห็นด้วยกับการใช้กำลังกวาดล้างฝ่ายตรงข้ามซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นชาวโชซอนด้วยกันทั้งสิ้น ที่สำคัญ เขาคิดว่าก่อนผลักดันให้องค์ชายน้อยขึ้นครองราชย์ ควรมีการกำหนดนโยบายหรือทิศทางในการบริหารบ้านเมืองให้เห็นเป็นรูปธรรมเสียก่อน เมื่อความเห็นของทั้งคู่ไม่ตรงกัน ความขัดแย้งระหว่างสองฝ่ายก็ก่อตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
* แทฮาอยากให้บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น จึงอยากรู้ว่าหลังเปลี่ยนพระราชาและกำจัดขุนนางชั่วให้หมดไปแล้ว บ้านเมืองจะเปลี่ยนแปลงไปในทางใด แต่บัณฑิตโจกลับให้ความสำคัญกับการใช้ 'อำนาจ' เปลี่ยนแปลงพระราชาและกำจัดฝ่ายตรงข้ามมากกว่า
* แทฮาอยากให้บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น จึงอยากรู้ว่าหลังเปลี่ยนพระราชาและกำจัดขุนนางชั่วให้หมดไปแล้ว บ้านเมืองจะเปลี่ยนแปลงไปในทางใด แต่บัณฑิตโจกลับให้ความสำคัญกับการใช้ 'อำนาจ' เปลี่ยนแปลงพระราชาและกำจัดฝ่ายตรงข้ามมากกว่า
ด้านวังซอนที่เบื่อกับการเป็นนักล่าทาสและอยากได้ค่าหัวแทฮามาซื้อที่ดินสำหรับปลูกบ้านในฝัน ก็มาแอบซุ่มดูแทฮาตามลำพังบริเวณด้านหลังกำแพง (เขาไม่รู้ว่าแทกิลรับเงินล่วงหน้าทั้งหมดมาแล้ว และยังซื้อที่ดินเตรียมไว้ให้ทุกคนแล้วด้วย) เมื่อเห็นแทฮาเดินออกมายืนสูดอากาศข้างนอกคนเดียวโดยไม่มีอาวุธ วังซอนก็ออกอาการตื่นเต้นและดีใจ เขาพยายามตั้งสติและเล็งธนูไปที่แทฮาพลางกระหยิ่มยิ้มย่องว่า...วันนี้ทาสหลบหนีซง แทฮาเสร็จเขาแน่!
ขณะที่วังซอนกำลังจะยิงธนูใส่แทฮา ฮันซัมและพรรคพวกก็เดินออกมาหาและยืนบังแทฮาเอาไว้ พวกเขารู้สึกว่ากำลังถูกบัณฑิตโจและพวกหลอกใช้ จึงระบายความอัดอั้นตันใจให้แทฮาฟัง แทฮาเตือนฮันซัมว่า การที่คนเรามองต่างมุมหรือมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันไม่ใช่เรื่องผิด เพราะฉะนั้นอย่าปล่อยให้ความขัดแย้งทางความคิดมาบดบังเป้าหมายที่ใหญ่กว่า (และทำลายความสามัคคี)
วังซอนผลุบๆ โผล่ๆ อยู่ทางด้านหลังกำแพงเพื่อรอโอกาสซุ่มยิงแทฮาอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าคนของแทฮาจะกลับเข้าห้องไป เขาจึงได้แต่นั่งรอข้างกำแพง และเมื่อโผล่หน้าออกไปดูอีกครั้งก็พบว่าแทฮาไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว คงมีเพียงคนของแทฮาที่ยืนจับกลุ่มคุยกันเท่านั้น
วังซอนมัวแต่นั่งเจ็บใจที่จับตัวแทฮาไม่ได้ เลยไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกชอลวุงจับตาดูอยู่ ในตอนนั้นจิตใจเขาจดจ่ออยู่ที่เงินค่าหัวแทฮาเพียงอย่างเดียว เมื่อรู้ว่าตนไม่สามารถจับแทฮาได้เพียงลำพัง วังซอนจึงคิดที่จะกลับไปขอกำลังเสริมจากเชและแทกิลที่โรงเตี๊ยม และในขณะที่เขาเดินออกไปนั้น ชอลวุงก็ชักดาบเพชรฆาตออกมาถึงแม้ว่าจะไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวังซอนเป็นใคร
ขณะกำลังเดินกลับโรงเตี๊ยม วังซอนรู้สึกว่ามีคนเดินตามในระยะประชิดจึงหันไปมอง พร้อมทั้งเตรียมชักดาบ แต่ชอลวุงไหวตัวทันจึงนำดาบมาจ่อเข้าที่คอของวังซอนก่อน แม้จะเบี่ยงตัวหนีออกมาได้ แต่วังซอนก็ยังไม่วายถูกดาบของชอลวุงฟันเข้าที่แขน (และในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ทั้งเชและแทกิลต่างก็กำลังออกตามหาวังซอนด้วยความเป็นห่วง)
หลังแทงวังซอนที่แขนแล้ว ชอลวุงก็ถามว่าใครส่งวังซอนมา เมื่อไม่ได้รับคำตอบชอลวุงก็จู่โจมวังซอนแบบไม่ยั้ง ทำให้วังซอนต้องคอยตั้งรับและอาศัยจังหวะหลบหลีกตลอดเวลา และด้วยความที่ฝีมือห่างชั้นกันมาก วังซอนจึงถูกชอลวุงทำร้ายจนน่วมไปทั้งตัว
เช ตามมาเจอกองเลือดและร่องรอยการต่อสู้ ทั้งยังพบฝักดาบของวังซอนถูกฟันจนขาดเป็นสองท่อน จึงรู้ว่าวังซอนกำลังตกอยู่ในอันตราย และในขณะนั้นวังซอนก็นอนกองอยู่ที่พื้นในสภาพเลือดกลบปาก เขาพยายามลุกขึ้นนั่งขณะที่ชอลวุงเดินเข้ามาหา
ชอลวุงถามย้ำอีกครั้งว่าใครสั่งให้วังซอนมาที่นี่ วังซอนหัวเราะแล้วถามกลับว่าเขาเป็นใคร ชอลวุงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า ถ้ายังไม่ตอบคำถามเขาจะฆ่าวังซอนเสีย วังซอนตอบแบบกวนๆ ว่า "เป็นคำสั่งของทางราชสำนักมั๊ง" จากนั้นก็หัวเราะร่วนทั้งๆ ที่กำลังเจ็บหนัก (เขาไม่รู้จริงๆ ว่าใครเป็นคนจ้างให้จับตัวแทฮา) ชอลวุงแสยะยิ้มที่มุมปากก่อนที่จะเงื้อดาบฟันวังซอนซึ่งได้แต่นั่งรอความตายด้วยใบหน้าตกตะลึง
เช ยังคงออกตามหาวังซอนด้วยความร้อนใจ ขณะทรุดตัวลงนั่งอย่างอ่อนแรง เขาเหลือบไปเห็นรอยเลือดจำนวนมากบนพื้นและตามต้นไม้ จึงร้องไห้ออกมาเพราะรู้ว่าเลือดที่เห็นเป็นของวังซอน และรู้ว่าวังซอนอาจมีอันตรายถึงชีวิต ส่วนทางด้านแทกิลเมื่อรู้ว่าวังซอนออกมาตามล่าแทฮา เขาก็แอบย่องเข้าไปตามหาวังซอนในบริเวณที่พักของแทฮาและเหล่าบัณฑิตแต่ก็ไม่พบแม้เงา
คืนนั้น กลุ่มของแทฮาและเหล่าบัณฑิตยังคงมีความเห็นไม่ตรงกัน แทฮาบอกบัณฑิตโจว่าเขาต้องการให้ทุกคนกำหนดแผนงานให้เห็นเป็นรูปธรรมก่อนจึงจะลงมือทำตามวิธีที่บัณฑิตโจต้องการ บัณฑิตโจบอกว่าพวกเขาไม่มีเวลามานั่งวางแผน เพราะอีกไม่นานราชสำนักก็จะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นบนเกาะเชจู แทฮาบอกว่าป่านนี้ราชสำนักคงรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว เพราะตอนที่เขาไปถึงชอลวุงได้อยู่ที่นั่นแล้ว บัณฑิตโจตกใจมากจึงบอกให้ทุกคนรีบออกเดินทางในตอนเช้า แทฮาแย้งว่าไม่ควรทำงานแบบร้อนรน แต่บัณฑิตโจอ้างว่าทั้งหมดนี้เป็นการทำตามแผนที่อาจารย์อิม ยองโฮผู้ล่วงลับได้วางเอาไว้ แทฮาจึงสั่งให้ลูกน้องเตรียมตัวเดินทางในวันรุ่งขึ้น
ในขณะที่ 'ชาน' นางโลมอันดับหนึ่งแห่งโชซอนแนะนำนางโลมคนใหม่ที่ชื่อ 'เจนี่' ซึ่งเป็นนางโลมอันดับหนึ่งแห่งเปียงยางให้เสนาบดีอี คยองชิกได้รู้จัก... คนของราชทูตยง แทกุลก็เข้ามารายงานราชทูตยง ว่าคนของเขาถูกดักยิงเสียชีวิต 3 คนและบาดเจ็บอีก 2 คนขณะกำลังเดินทางในป่า ราชทูตยงจึงสงสัยว่าเสนาบดีคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารในครั้งนี้
แทกิลนั่งครุ่นคิดอยู่ภายในห้องว่าเกิดอะไรขึ้นกับวังซอนและเชกันแน่ เมื่อเห็นซอลฮวาถูพื้นอยู่ใกล้ๆ เขาจึงรู้สึกรำคาญ ซอลฮวาบอกว่าต่อไปนี้เธอจะช่วยทำงานทุกอย่าง แทกิลบอกว่าถ้าเธอไม่มีที่ไปจริงๆ ให้เดินทางไปที่ภูเขาวอรักแล้วจะเจอคนที่ชื่อจากี ไปแล้วเธอจะมีที่ลงหลักปักฐาน จากนั้นก็ให้มองหาผู้ชายสักคนที่ปกป้องเธอได้ แทกิลบอกเธอว่าพวกเขากำลังจะเลิกอาชีพล่าทาส และแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตส่วนตัว ดังนั้น เธอจึงควรแยกไปใช้ชีวิตตามทางของตนเองเช่นกัน
เชพลาดท่าโดนคมดาบของชอลวุงเฉือนเข้าที่ลำตัวก่อนจะถูกแทงซ้ำที่หน้าอก ขณะที่ร่างอันไร้ลมหายใจของวังซอนนอนแน่นิ่งอยู่หลังโขดหิน ส่วนแทกิลรีบวิ่งตามพลุมาหาเชและวังซอน...
หลังตามหาตัววังซอนไม่เจอ แทกิลจึงย้อนกลับมาดูที่โรงเตี๊ยม แต่ก็พบเพียงซอลฮวาที่กำลังถูพื้นอย่างขมักเขม้น ขณะที่เชยังคงตามรอยเลือดที่พื้นขึ้นไปบนเขาด้วยความเป็นห่วงและสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้องเล็กวังซอนกันแน่ ทันใดนั้น เขาก็เห็นพลุของวังซอนถูกจุดขึ้น จึงรีบมุ่งหน้าไปหาวังซอนทันที
แทกิลนั่งครุ่นคิดอยู่ภายในห้องว่าเกิดอะไรขึ้นกับวังซอนและเชกันแน่ เมื่อเห็นซอลฮวาถูพื้นอยู่ใกล้ๆ เขาจึงรู้สึกรำคาญ ซอลฮวาบอกว่าต่อไปนี้เธอจะช่วยทำงานทุกอย่าง แทกิลบอกว่าถ้าเธอไม่มีที่ไปจริงๆ ให้เดินทางไปที่ภูเขาวอรักแล้วจะเจอคนที่ชื่อจากี ไปแล้วเธอจะมีที่ลงหลักปักฐาน จากนั้นก็ให้มองหาผู้ชายสักคนที่ปกป้องเธอได้ แทกิลบอกเธอว่าพวกเขากำลังจะเลิกอาชีพล่าทาส และแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตส่วนตัว ดังนั้น เธอจึงควรแยกไปใช้ชีวิตตามทางของตนเองเช่นกัน
แทกิลบอกว่าเขาจะมอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้ซอลฮวา แต่สิ่งที่เธอต้องการไม่ใช่เงินของแทกิล เธอถามเขาว่า 'เป็นเพราะผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม?' ซอลฮวารู้ว่าแทกิลเป็นนักล่าทาสเพราะต้องการออกตามหาเธอ และที่เขาจะเลิกทำอาชีพล่าทาสก็เป็นเพราะเธอด้วยเช่นกัน แทกิลโกรธมากที่ซอลฮวาพูดแทงใจดำจึงเดินหนีออกจากห้องไป ขณะนั่งอยู่หน้าห้อง แทกิลเห็นพลุที่ เขา เช และวังซอน ใช้ส่งสัญญาณระหว่างกันถูกจุดขึ้นบนท้องฟ้า จึงรีบออกไปตามหาเชและวังซอนทันที
คืนนั้นเฮวอนนอนครุ่นคิดถึงคำพูดของพี่ชายที่บอกว่าเขาดีใจที่หลุดพ้นจากการเป็นทาสหลังปลดปล่อยตัวเองด้วยการเอาเหล็กร้อนๆ นาบลงบนผิวหนังเพื่อลบรอยสัก (แต่ในทางกฏหมายเขาและเธอก็ยังถือว่าเป็นทาสของแทกิล) เฮวอนรู้ว่าถึงจะลบรอยสักและสวมรอยเป็นชนชั้นสูงแล้ว เธอก็ยังมีสถานะเป็นทาสหลบหนีอยู่ดี จึงรู้สึกไม่สบายใจที่เคยโกหกแทฮาว่า 'เธอไม่ใช่ทาส' เธอรวบรวมความกล้าแล้วหันไปหาแทฮาที่นอนเคียงข้างและบอกว่าเธอมีบางอย่างที่อยากจะบอกเขา...
ในที่สุด เช ก็พบว่าคนที่จุดพลุไม่ใช่วังซอนแต่เป็นชอลวุง ยอดฝีมือที่เขาเคยต่อสู้และเสียทีระหว่างตามจับตัวแทฮาที่บ้านอดีตเสนาบดีอิม ยองโฮ ชอลวุลบอกว่าเขามีเรื่องอยากถามเชมากมาย เชรู้ว่าเกิดเรื่องเลวร้ายกับน้องเล็กวังซอนแล้ว จึงถามชอลวุงว่าวังซอนอยู่ที่ไหน ชอลวุงบอกว่าเขาจะเป็นคนตั้งคำถาม ส่วนเชมีหน้าตอบเท่านั้น พูดจบชอลวุงก็ยิงธนูที่ใช้จุดพลุเข้าใส่เช แต่เชสามารถปัดป้องเอาไว้ได้ หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ต่อสู้กันอย่างดุเดือดท่ามกลางประกายไฟ
เชพลาดท่าโดนคมดาบของชอลวุงเฉือนเข้าที่ลำตัวก่อนจะถูกแทงซ้ำที่หน้าอก ขณะที่ร่างอันไร้ลมหายใจของวังซอนนอนแน่นิ่งอยู่หลังโขดหิน ส่วนแทกิลรีบวิ่งตามพลุมาหาเชและวังซอน...
* ภาพ captures / ละครเคบีเอส
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา