ชักแทมาหาฮวางจอง เขาประหลาดใจว่าชักแทรู้ได้อย่างไรว่าตนอยู่ที่นี่
“เจ้าเขี่ยข้าทิ้งเพื่อตัวเองจะได้ไปสุขสบายรึ? หึ...อย่างนั้นใช่มั้ย” ชักแท ถาม
“มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอก...”
“ไม่ใช่อย่างนั้น ข้ากลัวเจ้าอยู่กับข้าแล้วจะอันตราย ก็ตั้งแต่เจ้าติดตามข้า ก็เจอแต่เรื่องเดือดร้อนมาตลอดนี่”
“อ้อ ขอบใจนะ ขอบใจเจ้ามากเลย เจ้าพูดซะน่าฟังเชียวนะ”
“ข้าขอโทษนะ ปัญหาของเจ้า ยังไงข้าก็ต้องช่วยแก้ไขให้แน่ เจ้าไปหาที่ซ่อนสักพักก่อนนะ หืม...”
“ทำไม ข้าไปแล้ว เจ้าจะได้หาทางหนีไปให้ไกลใช่มั้ย?”
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก ฮะ ๆ ๆ เจ้านี่อ้ะ ให้เจ้า”
“นี่อะไร”
“นี่น่ะ เป็นนามบัตรของใต้เท้ามินยองอิก น่ะ แค่เจ้าเอาใบนี้ไปยื่นให้ใครดูนะ เจ้าจะได้กินฟรีอยู่ฟรี”
“จริงเหรอ?”
“จริงสิ”
“คุณฮวาง ทำอะไรอยู่ข้างนอกน่ะ”
“ครับ คุณหมอ ข้ามาแล้ว ข้าจะต้องเข้าไปก่อนแล้ว อีกสองสามวันเจอกัน”
“ก็ได้”
“ชักแท เจ้าไม่ต้องห่วงหรอกนะ ข้าไม่มีทางหนีไปไหน ไม่มีทาง” ฮวางจอง กล่าว
“อือ...งั้นเจ้านี่ ก็ไม่ต่างอะไรกับเงินเลยน่ะสิ ไปเติมท้องให้อิ่มก่อนแล้วค่อยว่ากัน
โอ้ย...”
ชักแทถูกโพโกจับซ้อม และคาดคั้นเรื่องที่ได้นามบัตรใต้เท้ามินมาได้อย่างไร และก็ฮวางจอง ที่เป็นคนฆ่าสัตว์ไปเป็นผู้ช่วยหมอฝรั่งได้ยังไง ชักแทบอกว่าตนเองได้ไปนั่งดูดวงอยู่ในตลาด แล้วในใบเสี่ยงทาย บอกว่าจะได้เจอเพื่อนทางทิศเหนือ ก็เลยตามไปดู และให้โพโกไปถามฮวางจองเอง
“ตอนนี้เจ้าหมอนั่นมันเป็นลูกน้องของฝรั่งนี่ ถ้าข้าไปเอาเรื่องซี้ซั้วอาจทำให้เป็นปัญหาทางการทูต ชนชั้นต่ำอย่างพวกเจ้าจะไปรู้อะไรกันเล่า ไอ้บ้าเอ้ย”
ยู เรียกซ๊อกรันให้ช่วยหาขี้ผึ้งกำมะถันมัน เมื่อรู้ว่าหมออัลเลนจะเปิดคลินิกก็ขอตามไปในวันเปิดด้วย ยู บอกลูกสาวว่าให้นางสำนึกผิดอยู่บ้าน โดยังช่วยพูดให้ยูอภัยให้นาง
“เรื่องการไว้ทุกข์ให้กับพ่อของท่าน มันจะรวบรัดเกินไปรึเปล่า?” ยู ถาม
“ขอบคุณมากที่ท่านคอยเป็นห่วง แต่นี่ เป็นการตัดสินใจหลังจากที่คิดทบทวนแล้ว ข้ากลัวว่าถ้าไว้ทุกข์สามปี ความตั้งใจของข้าก็อาจจะสายจนเกินการณ์ไปแล้วก็ได้ ได้ยินว่าหมออัลเลนกำลังจะเปิดคลินิกใช่มั้ย ถ้าเป็นไปได้วันนั้นข้าก็ต้องการจะไปด้วย ข้าเคยเสียมารยาทกับคุณหมออัลเลนไว้ ข้าก็เลยอยากจะไปขอโทษเค้า และอยากจะเห็นคลินิกด้วย”
“เอ่อ เรื่องนั้น”
“ข้ารู้แต่แรกแล้ว ว่าบัณฑิตฮวางก็อยู่ที่นั่นด้วย ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับเค้ามันจบลงไปแล้วล่ะ เรื่องราวในคราวก่อน ข้าคิดว่าข้าเองก็ทำตัวเป็นเด็กมากเกินไปหน่อย”
วันเปิดคลินิกของหมออัลเลน ฮวางจองได้ช่วยจัดยาเข้าตู้ ยูและโดยังเดินทางมาถึงคลินิก โดยังรีบขอโทษหมออัลเลนในเรื่องครั้งก่อน ซึ่งหมออัลเลนบอกว่าให้เสร็จงานแล้วค่อยคุยกัน ด้านชักแทแอบมาเรียกฮวางจอง ออกมาจนได้เจอกับโฟโก เขาถามฮวางจองว่าคิดจะแก้แค้นเลยฆ่าท่านเจ้ากรมราชทัณฑ์ใช่มั้ย แต่ฮวางจองปฏิเสธ และร้องขอให้ไว้ชีวิตตน
ซ๊อกรัน ที่ตามยูมาที่คลินิก ถามชิลบก ถึงบัณฑิตฮวาง เขาบอกนางว่าหาเท่าไรก็ไม่พบ ยู บอกหมออัลเลนว่าวันนี้ต้องมีผู้ช่วย โดยังเลยเสนอตัวเอง
“อ้อ ว่าไปก็ไม่เลวนะ คุณชาย...มีความรู้เรื่องการแพทย์ตะวันตกไม่น้อย น่าจะพอช่วยได้” ยู กล่าว
“อ้อ งั้นเหรอครับ งั้นก็ต้องขอบคุณมาก รบกวนหน่อยนะ” หมออัลเลน กล่าว
พระเจ้าโกจง เสด็จถึงคลินิก โดยมียองอิกอารักขาความปลอดภัย ทอดพระเนตรการรักษาคนไข้ของหมออัลเลน
“ที่หลังเค้าสลักว่าอะไรน่ะ?” พระเจ้าโกจง ตรัสถาม
“รอยสลัก ข้าน้อยก็ไม่เข้าใจนัก” ยองอิก ทูล
“ตรงกลางคือคำว่าสุนัข ส่วนรอบข้าง สามตัวนั้น ก็คือคำว่าเสือ นี่เป็นความเชื่อว่า ถ้าสลักรูปเสือสามตัว รุมสุนัขตัวเดียวที่สลักอยู่บนฝีจะช่วยรักษาโรคได้” ยู ทูล
“ฝีเม็ดนี้อักเสบมาก จะต้องผ่าออกมา คุณรีบเตรียมมีดผ่าตัดกับยาให้ผมที” หมออัลเลน กล่าว
“ได้ครับ” โดยัง กล่าว
“ผ่าตัดเหรอ ท่านบอกว่า...จะเอามีดผ่ามันออกมาน่ะเหรอ” ชายที่เป็นคนไข้ถาม
“ต้องผ่าเอาหนองออกมา”
“ทำอย่างนั้นได้ยังไง ข้าได้ยินว่าที่นี่รักษาให้หายได้ นี่กลับจะเอามีดมาผ่าข้า”
“ต้องบ่งเอาหนองออกมาก่อน มันถึงจะหายได้” โดยัง กล่าว
“ไม่เอา ไม่รักษาแล้ว ข้าเคยได้ยินว่า พวกฝรั่งเอามีดผ่าจากปากลงไปถึงท้องคนได้ ที่แท้ก็เป็นเรื่องจริงซะด้วย ฮึ่ย...”
โพโกกำลังจะลงมือฆ่าฮวางจอง แต่ถูก ชักแททำร้ายเอาหินกระแทกหัวจนกำลังจะตาย ชักแทบอก ฮวางจอง ให้รีบหนี แต่ฮวางจอง เห็นโพโก กำลังจะตาย จึงนึกถึงคำพูดของหมออัลเลนว่าเป็นหมอจะต้องไม่ปฏิเสธคนไข้ จึงจะลงมือช่วย ชักแทบอกว่าฮวางจอง บ้าไปแล้ว
หลังพระเจ้าโกจงทอดพระเนตรการรักษาคนไข้ ยองอิก ก็สอบถามหมออัลเลน
“เอ่อ คุณหมออัลเลน นอกจากคนไข้พวกนี้แล้วมีคนไข้ที่อาการหนักกว่านี้อยู่บ้างรึเปล่า ข้าอยากจะเห็นการรักษาที่มากกว่านี้น่ะ”
“ผมไม่สามารถสร้างคนไข้ขึ้นมาได้หรอก”
“รู้สึกว่าชาวบ้านยังรู้จักการรักษาแบบตะวันตกน้อยมาก” ซ๊อกรัน กล่าว
“อืม...คงเป็นอย่างนั้น เฮ้อ...”
“ใต้เท้ามิน พวกเรากลับกันได้แล้ว” พระเจ้าโกจงตรัส ระหว่างนั้นฮวางจองหน้าตื่นพยุงโพโกเข้ามาร้องหาหมออัลเลนให้ช่วย
“เค้าถูก ถูกหินก้อนใหญ่กระแทกโดนหัวครับ” ฮวางจอง กล่าว
“ที่หัวเหรอ มองหน้าผมสิ มองเห็นนิ้วผมมั้ย มีเลือดคั่งในศีรษะ จะต้องรีบผ่าตัดเดี๋ยวนี้”
“ผ่าตัดเหรอ?”
“หมอบอกว่ามีเลือดคั่งอยู่ในหัวเค้า ถ้าไม่รีบผ่าตัดเดี๋ยวนี้ เค้าจะตายได้” โดยัง กล่าว
“คุณฮวาง เตรียมเครื่องผ่าตัดและโคเคนมาให้ที” หมออัลเลน กล่าว
“ได้ครับ” ฮวางจอง กล่าว
“นายน้อย” โพโก กล่าว
“ข้าอยู่นี่ เจ้าพูดต่อไป” โดยัง กล่าว
“ตัวจริง...ตัวจริงของเค้าคือ..”
“ตัวจริงของเค้าคือใคร มือปราบจง ๆ เป็นใครหา มือปราบจง ๆ ฟื้นขึ้นมามือปราบจง ฟื้นขึ้นมาสิ” โดยัง กล่าว
จากนั้น หมออัลเลนเข้าตรวจพบว่าหัวใจหยุดเต้นแล้ว จึงเอามือทุบที่หน้าอกของโพโก บอกกับโดยังว่าเป็นการกระตุ้นหัวใจอาจจะช่วยทำให้หัวใจของเขาเต้นได้ แต่หมออัลเลนพยายามอยู่ชั่วเวลาหนึ่ง ก็ไม่มีการตอบสนอง บอกว่าโพโกตายแล้ว ฮวางจอง คิดถึงเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าที่ใช้ช่วยยองอิก จึงนำมาใช้กับโพโก โดยังเห็นจึงถามว่าจะทำอะไรกับคนตาย จึงขอร้องให้ลองใช้เครื่องนี้ ปรากฏว่าเมื่อใช้แล้วเริ่มมีสัญญาณที่ดี หมออัลเลนจึงให้ลองใช้อีก ปรากฏว่าหัวใจของโพโกกลับมาเต้นอีกครั้ง
“นี่มันอะไรกันเนี่ย?” พระเจ้าโกจง ตรัสถาม
“การใช้พลังไฟฟ้าค่ะ ใช้พลังของกระแสไฟฟ้ามาช่วยกระตุ้นหัวใจ” ซ๊อกรัน กล่าวทูล
“ไฟฟ้าเหรอ”
“ซ๊อกรัน” ยู เรียกลูกสาว
“ไม่เป็นไร เจ้าพูดต่อไปสิ” พระเจ้าโกจง ตรัส
“ค่ะ การหมุนเครื่องนั้นทำให้เกิดกระแสไฟฟ้า เหมือนกับกระแสไฟเวลาที่ฟ้าแลบ เค้าใช้มันมากระตุ้นหัวใจให้กลับมาเต้นอีกครั้งค่ะ”
“กระแสไฟฟ้าเหรอ เจ้าฉลาดไม่เบาเลยนะ” พระเจ้าโกจง ตรัส
“เอ่อ...กระหม่อม เอ่อ...ไม่ เพราะข้าอบรมลูกสาวไม่ดีเองครับ”
“เด็กผู้หญิงก็ควรได้เรียนรู้บ้าง”
“นั่นใครเหรอคะ” ซ๊อกรัน ถามพ่อ
“เอ่อ ไว้พ่อจะบอกทีหลัง”
“โอ๊ย บ้าชะมัด ได้โปรด ตายไปซะ ขอร้องละ ตายซะ” ชักแท กล่าว
“การทำแบบนั้นไม่ทำให้คนเจ็บยิ่งบาดเจ็บหนักรึ?” พระเจ้าโกจง ตรัสถาม
“ทางตะวันตก มีการใช้วิธีผ่าตัดแบบนี้มานานแล้ว เป็นการช่วยเอาเลือดที่คั่งในสมองออกมาครับ” ยู กล่าวทูล
“คุณฮวาง การผ่าตัดเสร็จสิ้นเรียบร้อย”
“เค้าจะรอดใช่รึเปล่า” โดยัง ถาม
“เมย์บี...ก็อาจจะ แต่ว่าคุณฮวาง ยอดเยี่ยมมาก ทำไมถึงคิดวิธีนั้นออกมาได้” หมออัลเลนถาม
“คือเรื่องนั้น...เพราะครั้งก่อนที่บังเอิญไปถูกเครื่องนั้นเข้า ทำให้ตัวกระตุกจนหัวใจเต้นแรง ข้าก็เลย...คิดว่ามันน่าจะพอใช้ได้”
“คุณทำได้ดีมาก”
“ท่านชมเกินไปแล้ว”
“บัณฑิตฮวาง ไม่เจอกันนานนะ พาคนเจ็บไปข้างในเถอะ” โดยัง เข้ามาทัก
“ครับ”
“ข้าเห็นความวิเศษของแพทย์ตะวันตกแล้ว” พระเจ้าโกจง ตรัส
“เป็นอย่างที่กระหม่อมกราบทูลใช่มั้ยพ่ะย่ะค่ะ”
“ใช่แล้ว โดยเฉพาะผู้ช่วยชาวโชซอนที่แบกคนเจ็บ แล้วพยายามยื้อชีวิตคนเจ็บนั่น ข้ารู้สึกประทับใจมาก”
“ใช่พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท” ยองอิก กล่าวทูล ซ๊อกรันได้ยินก็อุทานออกมา
“ฝ่า...ฝ่าบาท”
“ซ๊อกรัน ท่านนี้คือพระราชา ฝ่าบาท โปรดประทานอภัยที่ลูกสาวกระหม่อมเสียมารยาทด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
“ฝ่าบาท หม่อมฉันสมควรตายเพคะ โปรดประทานอภัยด้วย หม่อมฉันไม่คาดคิดว่าจะเป็นฝ่าบาท”
“ฮะ ๆ ๆ เจ้าลุกขึ้นมาเถอะ”
“ไม่ได้เพคะ”
“ข้าจะไปลงโทษเจ้าได้ยังไง ที่เจ้าไม่รู้นั่นแหละถูกแล้ว รีบลุกขึ้นมาได้แล้ว”
“รับสั่งให้ลุกขึ้นไงล่ะ”
“การปฏิรูป น่าจะทำให้ผู้คนตระหนักกันแล้วไม่ใช่หรือว่า การเรียนรู้คนเดียวไม่สู้ได้เรียนหลาย ๆ คน ให้ผู้ชายเรียนอย่างเดียวไม่สู้ให้ผู้หญิงก็มีโอกาสเรียนด้วย ขอให้เจ้ามุมานะต่อไป”
“ฝ่าบาท เป็นพระกรุณายิ่งเพคะ” ซ๊อกรัน ทูล
“งั้นพวกเรากลับกันเถอะ”
“พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท”
โดยังเห็นฮวางจอง มีแผลที่หน้าก็จะขอทำแผลให้ แล้วก็สอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น ฮวางจอง โกหกว่าได้เข้าไปยุ่งกับการต่อยตีกัน ก็เลยทำให้มือปราบบาดเจ็บและตนก็เจ็บตัวด้วย โดยังไม่เชื่อ บอกว่าหากโพโกฟื้นขึ้นมาความจริงก็จะกระจ่างเอง และเมื่อซ๊อกรันจะกลับโดยังจึงออกมาส่ง จึงได้รู้จากนางว่าคนที่มากับใต้เท้ามินนั่นแหละคือพระราชา และพอทอดพระเนตรบัณฑิตฮวางช่วยชีวิตคนก็รับสั่งว่าประทับใจมาก ทำให้โดยังไม่พอใจนัก
พระเจ้าโกจงรับสั่งกับพระมเหสีว่าจะสร้างโรงพยาบาลให้หมอฝรั่งบริหาร เวลานี้ถือ
เป็นจังหวะที่ดีหลังญี่ปุ่นกลับประเทศตัวเอง มเหสีไม่เห็นด้วยเพราะหมออัลเลนเป็นหมอสอนศาสนา อาจทำให้เข้าใจว่าพระองค์อนุญาตให้เผยแผ่ศาสนาคริสต์
“แต่ถึงยังไงช้าเร็วข้าก็ต้องอนุญาตให้เผยแผ่อยู่ดี หรือว่าเจ้ามีวิธีอื่นที่ดีกว่าอย่างนั้นรึ”
“ทางต้าชิงเองก็กังวลกับเรื่องการเปิดโรงพยาบาลอยู่เหมือนกัน หรือเราจะร่วมมือกับพวกเค้า”
“พระมเหสี เจ้ารู้มั้ยว่าทำไมข้าถึงอยากจะร่วมมือกับอเมริกา เพราะอเมริกาเป็นประเทศใหญ่ แถมยังตั้งอยู่ห่างไกลกับโชซอนของเรามาก ดังนั้นพวกเค้าไม่ได้คิดจะยึดครองเราเหมือนต้าชิงหรือว่าญี่ปุ่น”
“แต่ว่า..”
“ตอนนี้เราไม่สามารถจับมือกับต้าชิงหรือญี่ปุ่น สำหรับพวกเค้าโชซอนเป็นแค่เนื้อข้างเขียงเท่านั้น สบโอกาสเมื่อไหร่ พวกเค้าก็จะกลืนกินเราซะ”
ซ๊อกรันกลับมาบ้านเล่าให้แม่ฟังว่าวันนี้ได้พบพระพักตร์พระราชา และได้อธิบายเรื่องการรักษาให้พระองค์ฟัง แม่ของซ๊อกรันดีใจเพราะคิดว่าลูกของตนจะได้เป็นพระสนม แต่มักเซง บอกว่าการเป็นพระสนมไม่ใช่เรื่องดี ถ้าพระมเหสีไม่พอพระทัยอาจปลดทิ้งก็ได้ ไม่ก็อาจจะถูกสั่งให้กินยาพิษ
ฮวางจองและโดยังนั่งเฝ้าอาการของโพโก อยู่ ระหว่างนั้นเจอุ๊ก และคูฮอน มาเรียกโดยังอยู่หน้าคลินิก เขาจึงออกไปดู ทั้งสองถามเรื่อง บัณฑิตฮวางคนนั้นอยู่ และเมื่อรู้ว่าโดยังกำลังเฝ้าไข้มือปราบอยู่ เจอุ๊กจึงเสนอให้ไปแจ้งความกับทางการ หมออัลเลนออกมาเห็นโดยังคุยกับทั้งสอง ก็ถามว่าเป็นใคร โดยังจึงบอกว่าเป็นเพื่อนและอาของตน
โพโกเริ่มรู้สึกตัว ร้องออกมาเพราะเจ็บแผลผ่าตัด
“โอย นี่โลกมนุษย์ หรือปรโลกกันนะ” โพโก กล่าว
“ท่านยังไม่ตายหรอกครับ” ฮวางจอง กล่าว
“นี่ นี่เจ้ามัน.. หรือว่าเจ้า เจ้าเป็นคนช่วยชีวิตข้าเหรอ? เฮ้อ.. ทำไมเจ้าถึงช่วยข้า”
“ข้าคิดว่าควรจะช่วย เลยทำไปอย่างนั้น”
“ถึงแม้ว่าช่วยข้า แล้วจะต้องตายน่ะเหรอ คนอย่างเจ้านี่ ข้าไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ...เฮ้อ...”
“มือปราบจง ฟื้นแล้วเหรอ” โดยัง เข้ามา
“นายน้อย”
“นี่มือปราบจง มันเรื่องอะไรกันเนี่ย หา” คูฮอน ถาม
“ได้ยินว่าถึงขั้นกะโหลกแตก” เจอุ๊ก ถาม
“ขอดูหน่อย” หมออัลเลน กล่าว
“บัณฑิตฮวาง ทำไมเจ้าถึงได้เหงื่อแตกอย่างนั้นล่ะ?” โดยัง ถาม
“ไม่ ไม่มีอะไรนี่ครับ”
“มือปราบจง ก่อนที่เจ้าจะหมดสติไป เจ้าจะบอกอะไรข้าเหรอ?”
“เอ่อ เรื่องนั้น.. ข้าจะบอกว่า บัณฑิตฮวางเขาเป็นคนดีมากครับ” โพโกเกิดซาบซึ้ง จนยอมปกปิดฐานะที่แท้จริงให้บัณฑิตฮวาง
“หา” โดยัง ประหลาดใจ
“เค้าเป็นคนช่วยข้าไว้ใช่มั้ย?” โพโก ถาม
“ใช่แล้วครับ คุณฮวางเป็นคนช่วยชีวิตคุณ” หมออัลเลน กล่าว
“ตอนนั้น เจ้ากำลังจะบอกตัวตนที่แท้จริงของเค้า”
“นี่ข้า พูดอย่างนั้นเหรอ? ข้าขอโทษด้วย ข้าจำไม่ได้ ข้าเพิ่งจะเคยพบเค้า ข้าจะไปรู้จักตัวตนของเค้าได้ยังไง”
“งั้นรึ ถ้างั้นเจ้าเจอกันที่ไหน เจ้าคงบอกได้ใช่มั้ย ไม่เป็นไร ค่อย ๆ เล่ามาทีละอย่าง ข้าบอกให้พูดไงล่ะ”
“ความจริง..โอ๊ย ๆ ๆ” โพโก ร้องออกมา
“ใจเย็น ๆ อย่าเพิ่งคิดอะไร ทุกคนออกไปก่อน” หมออัลเลน สั่ง
“มือปราบจง”
“คุณเบ๊ก คุณหยุดเถอะ”
“งั้นข้าจะกลับไปก่อน วันหลังค่อยบอกข้าก็ได้” โดยัง กล่าว แล้วกลับออกไป
หมออัลเลนสั่งฮวางจองให้เอามอร์ฟีนให้โพโกหากเขาปวดมาก จากนั้นก็ขอตัวไปพัก
“บอกให้คนที่อยู่ข้างใต้ออกมาเถอะ อึด อัดจะแย่แล้ว ข้าเป็นมือปราบมาตั้งสิบปี กลิ่นเหงื่อเหม็นลอยขึ้นมาจนข้าแทบจะอ้วกอยู่แล้ว”
“ชักแท ออกมาเถอะ” ฮวางจอง กล่าว
“ท่านมือปราบ ข้าน้อยสมควรตายครับ”
“ทำไม ทำไมท่านถึงช่วยพวกข้า ดูเหมือนเค้าจะรู้ว่าท่านพูดโกหก” ฮวางจอง ถาม
“หึ ข้าไม่ได้พูดเพื่อช่วยเจ้าหรอก เพราะถ้าข้าพูดความจริงออกไป ข้าก็ไม่มีทางอยู่สงบสุขเหมือนกัน ปิดปากเจ้าให้สนิทล่ะ”
“ขอบคุณท่านมาก”
เช้าวันรุ่งขึ้นฮวางจองก็พบว่าโพโก หายตัวไปจึงรีบไปถามชักแท แต่ก็ไม่รู้เรื่อง จึงไปบอกหมออัลเลน เขาสั่งให้ฮวางจอง รีบตามหา เพราะต้องได้รับการรักษาต่อ แต่ก็หาไม่เจอ หมออัลเลนคิดว่าเขาคงไปจริง ๆ
ยองอิกมาหาหมออัลเลน บอกว่าพระราชามีรับสั่งให้ไปเข้าเฝ้า แต่คิดว่าควรจะมีชื่อในภาษาของโชซอนหน่อย หมออัลเลนเลยขอให้ช่วยตั้งให้หน่อย ยองอิก เสนอให้ใช้ว่า อัลลอน
“อัลลอน อัลเลน คล้ายกันมากเลยครับ”
“ฮะ ๆ อันแปลว่าปลอดภัยลอนแปลว่าต่อเนื่อง หมายถึงเรื่องดี ๆ ที่จะเข้ามาไม่หยุดหย่อน”
“อันลอน ผมชอบชื่อนี้มาก ถ้างั้นชื่อในภาษาโชซอนของผม ก็คืออันลอนละกัน”
ชักแทกังวลว่าโพโกจะไปแจ้งความเปิดโปงเรื่องของทั้งสอง แต่ฮวางจองเชื่อว่าเขาคงไปจากที่นี่มากกว่า ด้านหมออัลเลนได้ไปเข้าเฝ้าพระเจ้าโกจง พระองค์ทรงตรัสถามว่า หากจะสร้างโรงพยาบาลให้หมออัลเลนดูแลจะใช้วิชาแพทย์ตะวันตก มารักษาประชาชนชาวโชซอนได้มั้ย หมออัลเลนบอกผ่านยูที่มาเป็นล่ามว่าตนยินดีทำ พระองค์จึงตั้งชื่อโรงพยาบาลนี้ว่า ควังเฮวอน
โดยังได้พบกับยู จึงสอบถามเรื่องมือปราบจงหายตัวไป หลังจากก่อนหน้านี้ มือปราบจง พยายามจะบอกถึงตัวตนที่แท้จริงของบัณฑิตฮวาง
“นี่ท่านยังไม่รู้อีกเหรอ บัณฑิตฮวางเหมือนจะปิดบังอะไรอยู่ ท่านลองคิดดูสิ ว่ามันมักจะมีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นกับเค้าอยู่เสมอ มันเริ่มมาตั้งแต่ที่เค้าถูกยิงบาดเจ็บ ไหนยังใช้ไฟฟ้าช็อตมือปราบจง เรื่องที่น่าสงสัยไม่ใช่แค่เรื่องสองเรื่องนะ”
“มีอยู่ช่วงนึง ที่ข้าเองก็รู้สึกว่าเค้าเป็นคนแปลก ๆ อยู่ แต่ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกว่าเค้าเป็นคนดีไปอีกอย่าง ในโลกที่กำลังวุ่นวายอยู่ตอนนี้ การมีคนแบบนี้บ้างก็น่าจะเป็นเรื่องดีนี่นา ลองคิดไปในแง่ดีเถอะ” ยู กล่าว
“แต่ว่าเค้าเป็นคนที่ทำให้พ่อของข้าต้องตาย”
“เรื่องนั้นเป็นแค่อุบัติเหตุ ถ้าท่านยังคิดอย่างนี้ โดยไม่ยอมปล่อยวาง ก็มีแต่จะยิ่งเจ็บมากขึ้น คุณชาย ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องนี้ อีกไม่นานประเทศโชซอนก็จะมีโรงพยาบาลอย่างที่ท่านเคยฝันเอาไว้แล้ว”
“หมายความว่ายังไง”
“พระราชาจะสร้างโรงพยาบาลให้หมออัลเลนเป็นคนดูแล ในเวลาสำคัญนี้ จะเปลืองสมองไปกับเรื่องนั้นทำไม เป้าหมายของท่านก็คือการได้เป็นหมอไม่ใช่เหรอ หมออัลเลนบอกว่า ตอนนี้เค้ายังต้องการผู้ช่วยอีกหลายคน ดังนั้น ช่วงเวลานี้ ท่านควรจะเรียนรู้ให้มาก ๆ”
“ให้ข้าเป็นผู้ช่วยหมออัลเลน ไปเรียนร่วมกับเจ้าหมอนั่นเหรอ?”
“คุณชายเบ๊ก คิดถึงการเรียนรู้สิ..”
“ใต้เท้ายู ข้าขอบอกท่านไว้เลยว่า ข้ากับเค้าเหมือนน้ำกับน้ำมัน ต้องมีสักคนที่อยู่หรือไป ไม่มีทางอยู่ร่วมกันได้”
หมออัลเลนบอกกับฮวางจองว่าจะมีการเปิดโรงพยาบาล ต่อไปจะมีงานให้ทำอีกเยอะ ขอให้ช่วยด้วย ชักแทเสนอตัวเข้าช่วยจะให้ทำหน้าที่อะไรก็ได้ อัลเลนตกลงเพราะเห็นเป็นคนของ ฮวางจอง ทำให้ชักแทดีใจมาก ๆ
ที่บ้านของฮงยงชิก ยองอิก บอกกับหมออัลเลนว่าจะทำบ้านนี้ให้เป็นโรงพยาบาล โดยเป็นบ้านของท่านฮงยงชิก ผู้นำปฏิวัติที่ก่อเหตุคราวก่อน จึงถูกข้อหากบฏก็เลยถูกยึดบ้าน ฮวางจองหันไปเห็นภาพวาดเหมือนใต้เท้ามินก็ตกใจ
“โอ้ คนนี้แหละฮงยงชิก บ้านหลังนี้เป็นบ้านเค้า” ยองอิก กล่าว
“เอ่อ..ท่านนี้..” ฮวางจอง กล่าว
“ใช่แล้ว เค้าคือคนที่อยู่กับข้าตอนเปิดไปรษณีย์ เค้าเคยเรียกร้องให้มีการปฏิรูป ตายแล้วบ้านเค้าก็ถูกใช้เพื่อความทันสมัย โรงพยาบาลถูกตั้งที่นี่ มันจะเป็นสัญลักษณ์ของยุคใหม่”
ที่หน้าสถานทูตญี่ปุ่น หญิงหลายคนมาประท้วงขว้างปาหินใส่ และสิ่งของของวาตานาเบ้ ได้ถูกชาวบ้านขโมยไปช่วงชุลมุน ระหว่างนั้นทหารญี่ปุ่นคนหนึ่งเข้ามารายงานว่า ราชสำนักโชซอนมีการตั้งโรงพยาบาลขึ้น บ้านใต้เท้าฮง ตอนนี้กลายเป็นโรงพยาบาลไปแล้ว
“เอาบ้านผู้นำปฏิรูปที่ร่วมกับเราทำโรงพยาบาล นี่เป็นการดูหมิ่นและหยามเกียรติจักรวรรดิญี่ปุ่นชัด ๆ” ทูต กล่าว
“ท่านพูดถูกที่สุดเลยครับ คนที่ดูแลโรงพยาบาลเป็นใคร?” วาตานาเบ้ กล่าว
“หมออัลเลนครับ” ทหาร กล่าว
“อัลเลน มันกล้าแย่งตำแหน่งของผม ผมไม่มีทางปล่อยมันไว้แน่ บ้าเอ๊ย” วาตานาเบ้ กล่าว
วาตานาเบ้ มาหามียอง สอบถามว่าไม่สบายตรงไหน จะผ่าตัดให้
“คุณจะทำอะไรน่ะ” มียอง ถาม
“เพราะผมมันเก่งกว่าอัลเลนอยู่แล้ว ผมจะทำให้ทุกคนเห็นฝีมือผม หน้าคุณดูเหมือน
รักครั้งแรกของผม ฟูมิโกะที่มีลักยิ้ม ผมจะทำ
ลักยิ้มให้”
“ว้าย เป็นพวกผ่าเถื่อนมาจากไหนเนี่ย” มียอง กล่าว
“ฮิบโปเครตีส แห่งญี่ปุ่น”
“เค้าเรียกข้ามาพบนี่มันอะไรเนี่ย ถ้าเป็นอย่างนั้นก็กลับเถอะ”
วาตานาเบ้ ดื่มเหล้าจนเมา แล้วมาจ้างคิมโทน ให้กำจัดหมออัลเลน ส่วนที่โรงพยาบาล มีเด็ก ๆ มาดูจำนวนมาก หมออัลเลนจึงเรียก
เด็ก ๆ มาถ่ายรูปชาวบ้านและคิมโทนเห็นรูปก็ประหลาดใจ
“มันมหัศจรรย์มากเลย ไอ้ลูกหมาบ้านแกก็อยู่ในนั้นด้วย”
“เอ่อ แต่เอ ทำไมหน้ามันดูหมอง ๆ นะ”
“สงสัยว่าวิญญาณจะหลุดน่ะ” คิมโทน กล่าว
“ว่ายังไงนะ?” ชาวบ้าน ถาม
“ไม่รู้เหรอว่าฝรั่งใช้วิธีนี้มาหลอกพวก เด็ก ๆ น่ะ ที่ต้าชิงก็เคยมีเรื่องแบบนี้ เป็นการดูดวิญญาณเด็กเพื่อเอาไปกิน เค้าจะควักลูกตาเด็กไปเป็นแก้วที่อยู่ในกล้อง ดูสิ ภาพที่ถืออยู่นี่เหมือนกับมองด้วยลูกตาเลย”
“โอ๊ย นี่เจ้าบอกว่า หลอกเอาไปกินเหรอ?”
“ก็ใช่น่ะสิ ระวังเอาไว้เถอะ”
“แบบนี้ต้องอัดมันให้ตายไปเลย” ชาวบ้าน กล่าว
“โอ๊ย ๆ ๆ แล้วเราจะปล่อยไว้แบบนี้รึ? ถ้าปล่อยไว้เด็ก ๆ ต้องถูกกินหมดแน่ ถึงตอนนั้นก็ตาพวกเรา”
“จริงด้วย ไปเร็ว ไปกันเร็ว”
พระเจ้าโกจง ตรัสกับพระมเหสีเรื่องชื่อของโรงพยาบาลน่าจะมีชื่อเรียกที่ดีกว่านี้หน่อย
“ฝ่าบาท ทรงลองคิดถึงบทยงเหยี่ยในคัมภีร์ขงจื๊อดูมั้ยเพคะ?”
“ในบทยงเหยี่ยเหรอ? นั่นสินะ คำที่หมาย ความว่าอุทิศเพื่อมวลชน ช่วยเหลืออนุเคราะห์อย่างถ้วนทั่วคำนั้นใช่มั้ย?”
“เพคะ คำที่หมายความว่าทรงอนุเคราะห์ต่อชาวประชาด้วยความเมตตา นั่นคือน้ำพระทัยของพระองค์ที่มีต่อประชาชนเพคะ พระองค์ทรงมีน้ำพระทัยต่อประชาชนมาโดยตลอด หม่อมฉันคิดว่าชื่อนี้...น่าจะเหมาะที่สุดแล้วเพคะ”
“อืม นั่นสินะ ชื่อนี้เหมาะมาก เหมาะที่สุดเลยพระมเหสี ข้าจะต้องเปลี่ยนชื่อเดี๋ยวนี้ ไปเอาราชโองการมาที ความหมายคือช่วยประชาชนอย่างถ้วนหน้า เจคืออนุเคราะห์ จุงคือมวลชน วอนคือสถานที่ ให้ชื่อว่าเจจุงวอน แบบนี้ถึงจะเป็นสถานที่ที่น่ายกย่องที่สุดแห่งยุคสมัย ฮะ ๆ ๆ ๆ” พระเจ้าโกจง ตรัส
เนื้อหา: เดลินิวส์ / ภาพจากละคร (เอสบีเอส)
เนื้อหา: เดลินิวส์ / ภาพจากละคร (เอสบีเอส)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา