วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เจจุงวอน ตำนานแพทย์แห่งโชซอน ตอนที่ 11




ยูชวนซ๊อกรัน ออกไปเดินเล่นข้างนอก แต่นางไม่ไปจึงบอกให้ลูกสาวไปดูที่โกดัง เมื่อไปก็พบว่ามีจักรยานคันใหม่มาจอดที่โกดัง

หมออัลเลนจะออกตรวจคนไข้ แต่ฮวางจอง กลับมาไม่ทัน


“ดูเหมือนว่าวันนี้นักศึกษาฮวางจะมาไม่ได้ คงจะต้องให้นักศึกษาเบ๊กมาเป็นผู้ช่วย ผอ. ตรวจคนไข้แทน” เจอุ๊ก กล่าว

“งั้นก็เอาสิ  ก็ผู้ช่วยยังไม่โผล่มานี่” ฮัน กล่าว

“วันนี้นักศึกษาเบ๊กจะเป็นคนตรวจเอง    เหรอ?” มียอง ถาม

“เชื่อเค้าเลย นักศึกษาฮวางนี่หน้าด้าน จริง ๆ แฮะ ถ้าเป็นข้าคงไม่คิดจะเข้ามาในเจจุงวอนหรอก” เจอุ๊ก กล่าว

“เค้าได้มา เพราะคนสละสิทธิ์ใช่มั้ย?” พอน ถาม

“สละสิทธิ์? ถ้าแค่นั้นก็ยังดี แต่ว่าเรื่องที่นักศึกษาฮวางเป็นคนทำให้พ่อนักศึกษาเบ๊กต้องตายไปนี่น่ะสิ”

“หมายความว่ายังไง?”

“เจอุ๊ก” โดยัง เรียก

“เจ้ากรมราชทัณฑ์ที่ถูกทำร้ายตอนปฏิวัติ นั่นแหละคือพ่อของนักศึกษาเบ๊ก” เจอุ๊ก กล่าว


หยุดพูดได้รึยัง?” โดยัง ตวาด

“ทำไมล่ะ พวกเค้าก็ควรจะได้รู้นี่ ในตอนนั้นท่านเจ้ากรมถูกพวกกบฏฟันเอา  แต่เจ้าฮวางจองกลับสะเออะมาเย็บแผลให้  จนทำให้ท่านต้องเสียชีวิตน่ะ” เจอุ๊ก ถาม

“เหอะ อะไร อย่างเค้าจะไปรู้อะไร” ฮัน กล่าว

“เจ้าพูดอีกก็ถูกอีก” เจอุ๊ก กล่าว

“แบบนี้มันเลวมากเลยนะ” พอน กล่าว

“มากันครบแล้วใช่มั้ย?” หมออัลเลน เข้ามาถาม

“ครับ มาครบแล้วครับ  จะไปตรวจกันเลยมั้ย?” เจอุ๊ก กล่าว

“แล้วนักศึกษาฮวางล่ะ?” หมออัลเลน ถาม

“สงสัย ว่าจะยังนอนหลับอยู่ สงสัยเมื่อคืนจะดื่มหนัก ฮ่า ๆ” เจอุ๊ก  กล่าว

“ไปกันได้” หมออัลเลน กล่าว

“โอ๊ย ๆ เจ็บ ๆ”


“ต้องขอโทษด้วยครับ” ฮวางจอง เข้ามา “การตรวจโรคจะต้องตรงต่อเวลา คราวหน้าอย่ามาสายอีกล่ะ” หมออัลเลน กล่าวเตือน

“ข้าจะจำไว้ครับ”

“ไปกันได้”

หมออัลเลน นำนักเรียนเข้ามาที่ห้องผู้ป่วย  ฮวางจอง จึงกล่าวให้ข้อมูล


“คนไข้ที่นอนโรงพยาบาลมีทั้งหมดเจ็ดคนครับ หนึ่งคือคนที่ตกจากต้นไม้ อีกสองคนเป็นโรคมาลาเรีย  อีกสองคนเป็นพยาธิในท้องและอีกสองคนเป็นซิฟิลิส และอีกคนก็เป็นคนไข้ที่ถูกเสือกัดแขนจนขาดมาครับ คนไข้ที่ตกจากต้นไม้มากระแทกโอ่ง ผิวหนังแตกเหวอะหวะมาก แต่หลังรักษา ก็เริ่มฟื้นตัวขึ้นแล้ว”

“พรุ่งนี้พอตัดไหมแล้ว ก็ออกจากโรงพยาบาลได้” หมออัลเลน ตรวจคนไข้แล้วกล่าว

“คนต่อไป ป่วยเป็นโรคมาลาเรีย ตอนที่มาเป็นไข้สูงสี่สิบองศา  ผอ.ได้ช่วยฉีดยาควินินให้กับเค้า”

“ไข้เค้าลดลงไปมากแล้ว มีใครอธิบายระยะของไข้มาลาเรียได้บ้าง” หมออัลเลน ถาม

“โรคมาลาเรีย จะแบ่งเป็นระยะหนาวสั่น ตัวร้อน และระยะเหงื่อออกครับ” โดยัง กล่าว

“ตอบดีมาก คราวนี้ให้มิสเตอร์ฮวาง ลองพูดอาการของโรคมาลาเรียทีสิ”

“ผู้ป่วยจะปัสสาวะเป็นสีแดงเข้ม พร้อมกับมีเหงื่อออกมาก จะคลื่นไส้และท้องเสีย” ฮวางจอง กล่าว

“หมดแค่นี้เหรอ?”


“อาจจะปวดหัว มีอาการตับโต ปอดอักเสบจนถึงไตวาย” โดยัง กล่าว

“แล้วทำไมไข้มาลาเรียจึงมักจะไม่ระบาดฤดูอื่นนอกจากฤดูร้อน?” หมออัลเลน ถาม

“เพราะฟักตัวหนึ่งถึงสองอาทิตย์  แต่บางครั้งเชื้อก็จะฝังตัวอยู่นานหลายเดือนได้” โดยัง กล่าว

“เพอร์เฟกต์ ทำได้ยอดมาก คนต่อไป” หมออัลเลน ชม


“เค้าเป็นคนไข้ที่ถูกเสือกัดจนแขนขาดมาครับ” ฮวางจอง กล่าว

“อ้อ  ยังเจ็บมากรึเปล่า?”

“มันแปลกจังเลยครับ ข้าปวดแขนขวาจนนอนไม่หลับเลย” ชายที่เป็นคนไข้กล่าว

“หา ไม่มีแขนขวาทำไมยังปวดล่ะ หรือว่าปวดแขนซ้ายคะ” มียอง ถาม

“เมื่อคืนคุณดื่มเหล้าเหรอ? ถึงแขนขวาจะขาดแล้ว แต่ความรู้สึกยังคงอยู่ คุณก็เลยรู้สึกปวด เดี๋ยวผมจะให้ยาแก้ปวด เดี๋ยวพอกินยาเสร็จแล้ว คุณก็จะรู้สึกว่าหายปวด ช่วยจัดยาดัมมี่ให้เค้าที”


โดยัง รู้สึกสงสัย จึงเดินไปถามหมออัลเลนว่าทำไมถึงจ่ายยาหลอก ๆ ให้กับคนไข้ที่แขนขาดเพราะดัมมี่หมายถึงยาหลอก

“การที่ปวดแขนข้างที่ไม่มี เรียกว่าการเจ็บปลอม เวลานี้คงไม่มียาอะไรที่จะรักษาได้ แต่การให้ยาหลอกไปเป็นการสร้างความเชื่อมั่นกับเค้าว่าจะหาย จะได้ผลดีกว่า”

“หมายความว่านี่เป็นการรักษาทางจิต ใจ?” โดยัง ถาม

“ใช่แล้วครับจริงสิตั้งแต่พรุ่งนี้จะให้นักศึกษาเบ๊ก มารายงานการตรวจไข้” หมออัลเลน กล่าว

“เอ๊ะ แต่นั่นเป็นหน้าที่ของนักศึกษาฮวางนี่ ข้ามีหลายอย่างที่ยังไม่พร้อม”

“ไม่เป็นไร เพราะความรู้ทางการแพทย์ของคุณจะให้ประโยชน์กับนักเรียนคนอื่นในระหว่างทำการตรวจ”

“ครับ ผมจะพยายามเต็มที่ครับ”

“ฮะ ๆ เฮ้ เป็นข่าวดีจริง ๆ นักศึกษาเบ๊ก ตั้งใจให้ดีล่ะ” เจอุ๊ก กล่าว แล้วนังนังก็วิ่งเข้ามาว่าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น เมื่อหมออัลเลนและนักเรียนออกมาก็พบ โซซา กำลังอาละวาดอยู่กลางโรงพยาบาล

“นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย” หมออัลเลนถาม

“อย่าทำแบบนี้สิ เดี๋ยว ๆ ๆ ที่นี่เป็นโรงพยาบาลนะ ปล่อยมือ ปล่อยมือแล้วค่อย ๆ พูดคุยกันนะ”

“พี่คะ ทำอย่างนี้ทำไมเนี่ย”

“คิดว่าเอามาซ่อนไว้แล้วข้าจะหาไม่เจอเหรอปล่อยข้า ว้าย ๆ” โซซา กล่าว

“ว้าย ตายแล้วเปียกหมดเลย” ชุนฮวา กล่าว

“ไม่เป็นอะไรมาก” หมออัลเลน กล่าว

“สงสัยจะเป็นเมียน้อยทั้งคู่ เชอะ อาละวาด เก่งทั้งคู่” เจอุ๊ก กล่าว

“เมียน้อย เมียน้อยคืออะไร?” หมออัลเลนถาม

“อ้อ คือแบบว่า เป็นภรรยาที่นอกเหนือจาก..ภรรยาหลวงน่ะ” เจอุ๊ก อธิบาย


“นางเป็นเมียน้อย นางก็เป็นเมียน้อยผู้ชายชาวโชซอน มีภรรยามากเหลือเกิน คนไข้เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ?”

“เรื่องนั้น ข้าเองก็ไม่ทราบครับ” ฮวางจอง ตอบ

“คุณจะไม่รู้ได้ยังไงกัน?”

“เป็นคนไข้ที่ผู้จัดการเบ๊กพาเข้ามาเมื่อคืนค่ะ” นังนัง กล่าว

“ผู้จัดการเบ๊กเหรอ?”

“ค่ะ เพราะห้องนี้ยังว่างอยู่ เลยให้นางอยู่ไปก่อน จะได้คลอดลูกโดยไม่ต้องกังวล” นังนัง กล่าว

“หรือว่า...เป็นเมียน้อยผู้จัดการเบ๊ก” เจอุ๊ก กล่าว

“คงจะไม่ใช่หรอกค่ะ”

“แต่ถึงยังไง ก็ต้องเตรียมการทำคลอดก่อน รีบไปเตรียมตัวดีกว่า”


“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ เห็นเค้าว่าจะให้หมอตำแยมาทำคลอดน่ะค่ะ” นังนัง กล่าว

“หมายความว่าอะไร เชิญหมอตำแยมาโรงพยาบาล” โดยัง ถาม

“ข้าก็ไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ แต่เหมือนแค่ต้องการมายืมใช้ห้อง” นังนัง กล่าว

“อะไรนะ?”

โซซา ไม่พอใจอาละวาดจนมีอาการเวียนหัว หมออัลเลนจึงให้พาไปที่ห้องตรวจ

“มีอาการเอมีซิสรึเปล่า?” หมออัลเลน ถาม

“เอ...เอมี...” ฮวางจอง พยายามจะแปล

“เจ้ามีอาการแพ้ท้องบ้างรึเปล่า?” โดยัง ถามแทน

“ข้าอยากกินของเปรี้ยว ๆ พอได้กลิ่นอาหารก็เหม็น จนอยากอาเจียน” โซซา กล่าว

“เมนสตรูเอชั่น มาครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่?” หมออัลเลน ถาม

“คุณหมายความว่ายังไงเหรอคะ?” นังนัง ถาม

“ผมจะต้องพูดว่ายังไงครับ?” หมออัลเลน หันไปถามโดยัง

“เอ่อคือ ประจำเดือนมาครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่?” โดยัง ถาม

“เหอะ เป็นผู้ชายมาถามเรื่องประจำเดือนของผู้หญิงได้ยังไง น่าไม่อายเลย” โซซา กล่าว

“ไม่ต้องถามแล้ว มัวมาถามเรื่องพวกนี้ทำไม ไป ไปเถอะ” สามีของโซซากล่าว

“ถ้าวันนี้มิสยูอยู่ ก็คงจะช่วยผมตรวจรักษาได้ ผมขอแพทย์หญิงไปกับคณะมิชชันนารีแล้วไม่นานคงมาถึง” หมออัลเลน กล่าว


ซ๊อกรัน ไม่ยอมกินข้าว แม่ของนางจึงถามว่าไม่สบายหรือเปล่า จึงจับมือตรวจชีพจร แต่ซ๊อกรันบอกว่าตนไม่ได้ป่วย แม่จึงถามว่าไม่อยากเจอหมอหญิงที่มาจากอเมริกาหรือ

“หมอผู้หญิงที่มาจากอเมริกาเหรอคะ?” ซ๊อกรัน ถาม

“ใช่แล้ว แม่ถึงบอกให้พ่อพาเจ้าไปด้วย  ครั้งก่อนแม่น่ะเคยเห็นมาแล้วนะ โอ้ย ผู้หญิงอเมริกันพอเจอพ่อของเจ้าดีใจก็โถมเข้ามากอด  แม่เลยคิดว่าถ้าเจ้าไปกับพ่อด้วยจะได้ช่วยกัน ๆ เอาไว้หน่อย” แม่ซ๊อกรัน กล่าว

“ท่านแม่คะ ท่านพ่อไปรับหมอที่ท่าเรือใช่มั้ยคะ?” ซ๊อกรัน ถาม


ซ๊อกรัน ขี่จักรยานคันใหม่ไปหาพ่อเพื่อไปรับหมอหญิงชาวอเมริกันด้วย

“มิสยูซ๊อกรันใช่มั้ยคะ ฉันชื่อลิลเลียส ฮอร์ตั้น  ดีใจจังค่ะที่ได้พบคุณค่ะ”

“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” ซ๊อกรัน กล่าว

“มาได้พอดีเลย  ลูกพาคุณหมอฮอร์ตั้นไปส่งที่เจจุงวอนที” ยู กล่าว

“เจจุงวอนเหรอคะ?”

“พ่อเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่ามีเรื่องด่วนต้องรีบไปทำ”

“ค่ะ”

ซ๊อกรัน พาหมอฮอร์ตั้น มาที่เจจุงวอน พบกับหมออัลเลน จากนั้นก็พาไปแนะนำให้กับพวกนักเรียน







“สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันชื่อ ลิลเลียส ฮอร์ตั้นค่ะ ชื่อเกาหลีฉันชื่อ โฮ...โฮดอนใช่มั้ย   ชื่อโฮดอนค่ะ ฉันจะมาดูแลแผนกสูตินรีเวชที่นี่  และหวังว่าจะได้ร่วมงานกับพวกคุณอย่างดี”

“เราต้องเรียนการรักษาโรคผู้หญิงด้วยเหรอ?” พวกนักเรียนถาม

“ใช่แล้วครับ เธอจะสอนความรู้เกี่ยวกับการตั้งครรภ์จนถึงการคลอดให้พวกคุณ” หมอ
อัลเลน กล่าว

“เหอะ  อะไร เด็กจะคลอดก็ให้เป็นหน้าที่หมอตำแยสิ  ทำไมจะต้องเรียนด้วย” ฮัน กล่าว

“ฮิ คงจะไม่ใช่จะให้พวกเราไปทำคลอดหรอกนะ” พอน กล่าว

“ถ้าฉุกเฉิน  เราก็จำเป็นต้องทำ” หมออัลเลน กล่าว

“อย่างนี้มันเกินไปรึเปล่า จะให้พวกข้ามาทำคลอดเด็กได้ยังไงกัน แค่ใช้เข็มเย็บผ้าก็ไม่ใช่งานผู้ชายแล้ว”

“ซ๊อกรัน”

“ผู้ชายโชซอนรู้สึกต่อต้านถ้าต้องทำ คลอดให้กับผู้หญิงน่ะค่ะ” ซ๊อกรัน บอกหมอฮอร์ตั้น

“ผอ.อัลเลน คุณอยู่รึเปล่า ออกมาหน่อยสิ”  คูฮอน ออกมาตาม

หญิงคนหนึ่งตั้งท้องแล้วเด็กกลับหัวใกล้คลอด ทำให้มีอันตราย หมอฮอร์ตั้น จึงอาสาขอเข้าไปดูแลให้ โดยมีซ๊อกรันเข้าไปเป็นผู้ช่วย

“ขอดูหน่อยสิ เด็กสำลักขี้เทาในท้อง สถานการณ์ไม่ดีเลย ดูอันตรายมาก” หมอฮอร์ตั้น กล่าว

“ท่านบอกว่าเด็กสำลักขี้เทาในถุงน้ำคร่ำ” ซ๊อกรัน กล่าว

“โธ่เอ้ย เรื่องนั้นข้าก็รู้  แต่ตอนนี้ขาเด็กโผล่ออกมาแล้วนะ” หมอตำแย กล่าว

“ถ้าขาเด็กโผล่ออกมาก่อน มันจะอันตรายมาก  ต้องดันขาเด็กเข้าไปก่อน”

“ได้ค่ะ”

“นี่...สงสัยคงต้องผ่าตัดแล้ว”

“ผ่าตัด?  ผ่าท้องแม่เด็กเหรอ?”

“นางเป็นอะไรกันแน่?” ชายคนหนึ่งถาม

“ถ้ายังไม่รีบทำอะไร แม่กับลูกอาจจะมีอันตราย ต้องเตรียมผ่าตัดโดยเร็วที่สุด ผมจะไปเตรียมห้องผ่าตัดก่อน” หมออัลเลน กล่าว

หมออัลเลน จะเข้าไปดูอาการของหญิงท้องแต่ถูกห้ามไว้เพราะเป็นผู้ชาย หมอฮอร์ตั้น จึงบอกว่าจะทำหน้าที่เองแล้วไล่ทุกคนออกไปจากห้องหมด มีซ๊อกรันเป็นผู้ช่วย ด้านฮวางจองมาหาถามเรื่องการผ่าตัด หมออัลเลนจึงบอกว่าในประเทศตะวันตก มีการทำซีซาเรียน เซ็คชั่นมานานแล้ว  แต่ตนเองยังไม่เคยทำสักครั้ง


หมอฮอร์ตั้น ทำการผ่าตัดให้หญิงท้องโดย มีซ๊อกรันช่วย และมีนังนังมาทำหน้าที่พยาบาล และพวกหมออัลเลนและนักเรียนรออยู่ดูข้างนอกโดยหมออัลเลนคอยอธิบายการผ่าตัดให้ฟัง เมื่อผ่าตัดเด็กออกมาแล้วแต่ไม่หายใจ หมอฮอร์ตั้น จึงเป่าปากเด็ก จนเด็กรอดชีวิต

“สุดยอดไปเลย รอดแล้ว ฮะ ๆ” โก ตะโกน

“แม่เด็กปลอดภัยใช่มั้ยคะ?” ซ๊อกรัน ถาม

“วิเศษที่สุดเลย  นั่น หมอฮอร์ตั้นจูบปากกับเด็ก  แล้วเด็กก็หายใจแล้วก็รอดชีวิตกลับมาได้ ฮะ ๆ ๆ อย่างนี้ พอซ๊อกรันช่วยคุณหมอ แหวกท้องของคนไข้ออกมาแล้ว หมอฮอร์ตั้นก็ ล้วงเด็กออกมาอย่างนี้เลย” โก กล่าว

“ตะ แต่ตอนนั้น เด็กไม่หายใจไปแล้วไม่ใช่เหรอครับ” ฮวางจอง ถาม

“ใช่แล้วล่ะ ตอนนั้นหน้าของเด็กเริ่มจะเขียวแล้ว อืม ตอนนั้นหมอฮอร์ตั้น ก็พ่นลมเข้าไปในปากเด็กอย่างนี้ โอ้ว สวรรค์ แล้วเด็กน้อยก็หายใจได้” โก กล่าว

“เป็นอย่างนั้นเหรอครับ โอ้ วิเศษที่สุดเลย” ฮวางจอง กล่าว

หญิงที่ได้รับการผ่าตัดฟื้นขึ้น หมอฮอร์ตั้นยังไม่ให้คนไข้ขยับตัว นังนังจะนำอาหารมาให้คนไข้ ซ๊อกรันจึงบอกให้นำกลับไปเพราะคนไข้ยังกินไม่ได้ หมอฮอร์ตั้น เรียกนังนังมาให้เป่าปากตามที่หมอทำ

“เจ้าเป็นอะไร ดูเหมือนตื่นเต้นจังเลยนะ” ซ๊อกรัน ถาม

“เมื่อ 5 ปีก่อน ท่านแม่ของข้า ต้องตายไปตอนที่คลอดน้องชายน่ะ มันเหมือนวันนี้ เพราะน้องข้าไม่ยอมกลับหัว ถ้าตอนนั้นมีคุณหมออยู่ด้วย...ท่านแม่ของข้า กับน้องชาย ก็คงไม่ต้องตาย” นังนัง กล่าว

หมออัลเลน นำเรื่องการเป่าปากไปสอนนักเรียน เพื่อใช้ช่วยชีวิตคน โดยเฉพาะพวกที่จมน้ำ โดยเรียกเจอุ๊ก มาเป็นหุ่นในสาธิตการเป่าปาก 




จากนั้นหมออัลเลนได้พบกับหมอฮอร์ตั้น บอกว่าการผ่าตัดวันนี้ดีจริง ๆ หมอฮอร์ตั้นบอกว่าเป็นเพราะได้ซ๊อกรัน มาช่วย โดยังจึงกล่าวว่าหากได้ ซ็อกรันมาช่วยที่เจจุงวอนคงดี

คิมโทนนำเรื่องแพทย์หญิงมาใหม่ มาช่วยผ่าตัดทำคลอดให้แม่และลูกรอดทั้งสองคน มาเล่าให้วาตานาเบ้ฟัง

“คุณวาตานาเบ้ ไม่นานมานี้คุณก็เคยผ่าท้องทำคลอดจนผู้หญิงตายไปคนนึงนี่” ทูตญี่ปุ่น กล่าว

“แฮ่ม ๆ”

“ตอนนี้ นักเรียนที่นั่นมีใครเก่ง ๆ บ้างรึเปล่า?” ทูตญี่ปุ่น กล่าว

“ก็มีฮวางจองกับเบ๊กโดยัง ที่ดูแล้วไม่เลว” คิมโทน กล่าว

“เอ่อ เบ๊กโดยังคือคนที่เคยคิดจะไปเรียนญี่ปุ่นข้ารู้ แต่ว่าฮวางจอง ฮวางจองคนนี้เป็นใครล่ะ?” วาตานาเบ้ ถาม

“ข้าเองก็ไม่ค่อยรู้นัก เข้ามาได้เพราะคนสละสิทธิ์ แต่ฝีมือเย็บแผลเป็นเลิศ เท่าที่ข้าดู ถ้าสองคนนี้สำเร็จเป็นหมอเมื่อไหร่ อีกไม่นานการแพทย์ตะวันตกจะต้องหยั่งรากลึกในโชซอนแน่” คิมโทน กล่าว

“จะยอมไม่ได้  ข้าบอกแล้วว่าญี่ปุ่นจะต้องเป็นคนสร้างประวัติศาสตร์หน้านี้ขึ้นมา” ทูตญี่ปุ่น กล่าว

“เข้าใจแล้วครับท่านทูต”

“ถ้างั้น ข้าจะรีบจัดการ พวกมันให้เร็วที่สุด” คิมโทน กล่าว

“ดีมาก ทำไปตามนั้น งั้น...เราหยุดคุยเรื่องงานแค่นี้ก่อน ไปเรียกสาว ๆ มาดื่มเหล้ากันหน่อยสิ” ทูตญี่ปุ่น กล่าว

“ไฮ้  วันนี้น่าจะมีมียองของข้านะ อืม เชิญครับ”

“อ้อ มีอีกเรื่องที่ข้ายังไม่ได้บอก นางโลม นั่นไปเป็นพยาบาลที่เจจุงวอนแล้ว” คิมโทนกล่าว


ฮวางจอง เดินมาที่ห้องผ่าตัดจนพบกับนังนัง ทั้งสองคุยกัน

“ตั้งแต่เกิดมา ข้าเพิ่งเคยเห็นการผ่าท้องคน  เป็นครั้งแรกค่ะ”

“วิเศษใช่มั้ย ข้าก็เพิ่งเห็นครั้งแรก มันมหัศจรรย์มาก ใช่มั้ย?”

“ใช่ค่ะ” นังนัง กล่าว

“นังนัง ทำความสะอาดที่นี่ข้าทำเองได้  ข้าว่าเจ้าไปช่วยที่ห้องนางพยาบาลดีกว่านะ  เพราะถ้าไม่ทันระวัง ไปถูกอุปกรณ์ผ่าตัดเสียหายเข้าเจ้าจะถูกคุณหมออัลเลนด่าเอาได้”

“ข้าแค่อยาก จะช่วยเท่านั้นเองค่ะ  คิดว่าอาจมีคนไข้ที่ต้องใช้ห้อง ก็เลยมาทำความสะอาดเอาไว้ แต่เนิ่น ๆ น่ะ ต่อไปข้าจะไม่เข้ามาอีกแล้ว”

“ไม่เป็นไร ไม่ได้หมายความอย่างนั้น  ข้าแค่อยากให้เจ้าระวัง เพราะว่ามันอันตราย  ที่นี่มีมีดกับเข็มฉีดยาเยอะ ไม่ทันระวังไปโดนเดี๋ยวจะบาดเจ็บ แล้วไว้เจอกันใหม่นะ  สู้ ๆ” ฮวางจอง กล่าว

หมอฮอร์ตั้น กำลังเต้นออกกำลังกายอยู่ ซ๊อกรันเห็นก็ชวนแม่ของตนมาออกด้วย จนแม่เกิดเป็นลมล้มเป็นแผลขึ้นมา หมอฮอร์ตั้นจึงช่วยทำแผลให้ ยู ตำหนิภรรยาที่เป็นผู้ใหญ่แล้วยังไปเต้นทำตัวเป็นเด็ก จากนั้นหมอฮอร์ตั้น ได้บอกกับ ยูว่าอยากให้ซ๊อกรันมาเป็นผู้ช่วยที่เจจุงวอน


ยู พาหมอฮอร์ตั้น เข้าเฝ้าเพื่อทูลขอกับพระราชา ให้ซ๊อกรันมาช่วยงาน ทำให้ซ๊อกรันได้กลับมาเจจุงวอนอีก โดยังจึงมาหาเพื่อแสดงความยินดี

“ที่โรงพยาบาลคงยุ่งมาก ทำไมมาได้คะ?”

“ข้ามาแสดงความยินดีที่เจ้าได้..กลับไปเจจุงวอน”

“ข้าน่ะเหรอ? คิดว่าจะไม่ได้ไปแล้ว”

“ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าต้องกลับมา มันเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เหมือนของในกระเป๋าที่รอให้หยิบออกมา คนที่มีความสามารถอย่างเจ้า ยังไงก็ต้องได้แสดงความสามารถออกมาแน่” โดยัง กล่าว

“ไม่ขนาดนั้นหรอก”

“เราคงได้ทำงานด้วยกันที่เจจุงวอนแล้ว”

“ค่ะ”

“จริงสิ เจ้าจะไปร้านหนังสือกับข้ามั้ย?”

“ร้านหนังสือเหรอ?” ซ๊อกรัน กล่าว

“อืม ได้ยินว่ามีมิชชันนารี ที่เอาหนังสือมาขายก่อนกลับประเทศอเมริกาน่ะ”

โดยัง กับซ๊อกรันมาที่ร่นหนังสือแต่ไม่มีหนังสือเกี่ยวกับการแพทย์ แต่ซ๊อกรัน ได้เจอหนังสือที่หามานานเรื่องการผจญภัยของทอมซอเยอร์ มาร์คทเวนเขียน ทอมซอเยอร์มาจากแม่น้ำมิสซิสซิปปี

ชักแท บอกกับฮวางจองว่าคุณหนูซ๊อกรันจะได้กลับมาที่เจจุงวอนแล้ว ชักแทดีใจที่มักเซงจะกลับมาด้วย จะได้มีของดี ๆ กิน วันแรกที่จะกลับมาที่เจจุงวอนซ๊อกรันรีบมาแต่เช้า

“มา เรื่องที่จะเรียนนี้ เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ถ้าหากผิดพลาด พวกเราทุกคนอาจจะตายก็ได้” หมออัลเลนกล่าว

“หรือว่า คุณหมอกำลังจะสอนพวกเราปรุงยาพิษเหรอ?” เจอุ๊ก ถาม

“ถ้าเราผสมกรดไนตริก กับกรดซัลฟูริก แล้วก็กลีเซอรีน จะเป็นไนโตรกลีเซอรีน ไนโตรกลีเซอรีน มันจะมีรสหวาน รู้มั้ยว่ามันจะใช้รักษาคนป่วยที่เป็นอะไร? นักศึกษาฮวาง คุณรู้รึเปล่า นักศึกษาฮวาง”


“ฮวางจอง”

“ไนโตรกลีเซอรีน ใช้รักษากับโรคแบบไหนรู้รึเปล่า?”

“ต้องขอโทษด้วยครับ” ฮวางจอง กล่าว

“อืม นักศึกษาเบ๊ก” หมออัลเลน หันไปถาม

“ไนโตรกลีเซอรีน มีไว้สำหรับการลดความดันโลหิตครับ” โดยัง กล่าว

“ถูกต้องครับ คนไข้ความดันสูง ยาตัวนี้ มักใช้กับผู้ป่วยความดัน มันจะช่วยเปิดเส้นเลือด ทำให้ความดันเลือดลดลง มันยังใช้ได้กับผู้ป่วยที่มีอาการแน่นทรวงอกด้วย แต่จะต้องระวังให้มาก ในการใช้ยาตัวนี้ เพราะถ้าใช้ผิด จะทำให้ระเบิด และอาจทำให้ห้องทดลองของเราเกิดระเบิดได้เลยล่ะ” หมออัลเลน กล่าว

“โห..” หลายคนตกใจ

“แต่ถ้าหากทำตามที่ผมบอกไป รับรองว่าจะปลอดภัย วิชาเคมีวันนี้ คงต้องใช้เวลาเยอะหน่อย ขอให้ทุกคนสลับกันเข้ามาตามเวลาที่ผม ได้กำหนดเอาไว้ มา งั้นก็แบ่งกลุ่มกันได้แล้ว”

ชักแท กำลังจะเปิดเจจุงวอน ก็พบกับชายคนหนึ่ง เมื่อเข้าไปดูก็พบว่าเป็นลุงของตนเอง ชักแทบอกว่าได้มาเป็นยามเฝ้าประตูที่นี่ ด้านลุงบอกกับชักแทว่าตนเองมาส่งเนื้อที่นี่ ชักแทบอกกับลุงว่าหากต้องมาส่งเนื้ออีก คราวหน้าให้มาหาตนก่อนโดยจะรออยู่หน้าประตู

ฮวางจองและโกเข้าเรียนจนได้เวลาเลิก โกนำนาฬิกาไปให้กลุ่มของเบ๊กโดยังกับยูนเจอุ๊กที่จะเข้าเรียนต่อ ส่วนฮวางจองขอตัวไปตรวจดูเด็กที่เกิดใหม่

“เด็กสบายดีค่ะ คุณเองก็จะแข็งแรงดีเหมือนกัน” ซ๊อกรัน กล่าว

“เฮ้อ ขอบคุณมากนะคะ” แม่เด็กกล่าว

“ถ้าหากเธอจะผายลม ก็ให้..บอกฉันด้วยนะ” หมอฮอร์ตัน ถาม

“ต้องบอกด้วยเหรอคะ?” ซ๊อกรัน กล่าว

“ตอนผ่าตัดทำคลอดประสิทธิภาพของลำไส้จะลดลง การผายลม จะบอกว่าการทำงานของลำไส้ดีแค่ไหน แบบนี้ถึงให้กินอาหารตามปกติได้”

“คือว่า ต้องขอโทษด้วยนะคะ ถ้าท่านผายลมเมื่อไหร่ ก็มากระซิบบอกกับข้านะ เพราะมันแปลว่าให้กินข้าวได้แล้ว” ซ๊อกรัน บอกคนไข้

“ค่ะ ถ้ามีแล้วจะบอก”


“เด็กที่คลอด กับแม่เด็กเป็นยังไงบ้างครับ?” ฮวางจอง เข้ามา

“ทั้งสองคนแข็งแรงดีค่ะ” ซ๊อกรัน กล่าว

“งั้นก็ดีแล้ว เอ่อ ๆ ตอนผ่าเป็นการผ่าแนวนอนหรือว่าแนวขวางครับ?” ฮวางจอง ถาม

“ในขณะที่เด็กกำลังอยู่ในอันตราย การผ่าแนวตรงมันจะเร็วกว่าน่ะค่ะ”

“อ้อ อย่างนี้นี่เอง งั้นข้าต้องขอตัวก่อนนะ” ฮวางจอง กล่าว


“นี่บัณฑิตฮวาง ทำไมถึงต้องหลบข้าด้วย?” ซ๊อกรัน ถาม

“ข้าไม่ได้หลบซักหน่อย”

“ใครว่าล่ะ ตั้งแต่คืนป้ายหยกอันนั้นมา ท่านก็หลบหน้าข้ามาตลอด”

“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก”

คิมโทนเริ่มดำเนินการตามแผนร้าย วางแผนทำให้เกิดระเบิดในห้องทดลอง ซึ่งเป็นเวลาที่เจอุ๊ก กับโดยังกำลังทำการศึกษาทดลอง

“เฮ้อ เชื่อเค้าเลย ต้องตรงเวลาแบบนี้เชียวเหรอ?” เจอุ๊ก กล่าว

“แบบนี้มันถึงจะได้ผลน่ะ” โดยัง กล่าว

“อะไรน่ะ เดี๋ยวอย่าเพิ่งไป มัน มันดูผิดปกตินะ” เจอุ๊ก กล่าว

“ไม่เป็นไรหรอก แค่ก ๆ” โดยังสำลักควัน

“แค่ก ๆ โดยัง พวกเราออกไปกันเถอะ”


ห้องทดลองเกิดระเบิดขึ้น โดยังหมดสติลง ชักแท ซ๊อกรัน และฮวางจอง ได้ยินเสียงระเบิดจึงรีบวิ่งมาดู


เนื้อหา: เดลินิวส์ / ภาพจากละคร (เอสบีเอส)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา