วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เจจุงวอน ตำนานแพทย์แห่งโชซอน ตอนที่ 7




คนจากวังหลวงนำเรื่องโรงพยาบาลมา บอกกับชาวบ้าน

“พระราชาทรงพระราชทานตึกทางการในเขตตะวันออกเฉียงเหนือ ตรอกที่สอง เพื่อสร้างเป็นโรงพยาบาลเจจุงวอน เพื่อให้นายแพทย์ชาวอเมริกันชื่อหมออัลเลน ใช้ทำการรักษาผู้เจ็บไข้ได้ป่วย เวลาทำการของโรงพยาบาลเจจุงวอนคือบ่ายโมงถึงช่วงเวลาห้าโมงเย็น คุณหมออัลเลนมีความสามารถและเชี่ยวชาญในด้านการผ่าตัด โดยเฉพาะการตรวจรักษาภายนอก เพียงมองปราดเดียวก็วินิจฉัยโรคได้ ตอนนี้โรงพยาบาลมีห้องพักผู้ป่วยที่พร้อมสำหรับทั้งชายและหญิง ผู้ใดเจ็บป่วยก็เชิญเข้าไปรับการรักษาที่นี่ได้ถ้วนหน้า”

  
หมออัลเลนนำชุดสำหรับปฏิบัติงานมาให้ฮวางจองใส่ และมอบหน้าที่ผู้ช่วยแพทย์ในโรงพยาบาลให้ โดยต้องจัดยาและการดูแลผู้ป่วย ด้านพวกญี่ปุ่นต้องการฮุบโรงพยาบาล จึงได้ให้คิมโทน ไปปล่อยข่าวว่าฝรั่งเป็นพวกกินเด็ก เพื่อทำให้เกิดการต่อต้านฝรั่ง

วันเปิดโรงพยาบาล ยองอิกขึ้นไปพูดต่อหน้าคนที่ร่วมงาน

“ทุกท่าน วันนี้ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ เพราะพระราชาทรงมีพระมหากรุณาดั่งมหาสมุทร ที่ให้ก่อตั้งเจจุงวอนนี้ขึ้นมา และได้ตั้งให้หมอ     อัลเลนเป็นผู้บริหาร ให้ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันทำงาน เพื่อช่วยรักษาผู้ที่เจ็บป่วย ซึ่งเป็นการอุทิศเสียสละเพื่อการพัฒนาการแพทย์โชซอน เชิญ..ผู้อำนวยการอัลเลน ท่านกล่าวอะไรสักหน่อย”

“ฮะแฮ่ม ผมอยากจะขอกล่าวอะไรสักเล็กน้อย แม้จุดเริ่มต้นของเราจะไม่ได้ยิ่งใหญ่นัก แต่ผลมันจะต้องยิ่งใหญ่แน่นอน ในตอนนี้ ผมขอให้ทุกคนพูดตามผม เจจุงวอนจงเจริญ”

“เจจุงวอนจงเจริญ”

“เฮ้อ โอเพ่นเดอะดอร์ เปิดประตูได้”

“เพื่อมาต้อนรับคนไข้คนแรกของโรงพยาบาลเจจุงวอนของเรา” ฮวางจอง กล่าว

“ข้าเปิดประตูละนะ” ชักแท กล่าว

“ไอ้พวกฝรั่ง..ๆ ๆ ไปให้พ้น ไอ้พวก     ฝรั่ง ๆ” ชาวบ้านหลายคนมาประท้วงหน้าโรงพยาบาลขว้างหินใส่ จนโดนหมออัลเลนหัวแตก   ฮวางจองพยายามออกไปอธิบายให้ชาวบ้านฟังว่าที่นี่เป็นที่รักษาคนป่วยนะ ไม่ใช่สถานที่จับเด็กมากินตามที่ชาวบ้านเข้าใจ แต่ก็ยังถูกต่อต้าน มองชง เข้ามาช่วยฮวางจองให้หลบเข้าไปข้างใน



“โอ๊ย โดนก้อนหินไปร้อยลูกได้มั้งเนี่ย เจ้าอยากตายนักรึไงฟะ?” มองชง กล่าว

“เจ้ามาทำอะไรเนี่ย?” ฮวางจอง ถาม

“ยังจะทำอะไรล่ะ ข้างนอกบ้าคลั่งกันอย่างนั้น อ้อ ดูนี่ ข้างนอกมีป้ายนี้ติดเต็มไปหมดเลย ดูสิ” มองชง กล่าว

“เจจุงวอนเป็นที่ลักลอบกินเด็กทารก แล้วพวกเราจะมัว..นิ่งเฉยอยู่ได้ยังไง เราควรจะลุกขึ้นมาเพื่อต่อต้านพวกฝรั่งและพวกที่ไปสมคบฝรั่ง เพื่อจะลงโทษพวกมัน ตามเจตนาของสวรรค์”

“ไอ้พวกโง่เง่าเอ้ย เจอุ๊ก เจ้าช่วยไปแจ้งกองปราบให้ทีสิ” โดยัง กล่าว

“มันน่าสนุกดีออก อย่าเพิ่งตื่นตูมเลย เจจุงวอนเปิดไม่สำเร็จเจ้าแซ่ฮวางมันก็จะซวยด้วย” เจอุ๊ก กล่าว

“นี่เป็นโรงพยาบาลของประเทศ ยังไม่รีบไปอีก”

“เอาน่า รู้แล้วน่า”

ชาวบ้านกำลังจะบุกเข้ามา โดยังบอกให้ใต้เท้ายู และทุกคนหนีไปข้างหลังแล้วแจ้งกองปราบ แต่หมออัลเลนไม่หนี เพราะเป็นห่วงเครื่องมือรักษาคนไข้ โดยังบอกให้ทุกคนหนีไปบ้านเจ้ากรมอากรที่อยู่ใกล้เคียงส่วนตนจะอยู่ดูสถานการณ์ และดูหมออัลเลนที่ยังอยู่ไม่ยอมหนี

ซ็อกรัน และมักเซง ไปเดินเลือกซื้อปากกาที่ตลาด จนได้รู้ว่ามีการต่อต้านเรื่องโรงพยาบาล จึงรีบมาที่โรงพยาบาล พยายามอธิบาย ให้ชาวบ้านฟัง แต่ก็ไม่เป็นผล จนเกิดการต่อสู้กัน โดยังออกมาช่วย


“เป็นยังไงบ้างคะ ท่านบาดเจ็บแล้ว”       ซ็อกรัน ถาม

“เจ้ามาที่นี่ทำไม?” โดยัง ถาม

“เพราะข้าเป็นห่วงท่านพ่อ ท่านเห็นพ่อข้าบ้างมั้ย?”

“เฮ้อ ท่านหลบไปยังที่ปลอดภัยแล้ว ไปเถอะ”

“แล้วบัณฑิตฮวางล่ะคะ หมออัลเลนหลบไปแล้วใช่มั้ย พวกเค้าเป็นยังไงบ้าง?”

“กำลังไปเก็บเครื่องมือในห้องผ่าตัด”     โดยัง กล่าว

“ห้องผ่าตัดเหรอ?” ซ็อกรัน กล่าวแล้วรีบออกไป

“ซ็อกรัน” โดยัง เรียก

ซ็อกรัน เข้ามาที่ห้องผ่าตัด ก็พบกับฮวางจอง จากนั้นโดยังก็ตามมาบอกว่าพวกชาวบ้านถูกจับกุมไปหมดแล้ว

“ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอย่างนี้ในวันแรก” มือปราบ กล่าว

“ของที่แตกหักไปก็เอาไว้ค่อยไปซื้อหาเอาใหม่เถอะ ขอแค่คุณหมอปลอดภัยก็พอ” ยองอิกกล่าว

“ข้าจะรีบตามหาต้นตอของหนังสือสนเท่ห์พวกนั้น” มือปราบ กล่าว

“ข้าว่ามันคงจะไม่ง่ายนัก ตอนนี้พวกชาวบ้านเชื่ออย่างปักใจว่าเนื้อหาในนั้นเป็นความจริง พวกคนป่วยคงไม่มารักษาที่นี่”

“ผมควรจะไปบอกกับพวกเค้าด้วยตัวเอง ให้พวกเค้ารู้ว่าไม่จริง” หมออัลเลน กล่าว

“อันตรายเกินไปนะครับ” ฮวางจอง กล่าว

“แต่ผมคิดว่าคุณหมอไม่ควรจะออกไปในเวลานี้นะ” ยูกล่าว

“ขอโทษที่เสียมารยาทถาม เอ่อ หลังจากเหตุการณ์นี้เรื่องจะเป็นยังไงต่อไปหรือครับ?” ฮวางจอง ถาม

“จะเป็นยังไง ชื่อของโรงพยาบาลก็อาจจะหายไป” โดยัง กล่าว

“อาจจะต้องปิดโรงพยาบาล” หมออัลเลน กล่าว

“คงจะไม่ถึงขนาดนั้นหรอก เราต้องเอา  ชนะอุปสรรคครั้งนี้ไปให้ได้” ยู กล่าว

“ข้าก็คิดอย่างนั้น อย่าเพิ่งกังวลจนเกินไป ทุกอย่างต้องดีขึ้นแน่” ยองอิก กล่าว

“ผมเองก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน ขอบคุณมาก ๆ แล้ว..แขกที่มาร่วมงานวันนี้..”

“อ้อ ผมส่งเค้าไปที่บ้านท่านเจ้ากรมอากรอย่างปลอดภัยแล้ว”

“อย่างนั้นเหรอ ถ้างั้นเรารีบมาซ่อมแซมของกันดีกว่า”

“ครับ ถ้าอย่างนั้น ข้าขอไปตรวจดูความเสียหายก่อนนะครับ” ฮวางจอง กล่าว


ทูตญี่ปุ่น และวาตานาเบ้ เข้าเฝ้าพระเจ้าโกจง ทูลเรื่องที่ประชาชนอกสั่นขวัญแขวนเป็นเพราะโรงพยาบาลเจจุงวอนที่พระองค์ทรงก่อตั้งขึ้นมา การตั้งโรงพยาบาลขึ้นในช่วงที่พวกตนไม่อยู่หมายความว่าอย่างไร

“เพราะว่า เราต้องมีโรงพยาบาล และพอดีมีหมออัลเลนอยู่ อย่ามาหัวเสียเรื่องแค่นี้เลย” พระเจ้าโกจง ตรัส

“จะไม่ให้ไม่พอใจได้ยังไงกัน อ้อ อันที่จริง เมื่อตั้งแล้วก็ควรเป็นไปด้วยดี แต่นี่เป็นเพราะชาวบ้านไม่เชื่อมั่นในพวกฝรั่งหัวแดง ถึงได้ไม่มีคนไข้ไปรักษา” วาตานาเบ้ กล่าว

“เราอยากกราบทูลว่า หากพระองค์ต้อง การให้พวกเราช่วย ก็ขอให้พระองค์ตรัสบอกเราได้เลยพ่ะย่ะค่ะ” ทูตญี่ปุ่น กล่าว

วาตานาเบ้รายงานทูตญี่ปุ่นว่าแผนทุกอย่างราบรื่น

“เจจุงวอนเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของความทันสมัย อย่าปล่อยให้ดอกไม้ดอกนี้เบ่งบานได้โดยเด็ดขาด”

“ไฮ้ ถ้าหากไม่รดน้ำ มันก็ย่อมต้องเหี่ยวเฉาตายไปเอง ถ้าไม่มีคนไข้ไปรักษา สักวันเจจุงวอนก็ต้องปิดลง ฮะ ๆ ๆ”

หมออัลเลนมารักษาชาวบ้าน แต่ถูกชาวบ้านปฏิเสธ ฮวางจองพยายามพูดจาหว่านล้อมให้ชาวบ้านยอมให้ทำแผล ซ็อกรันนำอาหารมาให้ แต่ถูกกั้นไม่ให้เข้า จนชักแทออกมาพบ

“อ้าวคุณหนู อ้าว ๆ นี่อะไร ๆ โอ๊ย ให้พวกข้าเหรอ หมออัลเลนกำลังรอท่านอยู่ข้างใน นี่ ทั้งสองท่านนี้ เป็นเหมือนคนในเจจุงวอนเหมือนกัน ดังนั้นเข้าไปเถอะ ไปได้ ไปเถอะ ไป ขอบคุณพวกท่านมากนะ”

“ฮะ ๆ ๆ”

“ไอ้เจ้านี่ นิสัยขอทานชัด ๆ ฮึ่ย” ชักแท กล่าว

“โธ่ งั้นก็หาชุดแบบนี้มาให้ข้าใส่มั่งสิ คิดว่าข้าเป็นขอทานแล้วจะข่มได้เรอะ” มองชง กล่าว

“ทุกคนปลอดภัยใช่มั้ย แล้วคุณชายฮวางล่ะ?” ซ๊อกรันถาม

“ปลอดภัยดีครับ ข้าคุ้มครองนายท่านอย่างดีเลยครับ” ชักแท กล่าว

“ฮะ ๆ ๆ ข้าว่าเจ้าเอาแต่คุ้มครองประตู  มากกว่ามั้ง?” มองชง กล่าว

หมออัลเลนรักษาประชาชน โดยให้ฮวางจองช่วยพลิกตัวผู้ป่วย


“ดูเหมือนเลือดจะออกมาจากข้างหลัง” โดยัง กล่าว

“โอ้โห ท่าจะเจ็บแฮะ ร่างกายอย่างนี้ยังจะออกมาปาหินอีก” เจอุ๊ก กล่าว

“โอ๊ย แฮ่ก ๆ ฮือ ๆ” คนไข้ร้อง

“เป็นเอนอลฟิสทูลาจนทะลุเป็นโพรงแล้ว” หมออัลเลน กล่าว


“เรียกว่าฝีคัณฑสูตร เป็นฝีที่เกิดขึ้นจากเนื้อที่โผล่มานอกรูทวารหนัก” โดยัง กล่าว

“ใช่แล้วครับ”

“คงจะเจ็บมากใช่มั้ย เริ่มเป็นอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?” ฮวางจอง ถาม

“ตั้งแต่.. โอ๊ย”

“ยังไม่รีบบอกมาอีก ปล่อยไว้อย่างนี้เจ้าต้องตายแน่” โดยัง ขู่

“หา ตาย..เหรอ ฮือ ๆ ๆ”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ รีบบอกเรามาเถอะ”

“แฮ่ก ๆ เกือบ เกือบจะหนึ่งปีแล้ว”

“คุณเป็นไข้สูง เข้าห้องน้ำบ่อย ๆ ด้วยใช่มั้ย?” หมออัลเลน ถาม

“ใช่”

“เค้าอาการหนักมาก ต้องรีบผ่าตัดโดยเร็วที่สุด”

“ครับ เดี๋ยวข้าจะไปทำความสะอาดห้องผ่าตัดเอาไว้ก่อน”

“เฮ้อ จะไปรอดได้ยังไง เป็นข้ากัดลิ้นตัวเองตายไปแล้ว ทั้งน่าอายทั้งทรมาน โอย อะไร?” เจอุ๊ก กล่าว

“รออยู่นี่นะ” โดยัง กล่าว

หมออัลเลน ตัดสินใจจะผ่าตัดคนไข้ โดยจะใช้วิธีเอาเนื้อรอบ ๆ ไปเย็บติดแทนที่ โดยังขอเข้าไปดูการผ่าตัดด้วย หมออัลเลนอนุญาตพร้อมถามว่าทำไมไม่ยอมมาเป็นผู้ช่วยเป็นเพราะมิสเตอร์ ฮวางใช่มั้ย โดยังปฏิเสธ บอกว่าตนจะไปเรียนต่อญี่ปุ่นแต่เกิดปัญหาก่อน จึงคิดจะไปเรียนที่อเมริกา หมออัลเลนจึงแนะนำมหาวิทยาลัยดี ๆ ให้ จากนั้นก็ตำหนิโดยังที่เมื่อกี้ไปข่มขู่คนไข้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง โดยังจึงรีบขอโทษ


 ซ๊อกรันมาเข้าครัวเพื่อทำอาหารให้คนที่โรงพยาบาลทาน ฮวางจอง เข้ามาเห็นก็สอบถามว่ามาที่นี่อีกได้อย่างไร ซ๊อกรัน จึงให้ฮวางจองช่วยชิมอาหารฝีมือตน ระหว่างนั้นโดยังเข้ามาเห็นพอดี

“คุณชายเบ๊ก”

“มาทำอะไรที่นี่ มาตั้งแต่เมื่อไหร่?” โดยัง ถาม

“เห็นว่าทุกคนยังไม่ได้กินข้าวกันเลย”

“กลิ่นหอมนี่กลิ่นอะไรครับ” หมออัลเลน เข้ามา

“เป็นข้าวปั้นน่ะค่ะ จะลองกินดูมั้ยคะ?”

“ขอบคุณมากครับ ผมขอผ่าตัดเสร็จก่อนแล้วค่อยกิน”


“ซ๊อกรัน เจ้ามาทางนี้กับข้าหน่อย เจ้ามาทำอะไรที่นี่ฮ้า?”

“เฮ้อ ข้าก็บอกไปแล้วไง ว่าห่วงว่าทุกคนยังไม่ได้กิน..”

“เรื่องแค่นี้ให้คนใช้ทำก็ได้”

“คุณชายคะ”

“ที่จริง หลังจากที่เจ้าปล่อยตัวเจ้าฮวางจองไปแล้ว ข้าก็ให้มือปราบจงไปสืบเรื่องของเค้า”

“มือปราบจงก็คือ.. คนที่หมออัลเลนช่วยผ่าตัดศีรษะให้เค้าเหรอคะ?”


“ใช่แล้ว ตอนมือปราบจงถูกหามเข้ามา เหมือนเค้ากำลังจะบอกเรื่องสำคัญเกี่ยวกับฮวางจอง แต่ว่า พอฟื้นมาก็จำอะไรไม่ได้เลย ที่มือปราบจงหายไป น่าจะมีเหตุผลบางอย่าง พูดอีกอย่างคือ ฮวางจองไม่ใช่คนที่เจ้าควรจะช่วยเหลือรู้มั้ย เค้าเป็นคนอันตราย”

“คนที่ดูอันตรายคือคุณชายต่างหาก”

“อะไรนะ?”

“ข้าเคยบอกแล้วไงว่า ข้าไม่ได้มาเพราะบัณฑิตฮวางคนเดียว ข้ามาที่นี่เพราะอยากจะช่วยทุกคน การช่วยเหลือมีการแบ่งแยกได้ด้วยเหรอ ว่าควรหรือไม่ควรช่วย”

“ซ๊อกรัน”


“ท่านดูเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ คุณชายเบ๊กที่ข้าเคยรู้จัก เค้าจะคบหาถูกคอกับบัณฑิตฮวางที่มีความสามารถทางการแพทย์ ถ้าเป็นคุณชายที่ข้าเคยรู้จัก เค้าต้องเข้าใจและรู้ก่อนใครด้วยซ้ำว่าบัณฑิตฮวางไม่ใช่คนที่ทำให้พ่อของท่านตายจากการรักษาครั้งนั้น การที่ท่านเอาแต่สงสัยคนอื่นและรู้สึกไม่ปลอดภัย เป็นเรื่องอันตรายจริง ๆ ข้าจะกลับก่อนละ”

“ที่ข้าไม่สบายใจ ไม่ใช่แค่เพราะความสงสัย ที่ข้าต้องไม่สบายใจ เพราะไม่ชอบเห็นเจ้าอยู่กับมัน”

“คุณหนู คุณหนู อยู่ที่ไหนคะ ข้าวแข็งหมดแล้ว” มักเซง เข้ามา


ซ๊อกรัน เดินออกมาก็พบกับ ฮวางจอง เขาบอกนางว่า ต่อไปไม่ต้องห่วงตนแบบนี้เพราะกลัวโดยังเข้าใจผิด จากนั้นก็ขอโทษที่ได้แอบฟังทั้งสองคุยกัน ซ๊อกรัน บอกว่าตนกับโดยังทะเลาะกันไปมาอย่างนี้เป็นสิบปีแล้ว ต่อไปไม่ต้องพูดเรื่องนี้อีก

กระดาษที่ขายในตลาดถูกซื้อไปหมดเลย มือปราบจึงเร่งสั่งลูกน้องออกติดตามคนร้ายที่ติดแผ่นสนเท่ห์ไปทั่วเมือง โดยสอบถามจากพ่อค้าได้ลักษณะเป็นคนใส่หมวกฟางแบกย่ามแต่หมวกฟางปิดมาต่ำมากจึงมองไม่เห็นหน้า

พวกชาวบ้านที่เป็นคนไข้ทยอยเดินหนีออกจากโรงพยาบาล โดยัง กลัวว่าคนที่ออกไป จะต้องออกไปพูดอะไรที่เป็นผลเสียกับโรงพยาบาล แต่หมออัลเลนบอกว่าควรจะรักษาคนไข้ก่อนปล่อยเค้าไป ด้านคิมโทน เข้ามาหาวาตานาเบ้ที่หอนางโลม บอกว่าตนกำลังถูกตามจับ วาตานาเบ้สั่งให้เขาเผาเสื้อผ้าและหมวกทิ้งให้หมดเพื่อทำลายหลักฐาน


“ตอนนี้เจจุงวอน ถูกลือในทางร้ายขึ้นเรื่อย ๆ แผนของเรายังราบรื่นดี มันจะต้องมาอยู่ในมือเราสักวัน”

“ใช่ครับ ถ้าอย่างนั้นข้าขอตัวก่อนครับ” คิมโทน กล่าว

“อย่าโผล่หัวไปให้ใครเห็นเชียวล่ะ ซ่อนตัวเอาไว้ให้ดี”

ทูตญี่ปุ่น เข้าเฝ้าพระเจ้าโกจง ทูลเรื่องที่ฝรั่งต่างชาติที่ไม่ใช่หมอ ก็ยังถูกชาวบ้านเขวี้ยงก้อนหินขับไล่

“ตอนนี้ไม่มีการติดประกาศสนเท่ห์แล้ว ไม่สิ คงจะไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องติด เจจุงวอนเป็นโรงพยาบาลที่ตั้งขึ้นมาด้วยเจตนาที่ดีมาก กระหม่อมคิดว่าอนาคตของโชซอนอยู่ที่นั่น ดังนั้นเราควรจะทำให้มันเจริญรุ่งเรือง”

“นี่ท่านทูต คิดจะพูดอะไรกันแน่” ยองอิก ถาม

“กระหม่อมมีวิธีแก้ปัญหากับเหตุการณ์ครั้งนี้ ได้อย่างง่ายดาย”

“จะแก้ยังไงล่ะ?” พระเจ้าโกจง ตรัสถาม

“เปลี่ยนตัวผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจจุงวอน”

“นี่ท่านพูดอะไรห๊ะ?” ยองอิก ถาม

“เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะอัลเลน ถ้าเปลี่ยนผู้อำนวยการโรงพยาบาล ก็จะช่วยแก้ปัญหาครั้งนี้ได้ อ้อ แต่ต้องไม่ให้พวกฝรั่งมาเป็นต่อ ผู้มีฉายาว่า ฮิปโปเครติสแห่งญี่ปุ่นอย่างวาตานาเบ้ น่าจะเหมาะสมอย่างที่สุด พระองค์ทรงคิดว่ายังไง โปรดพิจารณาด้วยพ่ะย่ะค่ะ”


หมออัลเลนจะออกไปตามหาคนไข้ด้วยตนเอง แต่โดยังเป็นห่วง เพราะข่าวลือรุนแรงขึ้นมาก ระหว่างนั้น มองชง ก็เข้ามาบอกว่าหาคนไข้ที่ตูดเหวอะเจอแล้ว

“จริงรึเปล่า? หาเจอได้ยังไงน่ะ”

“ด้วยอาชีพของข้าไม่มีบ้านไหนที่ไม่เคยแวะไป เข้าไปบ้านนึงข้าก็รู้แล้วว่าบ้านนั้นมีช้อนกี่คันมีตะเกียบกี่คู่น่ะครับ”

“งั้นก็ดี ขอบใจมากนะ คราวนี้ผมคงต้องไปแล้ว”

มือปราบกับโดยังพยายามห้ามหมออัลเลน ไม่ให้ออกไปรักษาคนไข้ จึงขอให้บัณฑิตฮวาง ช่วยพูด แต่เขาบอกว่าจะออกไปกับหมออัลเลน เมื่อเจอคนไข้ก็รีบรักษา มือปราบจึงบอกว่าจะคุ้มครองไปเอง แต่หมอปฏิเสธบอกว่าจะทำให้ชาวบ้านตกใจกลัว

“ถ้าอย่างนั้น ข้าคงจะให้ท่านไปไม่ได้หรอก” มือปราบ กล่าว

“ถ้าคุณจะขวางผม การทูตระหว่างสองประเทศคงมีปัญหาแน่ ต้องขอโทษด้วย ที่ผมต้องพูดจาอย่างนี้ ยังไงผมก็ต้องไป”

“ถ้างั้น ท่านพกเอาไอ้นี่ไปด้วย”

“โน ผมจะพกอาวุธไปไม่ได้ ต้องแก้ปัญหาทุกอย่างด้วยสันติ ขอโทษด้วยครับ”

“ข้าจะคุ้มครองคุณหมอให้ดีที่สุด” บัณฑิตฮวาง กล่าว

“ด้วยการเอาตัวของเจ้า ไปสู้กับพวกบ้าคลั่งน่ะเหรอ?” โดยัง ถาม

ยองอิก เห็นขบวนเกี้ยวก็สอบถามว่าคนข้างในคือหมออัลเลนใช่มั้ย เมื่อรู้จากมือปราบว่าใช่ ก็รีบต่อว่า บอกให้ไปตามหมออัลเลนกลับมา เพราะหากหมออัลเลนเป็นอะไรไปก็เข้าทางพวกญี่ปุ่น วาตานาเบ้ คงได้มาเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาล เจจุงวอนแห่งนี้แทนแน่นอน โดยังจึงออกไปขอร่วมเดินทางไปกับหมออัลเลนด้วย

หมออัลเลนมาหยุดที่บ้านหลังหนึ่ง บอกว่าจะมารักษาเจ้าของบ้านที่ป่วยหนัก ภรรยาของชายที่ป่วยรีบขอบคุณถามว่าจะรักษาอย่างไร เมื่อหมออัลเลนออกจากเกี้ยวบอกจะผ่าตัดให้เอง ภรรยาเจ้าของบ้านตกใจร้องว่าผีฝรั่งไม่ยอมให้รักษาสามีของตน หมออัลเลนบอกทุกคนว่าจะไม่ยอมถอยเด็ดขาด ภรรยาเจ้าของบ้านร้องโวยวายจนชาวบ้านแห่กันมาจำนวนมาก เมื่อเห็นว่าเป็นหมอฝรั่งก็รุมกันจับทั้งหมดมัดไว้ แต่เจ้าของบ้านเริ่มอาการหนักขึ้นร้องหาคนช่วย ฮวางจอง จึงตะโกนขอร้องให้ภรรยาอนุญาตให้ทำการรักษา


“โอ้ย ๆ แย่แล้ว ๆ พ่อเจ้าบองซัมกำลังจะตายแล้ว ฮือ ๆ ให้ผีฝรั่งรักษาก็ได้ เค้าบอกว่าจะเป็นใครมาก็ได้ แค่ช่วยให้เค้ารอดก็พอ”

“ถ้ายังปล่อยไว้อย่างนี้เค้าตายแน่ ให้โอกาสพวกข้าสักครั้งเถอะ ในเมื่อพวกเจ้าเฝ้าดูกันอยู่อย่างนี้ แล้วพวกข้าจะกินคนได้ยังไงกันเล่า ข้าพูดถูกใช่มั้ย?” ฮวางจอง กล่าว

“รีบหาทางช่วยเค้าทีเถอะ โธ่พ่อเจ้าบองซัม”

“ถ้าช่วยไม่ได้ล่ะ กล้าเอาชีวิตมาแลกได้มั้ยล่ะ? ว่าไง จะยอมแลกด้วยชีวิตมั้ย?” ชาวบ้านถาม

“จะเอาชีวิตเป็นเดิมพันไม่ได้” หมออัลเลน กล่าว

“ถ้างั้น มือข้างนึงเป็นไง”

“ถึง...ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ ผมคงทำอย่างนั้นไม่ได้หรอก”

“ฮะ ๆ ๆ งั้นเหรอ ถ้างั้น เจ้าเป็นตัวแทนได้ใช่มั้ย เจ้าชดใช้แทนเค้าก็ได้นี่ ทำไม ทำไม่ได้เหรอ คิดแล้วว่าต้องเป็นอย่างนี้ แค่ความเชื่อมั่นว่าจะ...ช่วยชีวิตได้ ยังไม่มีเลย”

“นี่เจ้าทำกับคนที่จะมาช่วยชีวิตคนอื่นอย่างนี้รึ?” โดยัง ถาม


“ข้าเดิมพันด้วยมือข้า” ฮวางจอง กล่าว

“มิสเตอร์ฮวาง ไร้สาระเกินไป”

“แต่ข้าเชื่อมั่นในตัวท่าน ถ้าช่วยเค้าได้ คนที่นี่ทั้งหมดจะได้เลิกเข้าใจผิดเจจุงวอนสักทีไงล่ะครับ”

“ใช่แล้ว พวกข้าจะยอมรับเจ้า ทุกคน เห็นด้วยรึเปล่า?”

“เห็นด้วย ๆ ๆ” ชาวบ้านหลายคนตะโกน

“แล้วถ้าไม่สำเร็จจะไปรับผิดชอบยังไง?”

“ท่าน ผ.อ.ต้องทำสำเร็จแน่ครับ” ฮวางจอง กล่าว

“มิสเตอร์ฮวาง ผมจะรักษาเอง”




 หมออัลเลนทำการผ่าตัดชายเจ้าของบ้านสำเร็จไปด้วยดี แต่คนป่วยยังไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นรู้สึกตัวขึ้น ชาวบ้านจึงกดดันฮวางจองให้รับโทษตามที่สัญญาเดิมพันไว้

เนื้อหา: เดลินิวส์ / ภาพจากละคร (เอสบีเอส)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา