วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

จูมง มหาบุรุษกู้บัลลังก์ ตอนที่ 1




ในปีที่ 108 ก่อนคริสตกาล อาณาจักรโกโชซอน (โชซอนโบราณ) ซึ่งอยู่ในระหว่างการทำสงครามขยายอาณาเขต ได้นำทัพข้ามเกาะฮันบันและที่ราบเหลียวตงเพื่อสู้รบกับหน่วยอาชาเหล็กอันแข็งแกร่งของราชวงศ์ฮั่น (ช่อง 3 เรียกว่าเทียนเฉา) หลังกรำศึกยืดเยื้อยาวนานหนึ่งปีอาณาจักรโกโชซอนก็ล่มสลาย เมื่อยึดครองแผ่นดินโกโชซอนได้แล้ว ราชวงศ์ฮั่นก็สถาปนา "4 เขตปกครองของราชวงศ์ฮั่น" บนดินแดนโกโชซอนเดิม ได้แก่ มณฑลนังนัง (นักรัง), ชินบอน, อินดุน และฮยอนโท ซึ่งเป็นมณฑลของราชวงศ์ฮั่นที่ตั้งขึ้นเพื่อปกครองราษฎรโกโชซอน

หลังถูกราชวงศ์ฮั่นกดขี่และปราบปราม ประชาชนโกโชซอนจึงพากันอพยพหลบหนี บ้างก็ลี้ภัยไปยังอาณาจักรหรือแคว้นอื่นๆ บ้างก็กลายเป็นคนร่อนเร่ไร้จุดหมาย ครั้นพอโดนข่มเหงมากๆ เข้าชาวโกโชซอนก็เริ่มรวมตัวกันต่อต้านโดยมี "แฮ โมซู" เป็นผู้นำ

ที่แคว้นพูยอ  ในเขตมณฑลฮยอนโท 



ผู้ว่าการมณฑลฮยอนโทได้จัดการประลองเพื่อคัดเลือกนักรบผู้กล้า โดยผู้ชนะจะได้รับอนุญาตให้ผ่านเข้าออกเมืองฉางอัน (เมืองหลวงของราชวงศ์ฮั่น) และยังได้ดาบนักรบผู้กล้า(ซึ่งเป็นของพระราชทานจากฮ่องเต้ราชวงศ์ฮั่น) เป็นรางวัลอีกด้วย ปรากฏว่าผู้ชนะการประลองในครั้งนี้คือ "องค์ชายกึมวา" รัชทายาทแห่งแคว้นพูยอ  (ซึ่งปลอมตัวมาเป็นจอมยุทธ) แต่แล้วอยู่ๆ แฮโมซูก็ปรากฏกายขึ้นและขอเข้าร่วมการประลองในครั้งนี้ด้วย ขณะประลองกับองค์ชายกึมวา แฮโมซูสบโอกาสลอบสังหารทูตของราชวงศ์ฮั่น หลังจากนั้นกองกำลังทาโมลที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มคนดูก็ออกมาโจมตีทหารฮั่น ขณะที่บางส่วนบุกไปช่วยเหลือผู้อพยพชาวโกโชซอนที่ถูกกักขัง

ทั้งหมดนี้เป็นแผนช่วยเหลือผู้อพยพของแฮโมซูและองค์ชายกึมวา หลังสังหารทูตของราชวงศ์ฮั่นได้แล้ว แฮโมซูก็เล็งธนูไปที่ผู้ว่าการ มณฑลฮยอนโท แต่เกิดพลาดเป้าเพราะถูกทหารฮั่นลอบโจมตีทางด้านหลัง โชคดีที่องค์ชายกึมวามาเห็นเข้าเสียก่อน แผนการทั้งคู่ยังไม่ทันสำเร็จองค์ชายกึมวาก็ถูกดาบอาบยาพิษของทหารฮั่นฟันเข้าที่แขน แฮโมซูเห็นทหารของราชวงศ์ฮั่นนำกำลังเสริมมาสมทบจึงส่งสัญญาณให้ทุกคนล่าถอย ระหว่างหลบหนีองค์ชายกึมวาตกจากหลังม้า แฮโมซูถึงได้รู้ว่าบาดแผลขององค์ชายลึกถึงกระดูกแถมดาบที่ทหารฮั่นใช้ยังอาบยาพิษอีกด้วย เนื่องจากองค์ชายกึมวายืนกรานว่าจะให้แฮโมซูรักษาและไม่ยอมเสด็จกลับวัง แฮโมซูจึงนำองค์ชายมารักษาที่ค่ายทาโมลของตน เมื่อเห็นองค์ชายทนทุกข์ทรมานระหว่างการรักษาแฮโมซูก็ถึงกับน้ำตาร่วงด้วยความสงสาร


"พระเจ้าแฮบูรู" (พระบิดาขององค์ชายกึมวาและผู้สถาปนาแคว้นดงพูยอ) ได้รับรายงานว่ามีผู้อพยพหลายร้อยคนจากมณฑลฮยอนโทหนีตายเข้ามาอยู่ในแคว้นพูยอ จึงรู้สึกพอพระทัยมากที่แฮโมซูทำให้แคว้นพูยอมีประชากรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะทำให้แคว้นพูยอยิ่งใหญ่และมีอำนาจมากขึ้น อำมาตย์ "พู ดึกบูล" ซึ่งเพิ่งกลับมาจากเมืองฉางอัน ไม่เห็นด้วยกับการที่พระเจ้าแฮบูรูให้การช่วยเหลือผู้อพยพ เพราะตอนนี้หน่วยอาชาเหล็กอันน่าสะพรึงกลัวของราชวงศ์ฮั่นได้เคลื่อนพลผ่านเหลียวตง และกำลังมุ่งหน้าไปยังมณฑลฮยอนโทเพื่อสกัดกั้นผู้อพยพชาวโกโชซอนที่หนีออกมาจากสี่มณฑล (ซึ่งเป็นเขตปกครองของราชวงศ์ฮั่นบนดินแดนโกโชซอนเดิม) หากพูยอยังคงช่วยเหลือผู้อพยพต่อไปอาจกระทบต่อความสัมพันธ์และถูกราชวงศ์ฮั่นรุกรานได้ แถมทูตที่เพิ่งถูกลอบสังหารยังเป็นคนสนิทของฮ่องเต้ราชวงศ์ฮั่นอีกด้วย พระเจ้าแฮบูรูแย้งว่าทหารของพูยอก็ใช้อาวุธที่ทำจากเหล็กเช่นกันจึงน่าจะรับมือหน่วยอาชาเหล็กของราชวงศ์ฮั่นได้ ดึกบูลชี้ว่าทหารพูยอใช้อาวุธที่ทำจากเหล็กหล่อซึ่งแข็งกว่าโลหะสัมฤทธิ์เพียงนิดเดียว แต่หน่วยอาชาเหล็กของราชวงศ์ฮั่นมีอาวุธประจำกายเป็นหอกที่ปลายแหลมทำจากทองแดง


อยู่ๆ หัวหน้าธิดาเทพก็ส่งคนมาทูลเชิญพระเจ้าแฮบูรูให้เสด็จไปที่ตำหนักเทพ ระหว่างทางพระองค์ได้พบกับองค์ชายกึมวาจึงรู้สึกแปลกใจที่องค์ชายกลับจากการเยี่ยมเยียนราษฎรเร็วผิดปกติ องค์ชายกึมวาทูลว่าตนตกจากหลังม้าเลยได้รับบาดเจ็บและสุขภาพไม่สู้ดี  พระเจ้าแฮบูรูได้ยินแล้วรู้สึกผิดหวังที่องค์ชายกึมวาซึ่งเป็นถึงองค์รัชทายาทแต่กลับมีร่างกายที่บอบบาง ขณะที่อำมาตย์ดึกบูลจ้องมององค์ชายเหมือนพยายามจับผิด หัวหน้าธิดาเทพ "ยอ มีอึล" ทูลพระเจ้าแฮบูรูว่า ตนได้พบเหตุการณ์แปลกประหลาดที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน อยู่ๆ ใจกลางพระอาทิตย์ของพูยอก็มีนกสามขาปรากฏแต่ไม่นานก็หายวับไป ปกติแล้วถ้าเป็นนกสองขาจะหมายถึงพระราชาและองค์ชายรัชทายาท แต่ตอนนี้กลับมีขาเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งข้าง ซึ่งตนเองก็ยังไม่แน่ใจว่าหมายถึงอะไร


ในขณะที่แฮโมซูและเหล่าทหารทาโมลวางแผนโจมตีทหารฮั่นในมณฑลฮยอนโท (ภายใต้การสนับสนุนด้านอาวุธจากองค์ชายกึมวา) ผู้ว่าการมณฑลฮยอนโทก็ตั้งรับด้วยการเรียกตัวแทนแคว้นและชนเผ่าต่างๆ ให้มาเข้าพบเพื่อวางแผนกวาดล้างกองกำลังทาโมลให้สิ้นซาก พูยอก็เป็นแคว้นหนึ่งที่ได้รับคำเชิญ องค์ชายกึมวาจึงอาสาไปทำหน้าที่แทนพระบิดา ทำให้ได้พบ "คุณหนูยูฮวา" บุตรสาวของหัวหน้าเผ่าฮาเบค (หรือฮาแบ) และ "ยางจอง" เพื่อนเก่าที่ไม่ได้พบกันนานนับ 10 ปี ซึ่งในอดีตเคยเป็นองค์ชายแห่งแคว้นเคมา หลังถูกราชวงศ์ฮั่นยึดครองแผ่นดิน ยางจองก็กลายเป็นทาส แต่ปัจจุบันกลับทำงานรับใช้ราชวงศ์ฮั่นในฐานะราชองครักษ์

ผู้ว่าการมณฑลฮยอนโทบอกตัวแทนแคว้นและเผ่าต่างๆ ว่า ใครก็ตามที่ช่วยเหลือแฮโมซูหรือให้ที่พักพิงแก่อพยพที่หลบหนีมาจากมณฑลฮยอนโทจะมีโทษถึงตาย แต่ถ้าใครสังหารหรือจับตัวแฮโมซูมาให้ตนจะได้รับการปูนบำเน็จจากฮ่องเต้  หลังจากนั้น ผู้ว่าการมณฑลฮยอนโทก็ทำการข่มขวัญด้วยการนำหน่วยอาชาเหล็ก (ที่บุกโจมตีและยึดครองโกโชซอนได้สำเร็จ) มาสังหารผู้อพยพที่หลบหนีออกจากมณฑลฮยอนโทอย่างเหี้ยมโหดต่อหน้าต่อตาทุกคน คุณหนูยูฮวาเห็นดังนั้นจึงลุกขึ้นประณามและขอให้ผู้ว่าการมณฑลฮยอนโทยุติการกระทำที่เหี้ยมโหด ผู้ว่าการมณฑลฮยอนโทชี้ว่าตนทำตามราชโองการของฮ่องเต้  จากนั้นก็สั่งให้ทหารนำตัวเธอไปขังคุกโทษฐานขัดพระบัญชา

 

องค์ชายกึมวารู้ว่ายางจองเป็นคนนำหน่วยอาชาเหล็กมาที่มณฑลฮยอนโท เมื่อยางจองบอกว่าฮ่องเต้ราชวงศ์ฮั่นมีพระบัญชาให้ตนมาจับตัวแฮโมซู องค์ชายกึมวาก็แย้งว่าแฮโมซูเป็นวีรบุรุษและความหวังของผู้อพยพที่ถูกราชวงศ์ฮั่นกดขี่ ยางจองเองก็เคยเป็นองค์ชายของดินแดนที่ถูกราชวงศ์ฮั่นช่มเหงเช่นกัน การที่เขามารับหน้าที่นี้จึงเป็นเรื่องไม่เหมาะสม แต่ยางจองไม่สนใจ เขากล่าวเพียงว่าเรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อแคว้นพูยอ ทั้งยังรับปากว่าจะคอยสนับสนุนและช่วยเหลือองค์ชายกึมวาอีกด้วย องค์ชายปฏิเสธทันควันโดยบอกว่าตนไม่มีทางยอมเป็นข้ารับใช้ของราชวงศ์ฮั่น ถึงกระนั้นองค์ชายก็ขอร้องยางจองให้ช่วยปล่อยตัวคุณหนูยูฮวา หลังคุณหนูยูฮวาถูกปล่อยตัว องค์ชายกึมวาคิดที่จะผูกมิตรด้วยการเดินทางจะไปส่งเธอที่เผ่าฮาเบค แต่คุณหนูยูฮวาปฏิเสธโดยบอกว่าเธอมีทหารติดตามมาด้วย

ลูกน้องของแฮโมซูรายงานเรื่องที่ผู้ว่าการมณฑลฮยอนโทเรียกตัวแทนแคว้นและเผ่าต่างๆ ไปพบ แถมยังนำหน่วยอาชาเหล็กมาข่มขู่และสังหารผู้อพยพโกโชซอนอย่างโหดเหี้ยมต่อหน้าต่อตาทุกคน โดยขู่ว่าหากใครไม่ให้ความร่วมมือในการจับแฮโมซูจะถูกสังหาร มิหนำซ้ำ พระเจ้าแฮบูรูแห่งพูยอยังยุติการให้ความช่วยเหลือและที่พักพิงแก่ผู้อพยพ แฮโมซูได้ยินดังนั้นจึงขอให้องค์ชายกึมวารีบส่งอาวุธมาให้พวกตนโดยเร็วที่สุด หลังได้อาวุธแล้วพวกตนจะเคลื่อนพลทันที (องค์ชายกึมวาเร่งผลิตอาวุธโดยไม่รู้ตัวว่าถูกอำมาตย์ดึกบูลคอยจับตาดูอยู่)

อำมาตย์ดึกบูลทูลพระเจ้าแฮบูรูว่าพระองค์ทรงตัดสินพระทัยได้ถูกต้องแล้วที่ทอดทิ้งผู้อพยพโกโชซอน เขาเชื่อว่านกสามขาที่หัวหน้าธิดาเทพพูดถึงน่าจะหมายถึงการปรากฏตัวของวีรบุรุษคนใหม่ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากแฮโมซู แม้ว่าในตอนนี้แฮโมซูจะมีเป้าหมายในการช่วยเหลือผู้อพยพเพียงอย่างเดียว แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาคิดก่อร่างสร้างอาณาจักรบรรดาผู้อพยพเรือนหมื่นเรือนแสนในพูยอก็พร้อมที่จะตามไปอยู่กับแฮโมซูอย่างไม่ลังเล ไม่แน่ว่าแฮโมซูอาจหลอกใช้พูยอให้ช่วยดูแลผู้อพยพชั่วคราวในระหว่างที่เขาออกทำศึกรวบรวมไพร่พล หลังจากนั้นก็ตั้งตนเป็นองค์จักรพรรดิเสียเอง และเพื่อเป็นการตัดไฟเสียต้นลมเขาจึงแนะนำให้พระเจ้าแฮบูรูกำจัดแฮโมซูทิ้งเสีย


อำมาตย์ดึกบูลเห็นเงาใครบางคนแอบฟังอยู่ทางด้านนอกจึงซัดมีดสั้นใส่แล้วรีบออกไปดู แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่าและมีคราบเลือดบนมีด เขาจึงสั่งทหารให้ออกค้นหา พระชายา "วอนฮู" ขอให้องค์ชายกึมวาช่วยปลอบขวัญองค์ชายแทโซซึ่งอยู่ในอาการตกใจหลังได้ยินเสียงทหารร้องตะโกนว่ามีผู้บุกรุก แต่องค์ชายกึมวาอ้างว่าตนยังมีเรื่องที่ต้องทำและเดินจากไปทันที (องค์ชายกึมวาได้รับบาดเจ็บเพราะถูกคมมีด และไม่รู้ว่าถูกอำมาตย์ดึกบูลสะกดรอยตามพระองค์สั่งให้คนของตนไปเตือนแฮโมซูให้ยกเลิกแผนโจมตีทหารฮั่นและรีบหาที่ซ่อนตัวก่อน แล้วพระองค์จะติดต่อกลับไปในภายหลัง แต่แล้วอยู่ๆ ชายคนดังกล่าวก็ถูกอำมาตย์ดึกบูลฆ่าตายต่อหน้าต่อตาองค์ชายกึมวา พอรู้ว่าอำมาตย์ดึกบูลล่วงรู้แผนการทุกอย่างของพระองค์  องค์ชายกึมวาก็ขู่ว่าจะเอาชีวิตอำมาตย์ดึกบูลหากความลับของพระองค์ถูกเปิดเผย อำมาตย์ดึกบูลไม่สนใจคำขู่และเตือนว่าหากองค์ชายฆ่าตน พระเจ้าแฮบูรูและแคว้นพูยอก็จะตายไปพร้อมกับตนด้วย

เมื่อรู้ว่าองค์ชายกึมวาแอบช่วยเหลือแฮโมซูอย่างลับๆ พระเจ้าแฮบูรูก็ชักดาบออกมาฟันเข้าที่ท้องขององค์ชายกึมวาด้วยความโกรธ และกล่าวว่าการทำเช่นนั้นจะนำภัยพิบัติมาสู่พูยอ องค์ชายกึมวาแย้งว่าแค้วนพูยอและแฮโมซูต่างก็เป็นชนชาติเดียวกัน หากฟาดฟันกันเองก็เท่ากับเป็นการทรยศประชาชน และวันหน้าถ้าพูยอตกอยู่ในอันตรายคงต้องยอมสวามิภักดิ์ต่อราชวงศ์ฮั่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ (เพราะไม่มีใครมาช่วย) พระเจ้าแฮบูรูชี้ว่าจะเอาอนาคตมาเสี่ยงกับความสงบสุขเพียงชั่วครู่ไม่ได้ เพราะพูยอยังไม่พร้อมที่จะต่อกรกับราชวงศ์ฮั่นในตอนนี้ หากเปิดศึกกันแคว้นพูยอคงล่มสลายเช่นเดียวกับโกโชซอน


องค์ชายกึมวาแย้งว่าสถานการณ๋ในตอนนี้ไม่เหมือนกับตอนที่โกโชซอนล่มสลาย เนื่องจากราชวงศ์ฮั่นในปัจจุบันกำลังเผชิญทั้งศึกในศึกนอกทำให้กองทัพอ่อนล้าและไม่แข็งแกร่งเหมือนเมื่อก่อน อำมาตย์ดึกบูลชี้ว่าแม้สิ่งที่องค์ชายกึมวาพูดจะเป็นเรื่องจริง แต่ตอนนี้มีทหารฮั่นถึง 3 ล้านคนตรึงกำลังอยู่ที่เหลียวตง นี่ยังไม่นับรวมหน่วยอาชาเหล็กที่แข็งแกร่ง แถมกองทัพฮั่นยังใช้อาวุธที่ทำจากทองแดงอีกด้วย องค์ชายกึมวาเสนอให้พูยอจับมือกับบรรดาแคว้นและชนเผ่าอื่นๆ ในการทำศึกกับราชวงศ์ฮั่น และคนเดียวที่จะทำให้แคว้นและชนเผ่าอื่นๆ ร่วมมือกันได้ก็มีเพียงแฮโมซู พระเจ้าแฮบูรูกลัวว่าจะถูกแฮโมซูหักหลัง แต่องค์ชายกึมวาเอาชีวิตตนเองเป็นประกัน และขอยอมตายหากต้องเลือกระหว่างพูยอและแฮโมซู พระเจ้าแฮบูรูได้ยินดังนั้นก็ถึงกับกระอักเลือด

เนื่องจากคนส่งข่าวถูกอำมาตย์ดึกบูลฆ่าตาย องค์ชายกึมวาจึงรีบเสด็จออกจากวังเพื่อไปเตือนแฮโมซูด้วยตนเองแต่กลับพบว่าพระองค์มาช้าเกินไป ในตอนนั้นแฮโมซูได้นำกำลังทหารทาโมลมาดักซุ่มโจมตีทหารของราชวงศ์ฮั่นตามแผน หลังได้รับรายงายว่ากองกำลังของพวกตนอยู่ห่างจากที่ตั้งของทหารฮั่น 10 ลี้ (5 กม.) และมีทหารฮั่นประจำการเพียง 50 กว่านายซึ่งน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ แฮโมซูก็สั่งให้ลูกน้องของตนนำกำลังไปดักซุ่มก่อนที่เรือขนผู้อพยพและอาวุธยุทโธปกรณ์จะเทียบท่า โดยให้ออกแบ่งกำลังเป็นสองกลุ่ม ส่วนตนและกำลังอีกส่วนหนึ่งจะเป็นทัพหน้าบุกเข้าไปก่อน ถ้าได้ยินสัญญาณจากตนเมื่อไหร่จึงค่อยบุกเข้าโจมตี

ปรากฏว่าแฮโมซูถูกลวงให้เข้าไปติดกับ เขาไม่รู้ว่าหน่วยอาชาเหล็กตรึงกำลังรออยู่ไม่ไกลนัก แฮโมซูยิงธนูใส่ทหารหน่วยอาชาเหล็กคนหนึ่ง แต่ธนูไม่อาจเจาะเสื้อเกราะของทหารคนดังกล่าวได้ แถมม้าของหน่วยอาชาเหล็กยังสวมเสื้อเกราะอีกด้วย แฮโมซูจึงใช้เสาธงฟาดขาม้าให้สะดุดล้มเพื่อจะได้จัดการกับหนว่ยอาชาเหล็กในระยะประชิด (หาโอกาสแทงใต้ชุดเกราะ)  แฮโมซูเห็นลูกน้องของตนโดนฆ่าตายคนแล้วคนเล่าจึงสั่งให้ถอยทัพ ทหารหน่วยอาชาเหล็กคนหนึ่งเห็นแฮโมซูกำลังต่อสู้กับคนของพวกตน จึงปาหอกซัดที่ปลายแหลมทำจากทองแดงใส่แฮโมซู ทำให้แฮโมซูถูกแทงเข้าที่ไหล่และพลัดตกลงไปในแม่น้ำต่อหน้าลูกน้องที่กำลังล่าถอย


องค์ชายกึมวานำกำลังค้นหาร่างของแฮโมซูตามหมุ่บ้านใกล้เคียงและแควน้ำต่างๆ เพราะเชื่อว่าแฮโมซูยังไม่ตาย ปรากฏว่าร่างของแฮโมซูลอยตามน้ำมาที่เผ่าฮาเบค คุณหนูยูฮวามาพบเข้าจึงช่วยเขาเอาไว้โดยไม่บอกให้บิดาซึ่งเป็นหัวหน้าเผ่ารู้  หลังหมดสติไปสามวันแฮโมซูก็รู้สึกตัวและขอให้คุณหนูยูฮวาช่วยหาม้ามาให้ คุณหนูยูฮวาปฏิเสธและขอให้แฮโมซูตอบแทนด้วยการแต่งงานหลอกๆ กับตน เพราะตนถูกพ่อบังคับให้แต่งงานกับผู้ชายที่ทั้งอ้วนและเนื้อตัวสกปรกราวกับหมูตอน เธอไม่รู้ว่าชายที่อยู่ตรงหน้าคือแฮโมซูจึงกล่าวว่า ถ้าเป็นผู้ชายอย่างแม่ทัพแฮโมซูเธอจะไม่ปฏิเสธสักคำ แม้เธอจะไม่เคยเห็นแฮโมซูมาก่อนแต่เธอก็หลงรักในความกล้าหาญของเขา ต่อให้อ้วนเป็นหมูหรือตาบอดข้างหนึ่ง แต่ถ้าเขาคือแฮโมซูเธอก็จะแต่งงานกับเขา แฮโมซูกล่าวว่า  "แฮโมซูเป็นบุคคลอันตราย คุณหนูไม่ควรพบเขาและไม่ควรตกหลุมรักเขาด้วย"

ในที่สุดหน่วยอาชาเหล็กก็บุกมาตามหาแฮโมซูที่เผ่าฮาเบคและเรียกทุกคนในเผ่ามารวมตัวกัน เมื่อค้นหาจนทั่วแล้วไม่เจอหัวหน้าหน่วยอาชาเหล็กจึงประกาศว่าแฮโมซูได้รับบาดเจ็บที่หัวไหล่ หากใครเจอคนแปลกหน้าลักษณะดังกล่าวแล้วมารายงานพวกตนจะได้รับรางวัล แต่ถ้าใครกล้าปกปิดหรือให้ที่ซ่อนแก่แฮโมซู ทุกคนในเผ่าจะถูกตัดหัว คุณหนูยูฮวาได้ยินดังนั้นจึงรีบกลับไปที่กระท่อมริมน้ำ คนสนิทของหัวหน้าเผ่านึกขึ้นได้ว่าตนเห็นคุณหนูยูฮวาอยู่กับชายแปลกหน้าจึงแนะให้หัวหน้าเผ่าไปแจ้งหน่วยอาชาเหล็กเพื่อรักษาชีวิตของทุกคน แฮโมซูโกหกคุณหนูยูฮวาว่าตนไม่ได้ชื่อแฮโมซู ทำให้คุณหนูยูฮวาแอบผิดหวัง แฮโมซูแอบได้ยินคุณหนูยูฮวาคุยกับสาวใช้ว่า เธอรู้ว่าการช่วยแฮโมซูจะทำให้ทุกคนในเผ่าตกอยู่ในอันตราย แต่เธอก็อดใจเต้นรัวไม่ได้เมื่อคิดว่าคนที่เธอช่วยเหลืออาจจะเป็นแฮโมซู

กลางดึกคืนนั้น หัวหน้าเผ่าฮาเบคพาหน่วยอาชาเหล็กมาบุกจับตัวแฮโมซูที่กระท่อมริมน้ำของคุณหนูยูฮวา แต่พอค้นจนทั่วกลับไม่เจอตัวแต่อย่างใด  ปรากฏว่าแฮโมซูแอบหนีไปโดยไม่บอกกล่าวเพราะไม่อยากให้คุณหนูยูฮวาและทุกคนในเผ่าเดือดร้อนเพราะตน

* เนื้อหาโดย luvasianseries / ภาพ captures จากเอ็มบีซีคลาสสิก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา