วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ทงอี จอมนางคู่บัลลังก์ ตอนที่ 1




เช้าตรู่ในปี ค.ศ. 1680 มีขุนนางใหญ่ถูกสังหาร เด็กน้อยทงอีที่ถูกจัดว่าเป็นสังคมชนชั้นล่างได้บังเอิญไปพบกับการตายของขุนนางใหญ่เข้า หลังจากมีการชันสูตรศพ ทางกองมือปราบเข้าใจว่าเป็นฝีมือของกลุ่มคองเก องค์กรของชนชั้นล่างที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ไม่ได้รับความยุติธรรม แต่ความเป็นจริงแล้วคดีนี้กลับเป็นฝีมือของหัวหน้ากลุ่มขุนนางฝ่ายใต้แทซุก ที่ต้องการจะป้ายสีความผิดไปให้กับกลุ่มคองเก

เนื้อเรื่อง:


เช้าตรู่ในปี ค.ศ. 1680 มีขุนนางใหญ่ถูกสังหาร เด็กน้อยทงอีที่ถูกจัดว่าเป็นสังคมชนชั้นล่างได้บังเอิญไปพบกับการตายของขุนนางใหญ่เข้า หลังจากมีการชันสูตรศพ ทางกองมือปราบเข้าใจว่าเป็นฝีมือของกลุ่มคองเก องค์กรของชนชั้นล่างที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ไม่ได้รับความยุติธรรม แต่ความเป็นจริงแล้วคดีนี้กลับเป็นฝีมือของหัวหน้ากลุ่มขุนนางฝ่ายใต้แทซุก ที่ต้องการจะป้ายสีไปให้

หญิงทงอีวิ่งแข่งกับเพื่อน ๆ และชังมัล ทงอีวิ่งซิกแซ็กไปตามทางลัดถนนในตลาดและถึงเส้นชัยก่อน แต่ถูกตัดสินให้แพ้ โดยหาว่าวิ่งผิดเส้นทาง ทงอีใช้ความฉลาดบอกว่าในกติกาไม่ได้บอกให้วิ่งในเส้นทางไหน ฉะนั้นตนเองก็ถือว่าไม่ผิด ทำให้ผู้หญิงหลาย ๆ คนถึงกับอึ้งในความฉลาดของเด็กหญิง แต่ก็ไม่วายตัดสินแบบข้าง ๆ คู ๆ ว่าชังมัลเป็นผู้ชนะ ทงอีและเพื่อน ๆ หน้าเสียเพราะไม่ได้กินขนมตามที่พนันกันไว้



ระหว่างที่ทงอีเดินมาตามทางบังเอิญไปเห็นการถูกสังหารของขุนนางใหญ่ผู้หนึ่งที่ทางราชการก็ทราบข่าวการถูกสังหารของผู้ตรวจการจางอิ๊กฮอน ท่านผู้ช่วยกรมราชทัณฑ์อีจูโฮ ผู้ช่วยกรมคลังฮันจองซูก็ถูกฆาตกรรม โดยพบศพที่อันกุ๊กตงและเคตง

ทงอีดูทางราชการมาเก็บศพและเห็นว่าทำไม่ถูกต้อง “ศพแช่น้ำมาก็ต้องใช้ผ้าฝ้ายห่อสิ ทำไมเค้าถึงใช้เสื่อล่ะ นี่ แบบนี้หลักฐานก็ถูกทำลายหมดสิ แล้วนั่นยังทำรองเท้าศพหล่นอีก”

“ยัยคนนี้ มัวบ่นพึมพำอะไรตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว”

 “ข้าขอโทษค่ะ ข้าก็แค่เห็นว่าที่พวกท่านทำมันไม่ค่อยถูกน่ะ ก็ศพนั่นแช่น้ำมา ตำรานิติเวชบันทึกไว้ว่าศพที่แช่น้ำมาควรจะห่อด้วยผ้าฝ้าย ท่านดูสิ มือเท้าเริ่มจะเหี่ยวย่นแล้ว ถ้าอากาศอุ่น เดี๋ยวก็จะขึ้นเป็นตุ่มใส”

 “หุบปากไปเลย เด็กจะไปรู้อะไร”

 “เด็กคนนั้นพูดถูก ไม่ได้เรื่องเลย เป็นมือปราบแต่เรื่องแค่นี้กลับไม่รู้ รีบทำตามที่เด็กคนนั้นบอกไปเอาผ้าฝ้ายมาห่อศพ” มือปราบจางตวาด พนักงานรีบรับคำ



“เด็กน้อยคนนี้ฉลาดจังแฮะ เรื่องพวกนี้ไปได้ยินมาจากไหน?” จงคูมองทงอีเอ็นดู

 “คือว่าพ่อของข้า ทำงานเป็นสัปเหร่อเก็บศพค่ะใต้เท้า”

 “เด็กนี่คือคนที่พบท่านผู้ตรวจการคนแรกใช่มั้ย?” ผู้ตรวจการจางถาม

 “ขอรับ คนนี้แหละขอรับ”

“ตอนนี้เจ้าตั้งใจฟังให้ดีนะ ถ้าเจ้าสามารถให้ข่าวที่เป็นประโยชน์กับข้า ข้าจะให้รางวัลเจ้าอย่างงามเลย”

 “อะไร รางวัลเหรอ?” ทงอีตาโต

 “ถูกต้อง  ข้าจะให้เงินกับเจ้าห้าพุน ดังนั้นเจ้าห้ามปิดบังแม้แต่นิดเดียว เข้าใจรึเปล่า ตอนที่เจ้าเจอใต้เท้าน่ะ เค้ายังมีชีวิตอยู่จริงรึ?”

 “ค่ะใต้เท้า แถมเค้ายังพูดอะไรด้วย”

 “เค้าพูดว่าอะไร เค้าพูดกับเจ้าว่าอะไร?” มือปราบจางรีบถาม

“คือแบบว่า…คือมันเป็นอย่างนี้ หนูไม่ได้ยินเสียงอะไร เค้าแค่ขยับปากเท่านั้นเอง”

 “อะไรของเจ้า ตกลงเค้าได้พูดหรือไม่ได้พูด”

 “เหมือนเค้าพูดอะไรบางอย่าง แต่ได้ยินไม่ชัด”

 “เฮ้อ ผิดหวังชะมัดเลย หลงดีใจเสียแทบแย่”

“ใต้เท้าคะ หมายความว่าข้าจะไม่ได้รางวัลเหรอคะ” ทงอีถามหน้าเจื่อน ๆ

 “หุบปากเลย รางวัลอะไรล่ะ ข้าไม่เห็นได้ข้อมูลอะไรสักอย่าง หึ”


ผู้ช่วยซอเรียกมือปราบจางและจงคูมา สอบถามความคืบหน้าคดีสังหาร แต่ไม่ได้อย่างใจจึงสั่งให้ปลดจงคูจากนายกองมือปราบเป็นเพียงมือปราบธรรมดา และผู้ช่วยซอจะลงไปดูคดีเอง

ทงอีมาบอกทงจูพี่ชายว่าเห็นคนตาย ทงจูแปลกใจที่น้องสาวเป็นหญิงแท้ ๆ แต่กลับไม่กลัวอะไรเยี่ยงชาย ทงอีบอกเห็นยอวอนผู้เป็นพ่อชันสูตรศพมาหลายครั้งแล้วจึงไม่กลัว ทงจูบอกพ่อเรื่องน้องสาวเก่งกล้าสามารถเอาชนะผู้ชายได้ทั้งที่เป็นหญิง

 “เป็นเด็กผู้หญิงแล้วยังไงล่ะ เป็นวัวมีแรงเยอะแล้วมันเป็นใหญ่ได้รึไง มันต้องมีสมองด้วย”

“ใช่ ถูกแล้ว ทงอีพูดถูกแล้ว ขอแค่เก่งซะอย่างเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ไม่สำคัญ ฮะ ๆ ๆ ๆ ๆ” ยอวอนสอนลูกทั้งสองคน


“แต่ก็ควรจะเป็นกุลสตรี ถึงไม่ได้เป็นคนกล่าวอวยพรปีใหม่เนี่ย”

 “ไม่ใช่นะ ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย”

 “อะไรนะ กล่าวอวยพร?” ยอวอนอุทานอย่างแปลกใจ

 “ขอรับท่านพ่อ ปีใหม่เค้าจะคัดเลือกเด็กใส่ชุดผ้าไหมไปอวยพรปีใหม่ตามบ้านชนชั้นสูง”

 “อ้อ จริงสิ ครั้งนี้เจ้าต้องไปอวยพรที่บ้านผู้ช่วยเจ้ากรมนี่”

“ค่ะ แต่ข้าไม่ได้รับคัดเลือกเพราะปีนี้เค้าเลือกพวกสามัญชนที่อยู่ในบ้านมาอวยพร ชั้นล่างเลยไม่มีสิทธิ ข้าเองก็อยากใส่ชุดผ้าไหมเหมือนกัน จริงสิ ท่านพ่อพี่ชาย ลองชิมนี่ดูสิ”

“หา นี่มันขนมยักกวานี่”

 “ค่ะ ขนมพวกนี้เกือบจะถูกชังมัลแย่งเอาไปแล้วด้วย ไม่รู้ว่าจะหวานอร่อยแค่ไหน ลองชิมดูสิ”

 “เป็นของแพงมากเลยนะ” ยอวอนมองหน้าลูกสาว “แหม พี่มีลาภปากเพราะได้ใบบุญน้องแท้ ๆ”

พ่อลูกกินขนมกันอย่างเอร็ดอร่อย เพราะปกติไม่เคยได้กินอะไรดี ๆ กับเขา ยอวอนคุยให้ลูกฟังว่าตอนนี้บรรยากาศในเมืองหลวงกำลังแย่ เพราะมีขุนนางใหญ่ของกลุ่มทางใต้ถูกฆ่าหลายคน ทงอีทำถุงผ้าเครื่องรางเล็ก ๆ ให้พ่อ โดยขอให้พ่อพกติดตัวไว้ตลอดเวลา


ผู้ช่วยซอไม่มีคนที่ชันสูตรศพเก่ง ๆ จึงมาตามหายอวอน ยอวอนเห็นผู้ช่วยซอก็แปลกใจเพราะไม่ได้เจอกัน 5 ปีแล้ว “ฮะ ๆ ๆ ข้าเป็นผู้บัญชาการกองปราบนะ ขอแค่ข้าต้องการ จะหามือชันสูตรไม่ยากหรอก แต่ว่า ทำไมตอนนั้นเจ้าถึงหายไปโดยไม่บอกลา ข้ารู้สึกผิดหวัง จนอยากจะตามเจ้ากลับมาถามว่าเพราะอะไร แต่คิดว่าเจ้าทำแบบนี้ ก็คงจะมีเหตุผลของเจ้าอยู่”

 “ใต้เท้า ฐานะของท่านไม่ควรจะมาคบค้ากับชนชั้นต่ำ ท่านทำแบบนี้ จะทำให้ท่านเสื่อมเสียชื่อเสียงได้นะขอรับ”

 “เจ้าเห็นข้าเป็นคนที่หลงใหลกับชื่อเสียงอย่างนั้นรึ จริงอยู่ เจ้าเป็นชนชั้นต่ำ แต่ในใจข้า เจ้าเป็นอาจารย์ที่ดีที่สุดของข้าเสมอ” ผู้ช่วยซอกล่าว อย่างชื่นชม

ผู้ช่วยซอให้ยอวอนมาช่วยชันสูตรศพกลางดึก ข่าวรู้ถึงหูมือปราบจางและจงคูทำให้ทั้งสองแปลกใจที่ผู้ช่วยซอให้สัปเหร่อชั้นต่ำมาชันสูตร ยอวอนบอกการตายของขุนนางทั้ง 3 คนเกิดจากการถูกแทงเพียงดาบเดียว ด้วยดาบสองคม แต่ถูกที่สำคัญจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย

 “คิดว่าสถานที่ฆาตกรรมอยู่ไหน?” ผู้ช่วยซอถาม

 “จุดที่พบศพสองศพน่าจะเป็นจุดที่ผู้ตายถูกสังหารแต่ผู้ตรวจการ ข้าคิดว่าน่าจะถูกสังหารที่อื่นขอรับ”

“ใช่แล้ว พวกเค้าก็พูดกันแบบนั้น แต่ก็มีข้อมูลแค่นี้เท่านั้น ในบรรดาคนพวกนั้น ไม่มีใครวิเคราะห์จุดเกิดเหตุได้เลยสักคน”

 “หัวหน้าขอรับ ศพลอยตามกระแสน้ำมา ตรวจศพจะรู้ที่เกิดเหตุได้ยังไง” มือปราบจางติง

“เพราะอย่างนี้แหละ ข้าถึงต้องเรียกพวกเจ้ามาดูกับตาตัวเอง ท่านผู้ตรวจการถูกฆ่าที่ไหนกันแน่” ผู้ช่วยซอหันไปถามยอวอน


“ใต้เท้า เค้าเป็นแค่สัปเหร่อชั้นต่ำ จะวิเคราะห์จุดเกิดเหตุได้ไง..” มือปราบจางมองแบบไม่ค่อยเชื่อถือนัก

“เค้าน่าจะถูกฆ่า บริเวณท่าน้ำซัมบันขอรับ ผู้ตรวจการชอบไปตกปลาที่นั่นตอนเช้ามืด” ยอวอนบอก

“เหตุผลแค่นี้เหรอที่ทำให้บอกว่าเป็นที่นั่น ท่าตกปลาในเมืองหลวงมีตั้งหลายร้อยที่” มือปราบจางติง

“แต่ว่าที่จะตกได้ปลาน้ำแข็งมีไม่ถึงสิบที่ และข้าก็พบเกล็ดปลาน้ำแข็งที่มือผู้ตาย อีกอย่าง คนที่บาดเจ็บขนาดนี้ถ้าตกแม่น้ำในฤดูหนาว ก็น่าจะเสียชีวิตไปก่อนที่ถูกน้ำซัดเข้ามา แต่ถ้าตอนนั้นเค้ายังไม่สิ้นใจ แปลว่าน้ำที่พัดพาท่านผู้ตรวจการมาคงจะต้องเป็นน้ำอุ่น”

“เป็นกระแสน้ำอุ่นรึ?” ผู้ช่วยซออุทาน

“ขอรับ  วันนี้บริเวณทางใต้ของแม่น้ำมีกระแสลมตะวันออกพัดเข้ามา ทำให้อากาศอุ่นขึ้น แสดงว่าผู้ตรวจการตกปลาน้ำแข็งอยู่ทางใต้ของแม่น้ำ บวกกับกระแสน้ำฤดูนี้จะเร็วสิบลี้ต่อสองชั่วยาม ถ้าหากลองคำนวณจากตรงนี้ น่าจะมีแค่ท่าน้ำซัมบันเท่านั้นขอรับ”

ผู้ช่วยซอพยักหน้า ก่อนจะสั่งการ “ไปตรวจสอบที่นั่นเดี๋ยวนี้ ใช่ ต้องเป็นที่นั่นแน่ ๆ”


ผู้ช่วยซอชักชวนยอวอนมานั่งดื่มด้วยกัน ผู้ช่วยซอชื่นชมฝีมือของยอวอนที่ไม่เคยเปลี่ยน ยอวอนสังเกตอาการของผู้ช่วยซอและถามตรง ๆ ว่าผู้ช่วยซอคงจะเดาออกว่าฝีมือสังหารขุนนางครั้งนี้เป็นใคร และเชื่อว่าสถานที่และการตายผู้ช่วยซอก็คงคาดคะเนได้เช่นกัน ผู้ช่วยซอหน้าขรึมลงพยักหน้ารับและว่า คนพวกนั้นอาจเป็นคนที่เขาตามมานานแล้ว

ผู้ช่วยซอมาบอกแทซุกว่าเขาอาจเป็นเป้าหมายการสังหารคนต่อไป และอยากจะป้องกันไว้ก่อน

 “ท่านคิดว่านี่เป็นขบวนการที่ต้องการสังหารสมาชิกฝ่ายใต้ หรือว่า..เรื่องนี้จะเป็นฝีมือกลุ่มตะวันตกที่เป็นคู่แข่งของเรา ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงข้าจะไม่มีวันยอมปล่อยให้ฆาตกรกำจัดศัตรูทางการเมืองด้วยวิธีที่ต่ำช้าขนาดนี้โดยเด็ดขาด”

 “นี่ไม่ใช่ฝีมือของกลุ่มตะวันตกขอรับ การสังหารชนชั้นสูงในครั้งนี้ น่าจะเป็นฝีมือกลุ่มอื่น เอ่อ ใต้เท้าเคยได้ยินชื่อคอมเกบ้างรึเปล่า? องค์กรลับที่พวกชนชั้นต่ำในเมืองหลวงตั้งขึ้น มีชื่อว่าคอมเก ข้าคิดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นฝีมือของคนพวกนั้น” ผู้ช่วยซอกล่าว

ผู้ช่วยซอออกคำสั่งให้มาจับกุมพวกคอมเก และคิดว่าพวกทาสเป็นพวกเดียวกับคอมเก ทงจูก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคอมเก ทหารจับชาวบ้านในหมู่บ้านของยอวอนไปหลายคน ยอวอนแปลกใจจึงมาถามผู้ช่วยซอ ผุ้ช่วยซอบอกว่าติดตามกลุ่มคอมเกมาหลายปี พวกนี้ชำนาญการใช้ดาบและคอยช่วยเหลือทาสให้หลบหนีมาตลอด ยอวอนว่าเรื่องนี้ไม่น่าเกี่ยวกับการฆ่าชนชั้นสูง ผู้ช่วยซอบอกว่าจุดที่ผู้ตรวจการถูกฆ่าเป็นจุดเดียวกับมือปราบที่ตามจับทาสถูกคอมเกทำร้าย อีกทั้งมีหลักฐานวัตถุชี้ชัด

แทซุกมาหาโฮยอนผู้เป็นลุง สองลุงหลานพูดถึงแผนการของตนเอง ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว แทซุกและโฮยอนเป็นคนสั่งฆ่าพวกเดียวกัน เพราะขุนนางเหล่านี้อยู่ในตำแหน่งมานานเกินไป ซึ่งจะขัดขวางความก้าวหน้าของตนเอง จึงสังหารเสียและโยนความผิดไปให้พ้นตัว


 

เพื่อต้องการช่วยเหลือเพื่อน ทงอีจึงเอาป้ายประจำตัวที่เก็บได้ตอนที่พบศพขุนนางเพื่อจะไปให้มือปราบจาง ซึ่งป้ายนั้นคือป้ายประจำตัวจางยอกตอนที่สังหารขุนนาง โฮยอนรู้เรื่องเข้าก็โกรธมากที่จางยอกทำพลาดทิ้งหลักฐานไว้ และให้จางยอกไปชิงป้ายกลับมาโดยเร็วก่อนที่จะตกไปถึงมือฝ่ายตรงข้าม

ผู้ช่วยซอพบทงอีที่หน้าห้องชันสูตรจึงพาตัวมาพบยอวอน  ยอวอนแปลกใจที่เจอลูกสาว ผู้ช่วยซอเห็นป้ายในมือทงอีจึงเริ่มคิดว่าตนเองคิดผิด ทงอีบอกว่าก่อนตายผู้ตรวจการพยายามทำมือบอกบางสิ่งบางอย่าง ทงอีทำมือให้ผู้ช่วยซอดู

“เรื่องนี้ ต้องเกี่ยวกับขุนนางในราชสำนักแน่ ท่านผู้ตรวจการอาจต้องการบอกเรื่องนี้ก็ได้”

“ข้าจะทำอย่างเต็มกำลังขอรับ”

“งั้นก็ฝากเจ้าด้วย เจ้ากับลูกสาวได้ทำประโยชน์อย่างมาก ขอบใจพวกเจ้ามาก”


ระหว่างเดินทางกลับบ้านทงอีได้พบกับคิมฮวัน คิมฮวันซึ่งมีญาณพิเศษรู้สึกว่าจะเกิดอันตราย กับทงอี จึงขอให้ทงอีเดินอ้อม อย่าใช้เส้นทางเดิม และให้เดินในจุดที่คนพลุกพล่าน ทงอีขอบคุณและเดินจากไป

“เฮ้อ สงสัยตบะของข้ามันคงจะเสื่อมหมดแล้ว ทำไมข้าถึงมองเห็นราศีของผู้สูงศักดิ์อย่างไม่เคยเห็นในตัวของเด็กชนชั้นล่างคนนั้นได้ เฮ้อ ไม่อยากจะเชื่อ” คิมฮวันบ่น

กลุ่มแทซุกส่งคนมาทำร้ายยอวอนที่หมู่บ้าน ยอวอนทราบในทันทีว่าทงอีกำลังอยู่ในระหว่างอันตราย จึงให้ทุกคนตามหาทั่วหมู่บ้านแต่ก็ไม่พบ ด้านทงอีก็กำลังเผชิญหน้ากับชายแปลกหน้า

เชยอวอนเรียกประชุมด่วนกลุ่มคอมเก

* ข้อมูลจากเดลินิวส์ / ภาพ captures จากละครเอ็มบีซี

หมายเหตุ: ละคร "ทงอี จอมนางคู่บัลลังก์" ถูกนำกลับมาฉายใหม่อีกครั้ง ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.00-13.00 น. และ 19.15-20.15 น. ทางช่อง 3 แฟมิลี่  (ยกเว้นเย็นวันศุกร์ สามารถรับชมได้ในเวลา 19.00-20.00น.) ออกอากาศตอนแรกวันอังคารที่ 28 กรกฎาคม 2558 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา