วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ทงอี จอมนางคู่บัลลังก์ ตอนที่ 16




ทงอีไปพบกับคณะทูตต้าชิง เพื่อขอเวลาพิสูจน์ความจริงว่าทั้งหมดเป็นแผนของคิมยูนดัล ภายหลังชอนซูได้ช่วยให้คิมยูนดัลถูกกองปราบจับตัว ทำให้ทงอีรอดจากคดีนี้ไปได้

เนื้อเรื่อง:

ทงอีมาพบกับคณะทูตต้าชิง ก่อนจะถูกจับตัวก็พูดขอร้อง


“ข้าน้อยมีเรื่องอยากคุยกับท่าน แค่ครู่เดียวเท่านั้น เรื่องนี้มีความสำคัญมากค่ะ  ข้าน้อยขอ..  ขอเวลาอธิบายเพียงนิดเดียวเท่านั้น ที่จริงแล้วเรื่องนี้เป็นกับดัก เป็นอย่างที่ท่านว่าจริง ๆ เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นแผนของบางคนที่คิดจะใส่ร้าย  ข้าน้อย ข้าน้อยมาที่นี่ก็เพื่อจะมาพูดเรื่องนี้”

 “หุบปากซะ มาพูดไร้สาระอะไรอีก  เอาตัวนางไปเดี๋ยวนี้”

 “ช้าก่อน เจ้าบอกว่านี่เป็นกับดัก  แปลว่า เจ้าคิดจะมายอมรับผิดกับข้างั้นรึ?” ทูตต้าชิง ถามทูตต้าชิง ให้คนพาทงอีมาพบเพื่อสอบถาม

 “นั่งลงสิ  คดีนี้มีการวางแผน และเป็นกับดักจริง ๆ เมื่อกี้เจ้าบอกข้าแบบนี้ใช่มั้ย?”

 “ค่ะ เป็นอย่างนั้นค่ะ”

 “ถ้างั้นก็ดี  ไหนเจ้าลองบอกซิ ว่ามันเป็นยังไง”

 “ข้าน้อยอยากล่วงเกินถามบางอย่างกับท่านสักหน่อย?”

 “ถามข้ารึ?”

“ค่ะ ทำไมท่านถึงเรียกร้อง ให้โชซอนส่งตัวข้าน้อยให้ท่านคะ? หรือการตายของคิมยูนดัลในครั้งนี้จำเป็นต้องมีใครสักคนมารับผิดชอบใช่มั้ยคะ? เพราะหลังจากกลับถึงต้าชิง ท่านจำเป็นต้องมีคำตอบให้บ้านเมืองท่าน”

 “อะไรนะ เจ้าเด็กคนนี้กล้ามาสรุปเองงั้น รึ  ข้าเป็นขุนนางต้าชิง จำเป็นต้องให้ส่งตัวนางในเพียงเพื่อหาข้ออ้างให้ตัวเองรอดงั้นรึ?”

 “ไม่ใช่อย่างนั้นเจ้าค่ะ  ที่ข้าน้อยพูดไปไม่ได้มีเจตนานั้นเลย”

 “หุบปากซะ”

 “ท่านโปรดฟังข้าน้อยให้จบก่อนจะได้มั้ยคะ เมื่อครู่ ที่ข้าน้อยพูดออกไปอย่างนั้น ถ้าท่านไม่ได้ทำเพื่อมีข้ออ้าง งั้นก็ขอให้ใต้เท้าจับกุมคนที่วางกับดักและแผนชั่วครั้งนี้ไปด้วยค่ะ”

 “หะ  คนผิดตัวจริงรึ?”

 “ค่ะใต้เท้า”

 “ก็ดี  แล้วมันเป็นใคร เจ้ารีบบอกข้ามาสิ”

 “คนนั้นคือ คิมยูนดัลที่ยังมีชีวิตอยู่”

 “หะ คิมยูนดัลยังมีชีวิตอยู่เหรอ?”

 “ค่ะ  ที่จริงแล้วคิมยูนดัลยังไม่ตาย  เค้ายังมีชีวิตอยู่  ดังนั้น  คนที่ใต้เท้าควรจับควรเป็นเค้า”

 “นี่เจ้าพูดเรื่องอะไรกันแน่  คิมยูนดัลยังมีชีวิตอยู่รึ เลวมาก ข้าว่าเจ้าชักจะกำเริบมากไปแล้ว  คิมยูนดัลยังไม่ตาย เจ้าคิดจะใช้เรื่องโกหกมาหลอกข้าอย่างนั้นรึ?”

 “คนที่หลอกลวงใต้เท้าไม่ใช่ข้าน้อย แต่เป็นคิมยูนดัลต่างหากเจ้าค่ะ ข้าน้อยได้เห็นศพของคนตายคนนั้น ความจริง ศพนั้นไม่ใช่ใต้เท้าคิมยูนดัลเจ้าค่ะ”

 “อะไรนะ เจ้าเห็นศพรึ?”

 “ค่ะ ศพนั้นถูกเก็บอยู่ในห้องชันสูตรของศาล ข้าเป็นนางในฝ่ายตรวจการ ได้รับคำสั่งผู้บัญชาการกองปราบ ให้ไปยืนยันศพเจ้าค่ะ”

 “อืม  เชิญตามข้ามา”

 “ศพนั้นเป็นศพคนอื่น ไม่ใช่ศพใต้เท้าคิมยูนดัลจริง ๆ ค่ะ” ทงอี กล่าว

 “หุบปากนะ  ศพคิมยูนดัลศาลโชซอนกับคณะทูตได้ตรวจศพยืนยันแล้ว  ข้าแน่ใจว่านั่นคือคิมยูนดัล  แล้วเจ้าเอาอะไรมาบอกว่าศพนั้นไม่ใช่คิมยูนดัลหา?” ทูตต้าชิงถาม

 “คนตายตกมาจากหน้าผา หน้าตาจึงเละไปหมดจนจำหน้าเดิมไม่ได้เลย อย่างนี้ จะแน่ใจได้ยังไงว่าเป็น
คิมยูนดัลคะ?”

 “แล้วถ้าเป็นอย่างนั้น  เจ้ามีหลักฐานอะไรยืนยันว่าคนคนนั้นไม่ใช่คิมยูนดัล?”

 “มี ข้าน้อยมีค่ะ ข้าน้อยเจอเค้าที่เรือนรับรอง  เค้าใช้ยามันบองโชอยู่ตลอด  แปลว่า  ใต้เท้าคิม เค้าเป็นโรคด่างขาวอยู่เจ้าค่ะ”

 “คิมยูนดัล เป็นโรคด่างขาวอยู่งั้นรึ?”

 “ค่ะ  คนที่เป็นโรคด่างขาว ที่ลิ้นและฟันจะมีรอยด่างขาวอยู่  แต่ว่า..ที่ลิ้นของศพไม่ได้เป็นอย่างนั้น  ก็เพราะว่า  ศพนั้นไม่ใช่คิมยูนดัลเจ้าค่ะใต้เท้า อีกอย่างด้านหลังศพ ยังมีรอยถูกมีดฟันเป็นรอยลึกอยู่ด้วย เป็นรอยที่เป็นสาเหตุของการตาย  รอยนั้นเกิดขึ้นก่อนกระดูกคอและกระดูกสันหลังจะหักเพราะตกหน้าผาสี่ห้าวัน แสดงว่ามีคนฆ่าเค้าด้วยดาบก่อนที่จะอำพรางศพด้วยการทิ้งลงมาจากหน้าผา”

 “เจ้ารู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง?”

 “พ่อของข้าน้อย เป็นคนชันสูตรศพมาก่อน  คิมยูนดัลกำลังจะถูกเปิดโปง  เลยจัดฉากฆ่าตัวตายปิดบังการหลบหนี  ตอนนี้คนที่หลอกลวงต้าชิง ไม่ใช่ข้าน้อยหรือว่าโชซอน  แต่น่าจะเป็น คิมยูนดัลต่างหากค่ะ ดังนั้นท่านต้องจับเค้าให้ได้  ข้าน้อยเสี่ยงมาที่นี่ก็เพื่อจะมาบอกเรื่องนี้  ดังนั้นข้าน้อย อยากจะขอเวลาสักหน่อย ห้าวัน ไม่ก็สามวันก็ได้ค่ะ ขอแค่ท่านยอมให้  ข้าน้อยจะตามหาตัวคิมยูนดัลเพื่อพิสูจน์ว่าเป็นกับดัก” ทงอี กล่าว

พระเจ้าซุกจงเรียกประชุมขุนนางเพื่อให้ช่วยเหลือทงอี แต่ขุนนางส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกลัวต้าชิงไม่พอใจจนทำให้เกิดสงครามขึ้นได้
 ฮีเจ มาบอกชอนซูว่ามีคนรู้จักจะออกจากเมืองหลวงให้ช่วยหาเที่ยวเรือให้ จากนั้นก็ขอให้ชอนซูช่วยทำอะไรสักอย่าง แต่เมื่อพร้อมแล้วจะบอก ตอนนี้ให้ชอนซูกลับไปรอรับคำสั่ง

ทูตต้าชิง ให้คนพาทงอีมาพบอีกครั้ง บอกว่าเชื่อในคำพูดของทงอี โดยจะให้เวลา 3 วัน ในการหาหลักฐานมาพิสูจน์ให้เห็น โดยเรื่องที่ได้รับการปล่อยตัวจะต้องเป็นความลับ

 “ข้าแค่ไม่อยากให้คดีนี้มีความคลุมเครือใด ๆ อยู่ ดังนั้นเจ้าต้องจำไว้ ถ้าเจ้าไม่สามารถพิสูจน์ในสิ่งที่เจ้าพูดมาได้ เจ้าจะต้องได้รับโทษอย่างเจ็บปวด ฐานที่เจ้าดูแคลนต้าชิง  เข้าใจรึยัง?”

 เมื่อได้รับการปล่อยตัวทงอีมาหาชอนซู แต่ไม่พบ จึงเดินทางไปหาจองซังกุง


 “นี่มันเรื่องอะไรกัน เจ้าออกจากเรือนรับรองได้ยังไง ในเมื่อเจ้าเจอหลักฐานพวกนั้นที่ห้องเก็บศพ ก็ควรมาปรึกษาพวกข้าก่อน ทำไมถึงได้ตัดสินใจเองคนเดียวล่ะ?”

 “ต้องขอโทษด้วยค่ะ เพราะห่วงว่าจะทำให้ฝ่ายตรวจการต้องมาเดือดร้อนเพราะข้าอีก อีกอย่างข้าก็ ไม่แน่ใจว่าหัวหน้าคณะทูตจะยอมเชื่อมั้ย?”

 “แล้วถ้าหากเค้าไม่เชื่อเจ้าก็จะยอมถูกคุมตัวไปต้าชิงน่ะเหรอ”

 “จะเป็นไปได้ไง ตอนนี้ข้าก็อยู่ที่นี่แล้วนี่คะ ฮิ ๆ ที่จริงข้าเองก็รู้สึกกลัวมากเลย แต่ต่อหน้าขุนนางต้าชิงข้าพูดด้วยความเชื่อมั่น อย่างนี้ เค้าถึงได้เชื่อข้าไงล่ะคะ”

“ไม่รู้จะทำยังไงกับเจ้าแล้ว ทำไมเอาแต่ทำให้คนอื่นเป็นห่วงนะ”

 “ขอโทษด้วยค่ะท่านซังกุง”

 “แต่จะว่าไปแค่สามวัน เวลามันน้อยเกินไป  เวลาแค่นี้เราจะทำอะไรได้  ถ้าต้องการพิสูจน์ความจริงจะต้องจับตัวของคิมยูนดัลกลับมาให้ได้”

 “เรื่องนี้ข้าน้อย ขอให้ใต้เท้าซอจากกองปราบช่วยจัดการแล้ว”

 “ขอกับใต้เท้าซอเหรอ?”

 “ค่ะ ใต้เท้าซอเองก็สงสัยในการตายของคิมยูนดัลเป็นทุนอยู่แล้ว ท่านก็เลยยอมเชื่อข้าน่ะ”

 “งั้นก็เถอะ ถึงใต้เท้าซอเป็นคนเก่งแค่ไหน ก็ไม่แน่ว่าจะจับตัวคิมยูนดัลมาได้”

 “ดังนั้น ถ้าเราจับคิมยูนดัลไม่ได้ในสามวัน  ยังมีอีกเรื่องที่เราต้องพิสูจน์ให้แน่ใจ”

 “เรื่องอะไร?”

 “ก็คือเรื่องของจดหมายลาตายที่คิมยูนดัลเขียนเอาไว้ค่ะ” ทงอี กล่าว “จดหมายเหรอ?”

ทงอี เดินทางไปพบซอ เพื่อขอให้ช่วยเรื่องทูลพระเจ้าซุกจง และขอกำลังทหาร


“แค่บอกว่าคิมยูนดัลไม่ตายยังเชื่อไม่ได้ ถ้าจะกราบทูลเรื่องนี้กับพระราชา และทูลขอทหาร เราต้องมีหลักฐานที่แน่ชัด” ซอ กล่าว

 “สถานการณ์นี้ เกรงว่าคงหาหลักฐานไม่ทันแน่ แต่ว่าใต้เท้าก็เห็นศพคิมยูนดัลที่ถูกเก็บไว้ที่ศาลไต่สวนนี่ โปรดเชื่อข้าน้อยเถอะค่ะใต้เท้า”

 “ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว  ใต้เท้าอยากจะตรองให้ดีแล้วค่อยตัดสินใจใหม่มั้ย  ถ้าที่นางในคนนั้นพูดมาไม่เป็นจริง ใต้เท้าอาจจะต้องเดือดร้อนก็ได้” ผู้ช่วยซอ กล่าว

 “ข้าเชื่อที่เด็กคนนั้นพูดว่าคิมยูนดัลยังมีชีวิต ที่ข้าเป็นห่วงก็คือ เจ้าหมอนั่น  จะฉวยโอกาสหนีออกจากโชซอนไปก่อน  ส่งภาพคิมยูนดัลออกไปติดทุกหัวเมือง ตรวจท่าเรือในเมืองทั้งหมดอย่างเข้มงวด”

 “ขอรับใต้เท้า”

“มือปราบกองหนึ่งกองสองตามไปเกาะคังฮวา ท่าเรือที่จะข้ามไปถึงต้าชิงได้เร็วที่สุดคือเกาะคังฮวา..เข้าใจรึเปล่า?”

 “ขอรับ”


 

ฮีเจ ขอให้ชอนซูช่วยคุ้มครองยูนดัล ไปที่เกาะคังฮวา พอไปถึงแล้ว จะมีคนมารับจะพาไปที่ท่าเรือยออูน“ท่าเรือยออูน  เป็นเที่ยวเรือเถื่อนที่ไปต้าชิงไม่ใช่เหรอ?” ชอนซู ถาม

“หึๆ แม้แต่เรื่องนี้เจ้าก็ยังรู้ เจ้านี่เป็นคนน่าสงสัยซะจริง ๆ หน้าที่ของเจ้าคือส่งตัวใต้เท้าท่านนี้ไปอย่างปลอดภัย ไปทางที่เร็วที่สุดเพื่อหลบการจับกุมของทหาร”

 “ขอรับ”

 “เอาละ รีบออกเดินทางได้ คงอีกสักระยะ  ข้าจะไปหาท่านที่ต้าชิง” ฮีเจ กล่าว

 “บุญคุณครั้งนี้ ข้าจะไม่มีวันลืมเลย” ยูนดัล กล่าว ชอนซู ไม่รู้ว่าคนที่ฮีเจ ให้ช่วยพาหลบหนี คือ ยูนดัล ที่ทำให้ทงอีเดือดร้อน แต่เมื่อได้รู้ในภายหลังจึงหลอกให้ยูนดัล และลูกน้องไปพบพวกใต้เท้าซอ และลูกน้องที่นำกำลังมาตรวจค้นท่าเรือจนถูกจับตัวได้ในที่สุด


จองซังกุง และทงอี แอบเข้ามาที่ห้องเก็บเอกสารของศาลไต่สวน เพื่อค้นหาจดหมายที่ทูตต้าชิงบอกว่าเป็นจดหมายลาตายของคิมยูนดัล จนเจอ จากนั้นนำไปให้จองอิม ที่มีความสามารถในการแยกแยะจดหมายว่าเป็นจดหมายจริง หรือ จดหมายปลอมตรวจดู จนรู้ว่าเป็นจดหมายปลอมไม่ใช่ลายมือของคิมยูนดัล

 พระเจ้าซุกจงร้อนพระทัยเรื่องทงอี จึงสั่งให้ทหารองครักษ์ไปที่เรือนรับรอง นำตัวทงอีที่ถูกขังกลับมา แต่ข้าหลวงทูลคัดค้าน ระหว่างนั้นใต้เท้าซอ ก็มาขอเข้าเฝ้า นำตัวคิมยูนดัลที่ถูกจับมาถวาย จากนั้นพวกขุนนางก็มาขอเข้าเฝ้า โดยทูลขอให้พระเจ้าซุกจงปล่อยให้ทงอีถูกขังต่อ ขณะเดียวกันทูตต้าชิง ก็มาขอเข้าเฝ้าเพื่อลากลับ

  

“พวกท่าน ยังจะพานางในคนนั้นไปด้วยมั้ย?”

 “ฝ่าบาท นางในคนนั้นได้ออกไปจากเรือนรับรองแล้ว”

 “ออกไปแล้วเหรอ ท่านกักตัวนางไว้ไม่ใช่เหรอ?”

 “นางในคนนั้นมาหากระหม่อม เพื่อขอเวลาให้นางได้ไขปัญหาในคดี และกระหม่อมเชื่อในคำพูดของนาง และได้ปล่อยนางไปจากเรือนรับรองแล้ว”

 “ฮ่า ๆ อย่างนั้นเหรอ พอดีข้ามีของขวัญเตรียมให้ท่านพอดี  เอาตัวมันเข้ามาได้ ท่านจำได้มั้ยว่าเค้าเป็นใคร?”

 “ฝ่าบาทจับมาได้ยังไง..” ทูตต้าชิง ทูล

 “ท่านคงจะเดาออกแต่แรกแล้วละมั้ง”

 “ฝ่าบาท ขอประทานอภัย กระหม่อมก็เพิ่งทราบภายหลัง กระหม่อมจะสอบสวนความผิดของคิมยูนดัลให้ถึงที่สุดแน่พ่ะย่ะค่ะ”

 “คงจะไม่ได้ คนที่ชั่วช้าแบบนี้ ต้องลงโทษด้วยกฎหมายของโชซอน ท่านเสนาฯ”

 “พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”

 “ท่านจัดการคดีนี้ที ตามหาตัวคนผิด ที่จัดฉากว่าคิมยูนดัลตายว่ามันเป็นใคร ต้องสืบให้ถึงที่สุด”

 “พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท” แทซุก กล่าวทูล

 “ท่านทูต  ท่านเป็นคนที่น่ายกย่อง  ยอมเชื่อคำพูดนางในและยังรักษาสัญญา”

 “ทรงชมไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อแทซุกได้รับมอบหมายให้สืบหาคนอยู่เบื้องหลังเรื่องคิมยูนดัล ก็แอบสั่งการลับ ๆ ให้โฮยอนหาทางฆ่าปิดปากคิมยูนดัลก่อนที่ความผิดจะมาถึงตัวเอง

 พระเจ้าซุกจงให้ขันทีไปตามทงอีมาเข้าเฝ้า


 


“ฝ่าบาท”

 “เฮ้อ  รู้มั้ยว่าข้าตกใจแค่ไหน นอนไปครึ่งคืนก็ต้องสะดุ้งตื่น นี่เกิดเรื่องแบบนี้เจ้าควรจะมาหาข้าก่อนสิ ไปที่เรือนรับรองเองได้ไง?”

 “ขอประทานอภัยเพคะ  หม่อมฉันแค่กลัวว่า จะทำให้ฝ่าบาทเดือดร้อนเพราะความจริงยังไม่พิสูจน์”

 “ยังมาพูดอีก เจ้ากล้าลบหลู่พระบัญชาของข้าเชียวรึ ข้าบอกให้เจ้าทำเหมือนข้าเป็นผู้ช่วยผู้ว่า เพราะฉะนั้น  เจ้าควรจะมาหาข้า  ไม่ใช่ไปหาผู้บัญชาการซอ”

 “แต่ว่า ฝ่าบาทยังไงก็ยังเป็นฝ่าบาทนี่ หม่อมฉันจะเห็นเป็นท่านผู้ช่วยผู้ว่าได้ยังไง เรื่องนี้คงจะเป็นไปไม่ได้เพคะ”

 “ฮึ้ย  ไม่ได้  ยากแค่ไหนก็ต้องทำ เจ้าต้องทำตามราชโองการข้า  เจ้าเป็นนางในเป็นประชาชนข้า  ถ้าเจ้ากล้าขัดคำสั่งของข้าอีก ข้าจะลงโทษเจ้าตามกฎหมายแล้ว”

 “หา แต่จะทำได้ไงเล่า”

 “ใช่แล้ว ข้าอยากให้ทำแบบนี้แหละ เงยหน้าขึ้นมามองหน้าข้าตรงๆ สิ”

 “ฝ่าบาท ได้ยังไง”

 “เจ้าคนนี้นี่ ข้าบอกให้เงยหน้าขึ้นมาใช่เงยอีกๆ ถูกแล้ว อย่างนี้แหละดี เห็นมั้ย แค่นี้ก็ดีขึ้นตั้งเยอะ เจ้าทำให้ข้าตกใจ จนหัวใจยังเต้นอย่างกับมีม้าเป็นร้อยมาวิ่งแน่ะ อย่างนั้นแหละๆเฮ้อ ข้าละเชื่อเลย ข้าบอกให้เจ้าเงยหน้าขึ้นไง แบบนั้นแหละ”

พระเจ้าซุกจงตรัส โดยที่ไม่รู้ว่า อ๊กจอง และนางในแอบยืนดูอยู่ เมื่อเห็นทั้งสองสนิทกันก็รู้สึกกังวลขึ้นมา

เมื่อฮีเจรู้เรื่องที่คิมยูนดัลถูกจับก็ไม่พอใจสั่งให้ซูเทคไปสืบจนรู้ว่าฝ่าบาทรับสั่งให้ท่านเสนาไต่สวนคิมยูนดัลด้วยตัวเอง

 “ตอนนี้คิมยูนดัลอยู่ที่ไหนล่ะ?”

 “ถูกคุมตัวไปศาลไต่สวนแล้วขอรับ”

 “ไม่ได้การข้าต้องไปคุยกับท่านเสนาบดีด้วยตัวเอง  นี่เจ้า เจ้ายังไม่ตายรึ  นี่เจ้าถึงกับกล้ามาข่มขู่ข้าเชียวรึ?”


“นี่ไม่ใช่ข่มขู่ แต่ว่าเป็นข้อเสนอ” ชอนซู เข้ามา

 “ถึงจะรู้แต่แรกว่าเจ้าไม่ธรรมดา แต่ก็นึกไม่ถึงว่าจะร้ายกาจขนาดนี้”

 “ตอนแรกข้าคิดว่า ใต้เท้าจะชื่นชมที่ข้ามีด้านนี้ซะอีก”

 “ใช่แล้ว ตอนแรกก็รู้สึก แต่หลังจากถูกเจ้าขัดขาครั้งนึง ชักจะเริ่มหนาวแล้ว ถ้าข้าไม่ยอมรับข้อเสนอ เจ้าจะไปแจ้งจับข้าใช่มั้ย?”

 “แจ้งจับน่ะเหรอ ข้าจะทำได้ยังไง  เหมือนกับที่ใต้เท้าต้องการข้า ข้าเองก็ต้องการท่าน ข้าไม่สนใจหรอกว่าท่านจะทำผิดอะไร ข้าสนแต่สิ่งที่ข้าต้องการเท่านั้น  ซึ่งต้องได้ท่านมาช่วยด้วย”

 “เจ้าจับจุดอ่อนของข้าเอาไว้ หลอกใช้เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ?” ฮีเจ กล่าว

พระเจ้าซุกจง เล่นหมากล้อมกับอ๊กจอง นางจึงถือโอกาสทูลถามว่าพระเจ้าซุกจงชอบทงอีมั้ย พระเจ้าซุกจง รับสั่งว่า นางเป็นเด็กที่น่าสนใจ


“จริงหรือเพคะ”

 “จริงสิ เป็นอย่างนั้นแหละ แต่ดูเจ้าสิอ๊กจองหรือว่า เจ้าเกิดหึงเข้าซะแล้ว ฮะ ๆ ๆ ที่แท้เจ้าก็มีด้านนี้ด้วย  นึกไม่ถึงจริง ๆ”

 “เพคะ หม่อมฉันก็รู้สึกแปลกใจ  หม่อมฉันไม่เคยคิดว่าจะมีวันที่ต้องถามแบบนี้ เพราะหม่อมฉันเข้าใจมาตลอดว่า ตัวเองไม่เหมือนกับผู้หญิงใจแคบขี้หึงคนอื่น ๆ ดูเหมือนว่าที่จริงแล้ว โลกไม่มีอะไรแน่นอน อย่ามั่นใจตัวเองมากจนเกินไปเพคะ เพราะฉะนั้นฝ่าบาทเอง ก็อย่าเพิ่งมั่นพระทัยจนเกินไปเลยเพคะ”

 “อ๊กจอง”

 พระเจ้าซุกจง รับสั่งให้แทพุงเข้าเฝ้า ให้ช่วยเตรียมงานเลี้ยงง่าย ๆ ที่สวนด้านหลังเรือนชีซอน แต่ให้เตรียมการเป็นความลับไม่ให้จางซังกุงรู้ และระบุชื่อนักดนตรีสองคนคือจูซิกและยังดัล

 ซังกุงสูงสุด เรียกทงอีเข้าพบ แจ้งให้นางเข้าร่วมงานเลี้ยงที่สวนหลังเรือนชีซอนครั้งนี้ด้วย ด้านพระพันปีมองซอง เรียกพระมเหสีอินฮอนเข้าเฝ้า ตรัสกับพระมเหสีเรื่องข่าวที่ฝ่าบาทอาจแต่งตั้งเรือนชีซอนเป็นพระสนม นางจะไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้น ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่

 พระเจ้าซุกจงเสด็จมาหาอ๊กจอง แล้วพานางไปงานเลี้ยง

  
 “นี่เป็นของขวัญที่ข้าเตรียมไว้ให้ เจ้าซาบซึ้งตอนนี้ยังเร็วไป ฮะ ๆ เป็นยังไง เจ้าชอบรึเปล่า”

 “เพคะฝ่าบาท”

 “ฮะ ๆ ๆ ข้ายังกลัวอยู่เลยว่าใจเจ้าจะทำจากน้ำแข็งรึเปล่า?”

 “ฝ่าบาท อย่าล้อหม่อมฉันอย่างนี้สิเพคะ”

 “ฮะ ๆ ล้อเล่นน่า ล้อเล่น ฮะ ๆ อ้อ ข้าเรียกเด็กคนนั้นมา เพราะอยากให้เจ้ามอบรางวัลให้นางด้วยตัวเอง”

 “เพคะฝ่าบาท สร้างวีรกรรมอีกแล้วสิข้าภูมิใจมากที่เสนอให้เจ้าไปอยู่ฝ่ายตรวจการ” อ๊กจอง กล่าว

 “ชมเกินไปแล้วค่ะท่านซังกุง” ทงอี กล่าว

 “นั่งลงก่อนสิ”

 “มัวทำอะไรกันอยู่ รีบบรรเลงเพลงได้แล้ว  อ้อ เดี๋ยวก่อน  พวกเจ้าก็มาด้วยนี่  ฮะ ๆ ๆ ข้าได้เตรียมอาหารไว้ให้พวกเจ้าเป็นพิเศษด้วย เตรียมไว้พร้อมรึยัง?”

 “เพคะฝ่าบาท อาหารที่ปรุงจากหนังหมูเพคะ”

 “ฮะ ๆ ๆ เป็นหนังหมูด้วยนะ”

 “ฝ่าบาท โปรดประหารกระหม่อมด้วย” ยังดัล ทูล

 “อะไรของเจ้า วันดีแบบนี้ พูดอะไรไม่เป็นมงคลออกมา  กินให้เต็มที่เลย ฮะ ๆ ๆ แต่ก่อนจะเริ่มบรรเลง ข้าจะให้ของขวัญที่แท้จริงกับเจ้า ข้าจะแต่งตั้งเจ้าเป็นพระสนมในวังหลัง”
  

 “เป็นพระกรุณาธิคุณยิ่งเพคะ”

 “ฝ่าบาท” อ๊กจอง ตกใจ


* ข้อมูลจากเดลินิวส์ / ภาพ captures จากละครเอ็มบีซี


หมายเหตุ: ละคร "ทงอี จอมนางคู่บัลลังก์" ถูกนำกลับมาฉายใหม่อีกครั้ง ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.00-13.00 น. และ 19.15-20.15 น. ทางช่อง 3 แฟมิลี่  (ยกเว้นเย็นวันศุกร์ สามารถรับชมได้ในเวลา 19.00 - 20.00น.) ออกอากาศตอนแรก วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม 2558

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา